เลือกตั้งและการเมือง
'หมออ๋อง' แจงงบ 1.3 ล้าน พาคณะดูงานสิงคโปร์ ยันทำตามระเบียบ ยินดีให้ตรวจสอบ
18 ก.ย. 2566
196 views
'หมออ๋อง' แจงงบ 1.3 ล้าน ดูงานสิงคโปร์ ต่อยอดนโยบายสภาโปร่งใส ยืนยันทำตามระเบียบกระทรวงการคลัง ใครจะตรวจสอบก็ยินดีแสดงใบเสร็จ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการ ‘กรรมกรข่าว คุยนอกจอ’ ในวันที่ 18 กันยายน 2566 ถึงกรณีที่มีเอกสารที่ระบุว่าจะไปเยือนสิงคโปร์ พร้อม สส. ก้าวไกล 5 คน และ สส. เพื่อไทย 1 คน โดยใช้งบประมาณ 1.3 ล้านบาท
นายปดิพัทธ์ระบุว่า ยินดีให้ตรวจสอบ ตามนโยบายสภาโปร่งใส การไปดูงานที่สิงคโปร์ เป็นการต่อยอดจากคณะกรรมการขับเคลื่อนสภาโปร่งใสประสิทธิภาพสูงที่ตนเองเป็นคนตั้ง ซึ่งในเอเชีย สภาที่มีประสิทธิภาพสูงมีอยู่ 2 ที่ คือไต้หวัน และสิงคโปร์ แต่ไม่สามารถไปเยือนไต้หวันได้ เพราะนโยบาย One China จึงเป็นสิงคโปร์
นายปดิพัทธ์เสริมว่า การไปเยือนสิงคโปร์มี 2 โจทย์ที่จะไปดูคือ SMART Parliament เพราะสิงคโปร์มีระบบรัฐสภาที่ต่างออกไป มีสมาชิกน้อยกว่า แต่มีเทคโนโลยีที่สูงกว่า กับการจัดการปัญหาหมอกควัน เพราะ 10 ปีที่ผ่านมา สิงคโปร์มีปัญหาหมอกควันหนักกว่าไทย แต่สามารถลดลงได้ ด้วยมาตรการหลายอย่าง ซึ่งในเดือนพฤศจิกายน นายปดิพัทธ์ จะไปพบกับ ‘สภาลมหายใจเชียงใหม่’ จึงต้องการรีบกลับไปดูโมเดลต่าง ๆ เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
นายปดิพัทธ์ยืนยันว่าการไปเยือนในครั้งนี้ เป็นการติดต่อไปเอง เพราะต้องการไปดูงานในส่วนที่ยังขาดอยู่บ้าง และทางสิงคโปร์ก็ตอบรับเป็นอย่างดี ยินดีให้ไปร่วมดู รวมถึงการจะเข้าไปดูงานที่ Government Technology Agency ของสิงคโปร์ ปกติแล้วจะไม่สามารถเข้าไปดูได้ จึงต้องทำเรื่องติดต่อไปอย่างเป็นทางการ
สิ่งที่นายปดิพัทธ์จะปฏิบัติคือ จะไม่ยกเลิกการดูงานทั้งหมด แต่จะดูงานเท่าที่จำเป็น และดูงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ประเด็นที่ต้องนั่งเครื่องบินของการบินไทย นายปดิพัทธ์ชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้ตนเองต้องการให้เดินทางด้วยสายการบิน Low Cost เพราะเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง จึงให้เจ้าหน้าที่ไปดูแนวทาง แต่เจ้าหน้าที่ระบุว่า ต้องเป็นไปตามระเบียบขั้นตอนของกระทรวงการคลัง ที่ระบุให้รัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ รวมทั้งประธานสภา ต้องเดินทางด้วยสายการบินประจำชาติ เพื่อให้เดินทางอย่างปลอดภัย
ส่วนงบประมาณ นายปดิพัทธ์จะพยายามคุมทุกอย่างให้ถูกลงที่สุด เพราะสัมภาระไม่เยอะ รวมถึงค่าที่พัก ที่ระบุไว้ให้สำหรับโรงแรมคืนละ 12,500 บาท ก็จะพยายามให้เหลือเพียงคืนละ 7,000 - 8,000 บาท แต่งบประมาณที่เบิก ก็ต้องเป็นไปอย่างเต็มที่ หรือ Maximum ตามที่ระบุในระเบียบของกระทรวงการคลัง
นอกจากนี้ ที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์มาว่า ทำไมถึงเป็น สส. ก้าวไกลเยอะ นายปดิพัทธ์กล่าวว่า เป็นเพราะคณะกรรมการชุดนี้ ไม่ใช่กรรมาธิการที่มีสัดส่วนของแต่ละพรรคอย่างชัดเจน แต่เป็นคณะทำงานที่ตนเองตั้งขึ้นมา ซึ่งตอนที่กำลังจะตั้ง ได้ประกาศไปในสภาแล้วว่า พรรคที่สนใจให้ส่งรายชื่อเข้ามา ซึ่งปรากฏว่า ไม่มีรายชื่อถูกส่งเข้ามาแต่อย่างใด
นายปดิพัทธ์ระบุเพิ่มเติมว่า การเดินทางไปดูงานในครั้งนี้ ได้เชิญผู้ที่สนใจที่จะพัฒนากิจการของสภาจากทางฝั่งรัฐบาลด้วย ซึ่งได้ติดต่อไปยังพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย ให้ส่งรายชื่อเข้ามา พรรคละ 2 คน ซึ่งพรรคเพื่อไทยส่งชื่อ นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ และนายพชร จันทรรวงทองเข้ามา แต่ทางพรรคภูมิใจไทย ส่งรายชื่อไม่ทัน สำหรับ สส. ก้าวไกลที่ไปด้วยกัน แต่ละคนก็มีภารกิจกันทั้งสิ้น โดยเฉพาะนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง SMART Parliament โดยตรง และมีความรู้ด้านเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก ส่วนนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร เป็นประธานของอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องกับ Young Parliament
นายปดิพัทธ์ย้ำว่า ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ของพรรคก้าวไกล และเมื่อเดินทางกลับมา จะสรุปค่าใช้จ่ายให้เรียบร้อยว่าใช้อะไรไปบ้าง ซึ่งถ้าใครต้องการตรวจสอบ ก็ยินดีที่จะเปิดเผย
นอกจากการไปเพื่อดูงานที่รัฐสภาของสิงคโปร์ การไปเยือนสิงคโปร์ครั้งนี้ นายปดิพัทธ์เปิดเผยว่า จะไปพบกับกลุ่มคนไทยอีก 2 กลุ่ม คือ แรงงานไทยในสิงคโปร์ เพื่อพูดคุยเรื่องอัตราการจ้างงาน และตัวแทนของนักศึกษาไทย ที่กำลังศึกษาอยู่ที่ National University of Singapore เพื่อพูดคุยเรื่องการเข้าไปศึกษา
นายปดิพัทธ์เสริมว่า การที่สภากับรัฐบาลมีนโยบายที่ใกล้เคียงกัน การออกกฎหมาย และการดำเนินนโยบาย ก็จะใกล้เคียงกันไปด้วย เพราะฉะนั้นการทำงานอย่างคู่ขนาน จะช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ แม้กระทั่งปัญหาระดับโลก อย่างเป็นเอกภาพได้ การไปดูงานที่สิงคโปร์จึงจะทำให้ได้เห็นว่า ประสิทธิภาพเกิดขึ้นได้อย่างไร เมื่อไปดูงานกลับมาแล้ว นายปดิพัทธ์จะส่งรายงานไปยังรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และอาจเผยแพร่ต่อสาธารณะด้วย
สำหรับประเด็นการวิพากษ์วิจารณ์ นายปดิพัทธ์ระบุว่า เป็นความตั้งใจอยู่แล้วที่จะทำสภาโปร่งใส พร้อมโดนตรวจสอบ เปิดเผยได้หมด การวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้นจึงควรที่จะไปไกลกว่าวิพากษ์วิจารณ์มายังตนเอง แต่ควรดูว่า ระเบียบของกระทรวงการคลังมันโบราณหรือเปล่า เอกสารที่เปิดเผยออกมา ไม่ใช่เอกสารที่เป็นชั้นความลับ ยังไงก็เผยแพร่ได้ เพราะทำทุกอย่างแบบตรงไปตรงมา
การเปิดเผยเอกสารต่าง ๆ นายปดิพัทธ์มองว่า อะไรเปิดได้ เปิดก่อนเลย เช่น รายงานการประชุม ไปดูงานอะไรมา งบประมาณที่ใช้ ทั้งหมดควรจะอยู่บนเว็บไซต์ ส่วนคนที่ไม่ยอมเปิด ก็ต้องตอบคำถามสังคมเอง
การเดินทางไปเยือนสิงคโปร์ในครั้งนี้ ซึ่งเดินทางในวันที่ 21 - 24 กันยายน 2566 นายปดิพัทธ์บอกว่า พร้อมแสดงใบเสร็จ การวางแผนการเดินทางค่อนข้างยาก เพราะติดประชุมสภา จึงสามารถดูงานกับภาครัฐได้เพียงวันศุกร์และวันจันทร์ ส่วนวันเสาร์และวันอาทิตย์ ได้ติดต่อภาคเอกชนต่าง ๆ เช่น บริษัทที่ทำจุดเติมพลังงานให้รถพลังงานไฟฟ้า และตู้สลับแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ รวมถึงภาคประชาสังคม ซึ่งได้รับความช่วยเหลือด้านการประสานงานจากทางสถานทูต