‘สมศักดิ์’ สั่ง ยกระดับสาธารณสุข รอรับน้ำโขงท่วม กำชับ เตรียมยา-เวชภัณฑ์ ให้เพียงพอ พร้อมบูรณาการทุกฝ่าย ช่วยเคลื่อนย้ายกลุ่มเปราะบาง

วันนี้ (13 ก.ย.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังจากที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประกาศเตือนจังหวัดริมแม่น้ำโขง รับมือน้ำเพิ่มสูงขึ้น ช่วง 12-16 ก.ย.นี้ ตนก็ได้สั่งการอย่างเร่งด่วน ให้สาธารณสุขทุกจังหวัด รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ เตรียมพร้อมรับมือตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดแล้ว เพื่อพร้อมเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วน ซึ่งตน ยังได้เน้นย้ำให้กระทรวงสาธารณสุข ยกระดับมาตรการก่อนที่อุทกภัยจะเกิดขึ้นด้วย รวมถึงให้เตรียมยาและเวชภัณฑ์ ให้เพียงพอต่อความต้องการ ส่วนการเข้าช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียง ก็ขอให้บูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้เข้าเคลื่อนย้ายได้อย่างรวดเร็ว และเป็นระบบ โดยอย่าปล่อยให้กลุ่มเปราะบาง ต้องหนีน้ำขึ้นบนหลังคาตามลำพัง เพราะอาจจะเสี่ยงได้รับบาดเจ็บและป่วยได้

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ ตนได้รับรายงานจากสาธารณสุขจังหวัด ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เช่น จังหวัดมุกดาหาร โดยสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร ได้มีการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัยแล้ว ซึ่งได้มีการแจ้งทุกโรงพยาบาลเตรียมยาเวชภัณฑ์ สำหรับส่งให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เตรียมเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง เตรียมชุดยาสามัญประจำบ้าน ไว้แจกผู้ประสบภัย 1,000 ชุด และเตรียมทีม SRRT จำนวน 15 ทีม ส่วนสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ก็ได้เตรียมระบบการ Refer ผู้ป่วย ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ มีการจัดเตรียมยาชุดผู้ประสบภัยน้ำท่วม 600 ชุด รวมถึงสำรองเวชภัณฑ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วย โดยเฉพาะกลุ่มโรคเรื้อรัง ที่ต้องมียาเพียงพออย่างน้อย 2-3 เดือน นอกจากนี้ ยังได้มีการเตรียมตั้งจุดให้บริการชั่วคราวด้วย

“ผมยังได้กำชับให้สาธารณสุขทุกจังหวัด เตรียมเวชภัณฑ์ด้านการควบคุมป้องกันโรค เช่น ยารักษาน้ำกัดเท้า ยารักษาโรคฉี่หนู ยารักษาเชื้อรา รวมถึงให้จัดระบบเฝ้าระวังโรคในจุดอพยพด้วย เช่น ไข้เลือดออก เลปโตสไปโรซีส ตาแดง ไข้หวัดใหญ่ นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำ ให้มีการจัดทำฐานข้อมูลผู้ป่วยเรื้อรัง ติดบ้าน ติดเตียง เพื่อเตรียมความพร้อมการขนย้ายผู้ป่วยติดบ้าน/ติดเตียง ออกมาศูนย์พักพิง ส่วนการดูแลด้านจิตใจ ก็ขอให้จัดเตรียมทีม MCATT เพื่อดำเนินการคัดกรองกลุ่มเสี่ยง และส่งต่อผู้มีภาวะทางจิตใจ รวมถึงการดูแลผู้ประสบภัย เพื่อป้องกันภาวะเครียดด้วย” รมว.สาธารณสุข กล่าว