เลือกตั้งและการเมือง

‘วิโรจน์’ ซัดผู้การฯ ชลบุรี เรียกรับสินบน 140 ล้านบาท ถามเป้รักผู้การมากี่ครั้งแล้ว?

โดย chutikan_o

18 มิ.ย. 2566

112 views

‘วิโรจน์’ ซัดผู้การฯ ชลบุรี เรียกรับสินบน 140 ล้านบาท ถาม “เป้รักผู้การมากี่ครั้ง แล้วผู้การฯ ไปรักคนอื่นต่อหรือไม่” จี้ขยายผลมีตัวใหญ่เบื้องหลัง

เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2566 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เรียกรับเงิน 140 ล้านบาทว่า เป็นเรื่องที่จะต้องมีการสืบสวนสอบสวนต่อ ซึ่งทราบว่า ขณะนี้ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบแล้ว แต่เรื่องนี้ปล่อยให้เงียบไม่ได้ เนื่องจากเงินที่เรียกรับจำนวนสูงถึง 140 ล้านบาท ซึ่งต้องสอบสวนให้ชัดว่า การเรียกรับจริงหรือไม่ และถ้าจริงต้องถามว่า “เป้รักผู้การฯ มากี่ครั้งแล้ว” และ “มีคนอื่นที่รักผู้การฯ ด้วยหรือไม่” รวมทั้ง “ผู้การฯ คือรักสุดท้ายของเป้หรือไม่” หรือ “ผู้การฯ ไปรักคนอื่นต่อหรือเปล่า”

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ที่ผ่านไม่นานมานี้ ก็พบมีตำรวจในระดับบังคับบัญชา มีภาพปรากฎหิ้วกระเช้า ไปอวยพร แสดงความยินดี จึงต้องขยายผลต่อไปว่า เป้รักผู้การฯ แล้วผู้การฯ ไปรักใครต่อหรือต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่พฤติการณ์ดังกล่าวถือว่า หนักมาก เข้าข่ายผิดกฎหมายการเรียกรับสิน มาตรา 143 และมาตรา 149 รวมทั้งมาตรา 157 ละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริต

“กรณีที่เกิดขึ้น สาเหตุมาจากระบบตั๋ว ระบบวิ่งเต้น เพราะตำรวจในระดับผู้การบางคน เข้ามาด้วยระบบซื้อขายตำแหน่งก็มีต้นทุน ซึ่งเมื่อมาเข้ารับตำแหน่งแทนที่จะมาเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข วางแผนปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่ แต่กลับมาซ่องสุม ไม่ต่างจากอั้งยี่ ซ่องโจร สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน จึงเสนอให้สอบสวนขยายผลว่าพัวพันกับมาเฟียในท้องถิ่น และมาเฟียกลุ่มจีนสีเทา รวมทั้งมาเฟียต่างชาติหรือไม่ เนื่องจากเว็บพนัน การค้ามนุษย์ และยาเสพติดนั้นพัวพันกับขบวนการมาเฟียต่างชาติ” นายวิโรจน์กล่าว

เมื่อถามว่า กรณีผู้การฯ ชลบุรี เรียกรับสินบน 140 ล้านบาท จะมีผู้ที่อยู่ระดับสูงกว่าผู้การฯ พัวพันหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ผู้ที่อยู่สูงกว่านั้นมักจะอยู่หลังม่าน อยู่หลังโทรศัพท์ ไม่ออกมาเปิดเผยตัวเอง ซึ่งคนที่ออกมาเปิดเผยตัวส่วนใหญ่จะเป็นลูกน้อง ตัวเล็กเท่านั้น เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ตัวใหญ่ จะเป็นผู้เขียนกระดาษ “เป้รักผู้การฯ เท่าไหร่ แต่ก็ย้ำว่า ต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายก่อน ทั้งนี้หากพบว่า เป็นจริง ต้องสอบสวนต่อว่า พัวพันกับใคร ที่มาของตำแหน่งเป็นอย่างไร ซื้อขายตำแหน่งหรือไม่ ถ้าหากซื้อขายตำแหน่งมา ผู้ใดเป็นคนให้เงินไปซื้อ แหล่งเงินที่ซื้อตำแหน่ง ก็จะบอกได้ว่า ใครเป็นตัวใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง

ส่วนที่ผ่านมาจะมีการจับกุมตำรวจที่มีพฤติการณ์ดังกล่าวหลายครั้ง แต่ไม่เคยสาวไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังเลย ควรจะปรับวิธีการสอบสวนขยายผลหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐบาลมีรากฐานจากเผด็จการ ซึ่งการแต่งตั้งมักจะเฉพาะคนของตัวเอง เป็นเครือข่ายของตัวเอง เพราะกลัวการถูกเช็คบิลย้อนหลัง เพราะฉะนั้นการตรวจสอบถ่วงดุล ก็มักจะติดกับคำว่า คนนี้เพื่อนนาย คนของนาย หรือเครือข่ายของนาย ส่งผลต่อกลไกการปราบปรามทุจริตทำไม่ได้ และได้แต่จับปลาซิวปลาสร้อย

บางช่วงนายวิโรจน์ ยังระบุว่า ปัญหาการคอร์รัปชัน แตะที่ไหนก็เจอที่นั่น เหมือนอุจจาระเต็มกางเกงไปหมด ตอนนี้ไม่ต้องส่องเข้าไปในกางเกง ก็เห็นคราบสีเหลือง ที่ย้อยออกมา เพราะมาจากระบบอุปถัมภ์ การซื้อขายตำแหน่ง และเครือข่ายอำนาจที่สร้างเอาไว้ ก็ต้องทำลายให้หมด

ทั้งนี้หากจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ การจัดการปัญหาคอร์รัปชันจะเริ่มจากจุดไหน นายวิโรจน์ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้จะประชุมคณะทำงานของคณะเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ก็จะพูดถึงแนวทางการจัดการปัญหาคอร์รัปชันของรัฐบาล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวพน้าพรรคก้าวไกลด้วย ซึ่งก็จะต้องรื้อใหม่ทั้งระบบ ทั้งการแก้ไขกฎหมาย และการออกกฎหมายคุ้มครองผู้ออกมาเปิดโปงทุจริต และการกันเป็นพยาน เพื่อทลายการคอร์รัปชัน

คุณอาจสนใจ

Related News