เลือกตั้งและการเมือง

'ธรรมนัส' โอด กระทรวงเกษตรฯ งบ จำกัด ยันต้องเร่งแก้ปัญหาของเกษตรกร

โดย chawalwit_m

21 มิ.ย. 2567

56 views

'ธรรมนัส' โอดกระทรวงเกษตรฯ งบ จำกัด ยัน เร่งแก้ปัญหาของพี่น้องชาวเกษตรกร ชี้ สภาพสังคมเปลี่ยนแปลง จะแก้ปัญหาแบบ “ตัดเสื้อโหล” ไม่ได้ เผยมีกำหนดการไปลงนามบันทึกข้อตกลงส่งออกโคเนื้อกับซาอุดิอาระเบีย คาด ไม่เกิน 3 เดือนเริ่มส่งออก


วันที่ 21 มิ.ย. 2567 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่สอง สมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม


ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลุกขึ้นชี้แจงว่า งบประมาณของกระทรวงเพื่อดูแลประชากรทั้งสิ้น 30 ล้านคน แต่ได้งบประมาณ 125,882.1283 ล้านบาท ภายใต้ข้อข้อกำจัด ของงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งต้องยอมรับว่าเรามีงบประมาณเท่านี้ จึงทำต้องแบ่งคัดสรร ต้องแก้ปัญหาให้ตรงจุด


เราต้องดูภาพปัญหาเกษตรกรส่วนใหญ่คืออะไรเพื่อนำปัญหาเหล่านั้น มาวางเพื่อของบประมาณ แต่ด้วยกรอบระยะเวลา ไม่สามารถใส่ในแผนของหน่วยงานหลักที่ดูแลเรื่องน้ำได้ กรมชลประธานถือเป็นหน่วยงานผู้ปฏิบัติ ในการนำนโยบายการบริหารจัดการน้ำไปปฏิบัติในพื้นที่ ซึ่งประเทศไทยมีพื้นที่เพียง 60.29 ล้านไร่ ที่เหมาะสมกับการเป็นพื้นที่ชลประธาน


ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวต่อว่า ต้องแก้ไขกฎหมายก่อน เพื่อให้เข้ากับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปจึงต้องแบ่งเกษตรกรเป็นกลุ่ม ๆ จะใส่ไปแบบเหมารวมหรือตัดเสื้อโหลไม่ได้เด็ดขาด พี่น้องเกษตรกรที่มีความเข้มแข็งต้องส่งเสริมให้สร้างสินค้าการเกษตรที่มีคุณภาพ และส่งเสริมการส่งออกโดยไม่ต้องพึ่งพาภาครัฐ รัฐอำนวยความสะดวกในเรื่องการส่งออก ส่วนเกษตรกรที่มีความเข้มแข็งปานกลาง ส่งเสริมการใช้นวัตกรรมการแปรรูป และต้องมีตลาดที่นำสินค้าไปขาย และต้องยอมรับว่า ความแปรปรวนทางสภาพอากาศ ส่งผลต่อเกษตรกรกลุ่มเปราะบาง ต้องจำแนกกลุ่มนี้ออก และไปส่งเสริมให้ฟื้นฟูทำการเกษตรในระดับกลางให้ได้


ภาคการเกษตรมีปัญหามากมายที่สั่งสมมาเป็นระยะเวลายาวนาน รัฐบาลที่แล้วพยายามแก้ไข แต่แก้ไม่ได้ โดยรัฐบาลนี้ใช้เวลาไม่กี่เดือนก็สามารถปรับราคาสินค้าเกษตรให้สูงขึ้นได้ ราคาข้าวก็ดีขึ้น ราคายางพาราก็ดีขึ้น ซึ่งเป็นความหวังของคนไทย


ส่วนกำหนดการข้อตกลงส่งออกโคเนื้อกับซาอุดิอาระเบียนั้น ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า การส่งออกโคเนื้อไปประเทศซาอุดิอาระเบียสำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยตอบรับการนำเข้าโคเนื้อไปได้ ซึ่งกำลังหารือว่าส่งทางเรือ จะต้องมีขั้นตอนอะไรบ้าง ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายแล้ว และตนเองก็มีกำหนดการเดินทางไปที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย เพื่อไปบันทึกข้อตกลงในด้านนั้น จะใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือน เราจะสามารถส่งโคมีชีวิตไปยังประเทศตะวันออกกลาง โดยเริ่มต้นที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย รวมถึงมีการขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านเกี่ยวกับโคเนื้อ ทั้งเวียดนาม มาเลเซีย ลาว และกัมพูชา โดยได้รับความร่วมมือจากกรมศุลกากร ให้ขยายเวลาในการเปิดด่านเพื่อส่งสินค้า


งบประมาณในการจัดซื้อวัคซีนที่ใช้ในภาคปศุสัตว์มี 2 ประเภท คือ เชื้อเป็น กับเชื้อตาย ที่เราจัดตั้งการของงบประมาณที่ซื้อวัคซีนเชื้อเป็นจากต่างประเทศขอไป 5 ล้านโดส แต่ได้รับเพียง 2 ล้านกว่าโดส เมื่อเห็นว่างบประมาณมีจำนวนจำกัด เราก็น้อมรับ เพื่อทำให้สัตว์ปลอดโรค และขณะนี้เรากำลังพัฒนาวัคซีนแบบเชื้อเป็นในประเทศ


ส่วนจำนวนโคผู้เลี้ยงโคนมลดลงเกิดจากปัญหาโรคปากเปื่อยเท้าเปื่อย ทำให้พี่น้องเกษตรกรกลุ่มที่ยังไม่แข็งแรง ล้มเลิก เนื่องจากการติดเชื้อเหล่านี้ เป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดที่แล้ว ซึ่งเราจะต้องกำจัดปัญหาเหล่านี้ให้สิ้นซาก



"เราจะสร้างความเข้มแข็งโดยเพิ่มรายได้ภายในปี 70 ให้เป็น 3 เท่า ตามที่รัฐบาลได้วางเป้าเอาไว้ ภายใต้รัฐบาลที่ขับเคลื่อน และภายใต้การตรวจสอบของฝ่ายค้านเป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องทำงานแบบไตร่ตรองให้ดี ทำงานให้จริงจัง ใส่ใจต่อพี่น้องเกษตรกร" ร้อยเอกธรรมนัส กล่าว

คุณอาจสนใจ

Related News