เลือกตั้งและการเมือง
‘มาดามฮาย’ ควง ‘เกศปรียา’ หาเสียงสยามฯ ชู การศึกษาต้องเท่าเทียม สร้างสามัคคีให้คนในชาติ
16 เม.ย. 2566
102 views
วันนี้ (16 เม.ย.) เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา น.ส.ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ พร้อมด้วย นพ.เรวัต วิศรุตเวช และ ร.อ.จารุพล เรืองสุวรรณ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี รวมถึง น.ส.เกศปรียา (เดียร์) แก้วแสนเมือง ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เบอร์ 9 เขต 2 ปทุมวัน สาทร ราชเทวี พรรคเพื่อชาติ พร้อมกรรมการบริหารพรรค ลงพื้นที่พบปะประชาชนและน้องๆคนรุ่นใหม่ย่านสยามสแควร์ ซึ่งถือว่าวันนี้พรรคเพื่อชาติลงพื้นที่ในย่านที่มีคนรุ่นใหม่ และเป็นย่านที่วัยรุ่นไปรวมตัวกันจำนวนมากเป็นครั้งแรก
โดยน.ส.ปวิศรัฐฐ์ กล่าวว่า วันนี้พรรคเพื่อชาติ หยิบยกนโยบายเกี่ยวกับการศึกษามานำเสนอเพราะพรรคเพื่อชาติเห็นว่าเรื่องการศึกษาถือเป็นรากฐานของเด็กและเยาวชนที่ควรได้รับการวางรากฐานตั้งแต่แรกเกิดเพื่อให้ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพและเท่าเทียมกัน ทั้งในเรื่องคุณภาพของการศึกษา การใช้ชีวิตในสถานศึกษา อาหารกลางวัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เด็กไทยควรจะต้องได้รับการดูแลในระบบดับเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนในเมือง ในกรุงเทพมหานครหรือโรงเรียนในต่างจังหวัด โดยเฉพาะเรื่องของพื้นฐานด้านภาษาที่เด็กๆทุกคนควรจะต้องได้รับความรู้ด้านภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็ก เพราะถือเป็นภาษาที่สำคัญที่จะใช้ต่อยอดในการเรียนรู้ การศึกษาต่อ และการทำงานในอนาคต เพื่อให้เด็กไทยทุกคนมีความรู้ด้านภาษาที่เท่าเทียมกับเด็กจากนานาประเทศ
ขณะที่น.ส.เกศปรียา กล่าวว่า วันนี้นำนโยบายทลายกำแพงใจ ขึ้นมานำเสนอให้กับประชาชนและกลุ่มวัยรุ่นย่านสยามสแควร์ เนื่องจากในอดีตประเทศไทยถูกเรียกว่าเป็นสยามเมืองยิ้ม แต่ในปัจจุบันความกดดันในการใช้ชีวิตและการที่ต้องแข่งขันในแต่ละวันทำให้ภาพสยามเมืองยิ้มค่อยๆเลือนหายไป และความเห็นแก่ตัวของคนเริ่มมีมากขึ้น ปัญหาของมิจฉาชีพ อาชญากรรมต่างๆกลับเจริญงอกงามขึ้น และกำลังสร้างผลกระทบกับทั้งคนไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งหากเราสามารถเปลี่ยนแปลงให้สังคมไทยกลับมามีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้ดังในอดีต สิ่งดีๆเหล่านี้ก็จะส่งต่อไปให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในประเทศไทยให้ได้รับรู้ถึงน้ำใจของคนไทยและมีการพูดกันต่อๆไปอีกด้วย
น.ส.เกศปรียา กล่าวต่อว่า นโยบายทลายกำแพงใจของพรรคเพื่อชาติ จะเน้นการอยู่ร่วมกันแบบเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เราจะประสานให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเป็นตัวประสานกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจัดกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์ของคนในชุมชนให้ได้สื่อสารทำความรู้จักกันและรักใคร่กลมเกลียวกัน ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อและดูแลกัน นโยบายนี้จะช่วยลดปัญหาหลาย ๆ ด้านทั้งปัญหาในครอบครัว เด็กอาชญากรรม ไปจนถึงปัญหาระดับประเทศอย่างความขัดแย้งทางการเมืองในรอบทศวรรษนี้ที่คู่ขัดแย้งปฏิเสธการเจรจากัน

แท็กที่เกี่ยวข้อง ปวิศรัฐฐ์ติยะไพรัช ,มาดามฮาย ,พรรคเพื่อชาติ ,เลือกตั้ง66