เลือกตั้งและการเมือง

‘เด็จพี่’ กัดไม่ปล่อย! หอบหลักฐานการลา ‘บิ๊กป้อม’ ร้อง ปธ.สภาฯ เข้าข่ายจงใจขาดประชุมหรือไม่

โดย chutikan_o

25 ก.ย. 2567

163 views

‘เด็จพี่’ หอบหลักฐานการลาประชุมสภา ‘บิ๊กป้อม’ ร้อง ‘วันนอร์’ เข้าข่ายจงใจขาดประชุม โดยลาเป็นฉากบังหน้าหรือไม่ ถามลาไปเชียร์วอลเลย์บอล-เปิดบ้านป่าให้คนเข้าแฮปปี้เบิร์ดเดย์ เป็นเหตุสุดวิสัยหรือไม่


วันที่ 25 ก.ย. 2567 นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นหนังสือพร้อมหลักฐานให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อสอบจริยธรรม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กรณีไม่มาประชุมสภาฯ โดยใช้เวลาแถลงและสัมภาษณ์รวม 35 นาที


นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า การมายื่นขอให้ตรวจสอบวันลา มาขาดของ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้มีอคติ หรือมีเจตนาจะใส่ร้ายป้ายสี แต่พฤติกรรมเช่นนี้ถือว่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติหน้าที่ สส. ซึ่งกินเงินเดือนจากภาษีประชาชน จึงขอใช้สิทธิตาม รัฐธรรมนูญมาตรา 40(2) ออกมาปกป้องผลประโยชน์ของรัฐยื่นตรวจสอบการทำหน้าที่ สส.ของพล.อ.ประวิตร ว่าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับของสภา รวมถึงการปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่หรือไม่


นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า จากข้อมูลวันลา มา ขาดในการเข้าประชุมสภาที่ได้มาจากสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.66 จนถึงปัจจุบัน พบว่า พล.อ.ประวิตร ลงชื่อมาประชุมโดยใช้บัตรลงทะเบียน 11 ครั้ง ลาป่วย 1 ครั้ง ลากิจ 83 ครั้ง รวมวันขาดประชุมโดยน่าจะใช้การลาเป็นฉากบังหน้าทั้งหมด 84 ครั้ง จากวันประชุมรวม 95 ครั้ง ที่สำคัญมีอยู่หนึ่งสมัยประชุม พล.อ.ประวิตร ลาทั้งสมัยประชุมฯ ครบ 100 เปอร์เซนต์ โดยอ้างเหตุผล "ติดภารกิจ" ซึ่งการลาแบบนี้น่าจะถือเป็นการลาที่น่าจะมีเจตนาพิเศษ น่าจะเป็นการจงใจขาดประชุมโดยใช้ "การลาเป็นฉากบังหน้า" และน่าจะมีการใช้อำนาจแทรกแซงเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อดำเนินการอย่างเป็นระบบ เป็นการกระทำที่ขัดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ว่าสส.จะขาดประชุมได้ไม่เกิน 1 ใน 4 ของจำนวนวันประชุมในสมัยประชุมและข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของ สส. ที่ระบุว่า สส.ต้องอุทิศเวลาให้กับการประชุม ต้องไม่ขาดการประชุมโดยไม่จำเป็น เว้นแต่เจ็บป่วยหรือมีเหตุสุดวิสัย


“ผมพบข้อมูลว่าในวันที่ พล.อ.ประวิตร แจ้งลาติดภารกิจ ไม่เข้าประชุมสภา บางวันก็ไปนั่งเชียร์วอลเลย์บอลผ่านออนไลน์ เปิดบ้านป่ารอยต่อให้คนไปอวยพรวันเกิด ผมขอถามหน่อยว่าอวยพรตอนกลางคืนไม่ได้หรอ และอีกหลายๆ วันก็พบว่าลาเพื่อไปประชุมพรรค แบบนี้เขาเรียกว่าเหตุสุดวิสัยหรือไม่ ที่สำคัญการขาดประชุมโดยใช้การลาน่าจะเป็นฉากบังหน้า ลาติดต่อกันทั้งสมัยประชุมฯ ถือได้ว่า พล.อ.ประวิตร ขาดสมาชิกภาพการเป็น สส.แล้ว ผมหวังว่ากรรมการจริยธรรมฯ จะตรวจสอบเรื่องนี้แบบตรงไปตรงมา ไม่ช่วยเหลือให้พ้นผิดจนเสียเกียรติภูมิของสภาฯ” นายพร้อมพงศ์กล่าว




นายพร้อมพงศ์ กล่าวด้วยว่า ยิ่งในวันที่ลงชื่อมาประชุม ยิ่งน่าสงสัย เพราะจากการตรวจสอบกับเพื่อน สส.หลายคน รวมถึงคนระดับประธานวิปรัฐบาล พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยเห็น พล.อ.ประวิตร มาอยู่ในห้องประชุมเลย แต่กลับมีคนเห็นลับๆ ล่อๆ ที่ห้องหลังบัลลังก์ประธานสภาในบางครั้ง


“ผมทราบจากแหล่งข่าวว่าการมาประชุมสภาของ พล.อ.ประวิตรเป็นเหมือนเหยี่ยวคือ โฉบรถมาเซ็นต์ชื่อชนิดที่ไม่ต้องลงจากรถจริงหรือไม่ แถมมีคนเอาบัตรประจำตัว สส.ไปสแกนให้จริงหรือไม่ ซึ่งผมขอตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ก็อาจจะเป็น สส.คนใดคนหนึ่งเพราะในจุดที่สแกนบัตร คนนอกไม่สามารถเข้าไปได้เข้าข่ายความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184 ซึ่งผมจะไปยื่นเรื่องขอให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ช่วยตรวจสอบ ค้นหาความจริงเรื่องนี้ในวันศุกร์นี้” นายพร้อมพงศ์กล่าว





นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า การที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่าตนเองไม่มีอะไรมาตรวจ พวกตนเป็นยามเฝ้าสภาฯหรืออย่างไรถึงมาตรวจสอบการทำหน้าที่ของ พล.อ.ประวิตร ซึ่งตนไม่ได้เป็นยาม เพราะสภาฯมีระบบในการตรวจสอบอยู่แล้ว

“ผมขอเรียกร้องและวิงวอน ถ้าลาแบบนี้ ลาโดยใช้วิธีพิเศษที่น่าจะไม่เป็นวิธีการปกติทางกฎหมาย ลาออกเถอะ ลาออกจากความเป็น สส. แล้วเลื่อนคนรุ่นใหม่ที่อยู่ในลำดับถัดไปให้มาทำหน้าที่ เพื่อให้ฝ่ายนิติบัญญัติสง่างาม” นายพร้อมพงศ์กล่าวและว่า อยากให้ท่านออกมาแถลง อย่ามาตอบโต้หรืออย่ามาฟ้องพวกตน เสียเวลา ฟ้องมาฟ้องกลับ ไม่กลัวอยู่แล้ว พร้อมที่จะปกป้องหากประชาชนเสียผลประโยชน์

“ที่นายไพบูลย์บอกจะฟ้องผม รีบด้วยนะครับ เพราะฟ้องมาผมจะฟ้องกลับ แจ้งความเมื่อไหร่ ผมจะแจ้งความกลับวันนั้น และจะแจ้งพล.ประวิตรด้วย เพราะมอบหมายมาในข้อหาแจ้งเท็จ รวมถึงเรื่องหมิ่นประมาทด้วย” นายพร้อมพงศ์กล่าว

คุณอาจสนใจ

Related News