‘อนุทิน’ เข่าด้าน คุกเข่ากราบขอโทษนายกฯ รับผิดชอบลูกพรรคปราศรัยพาดพิง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึง การเตรียมความพร้อมการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ว่า ทุกคนต้องทำการบ้านเพราะว่าการอภิปรายตามมาตรา 152 ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำจากฝ่ายค้าน ถ้ามองโลกในแง่ดีนี่คือการแนะนำให้รัฐบาลปฏิบัติอย่างไร ฝ่ายรัฐบาลก็พร้อมที่จะรับฟังและชี้แจงข้อเท็จจริง สิ่งไหนเป็นคำแนะนำที่ดี ก็จะนำมาปฏิบัติ ส่วนเรื่องที่ไม่จริงก็จะมีการชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ รวมถึงให้ฝ่ายค้านเข้าใจด้วย อย่ามองว่าเป็นความท้าทายของฝ่ายค้านที่จะพุ่งเป้าโจมตีรัฐบาล

ขณะที่นายกรัฐมนตรีห่วงใยบางพรรค มีนโยบายหาเสียง ใช้งบประมาณของภาครัฐเป็นจำนวนมากนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ตนเองอยากชี้แจงในที่ประชุมแต่ นายกรัฐมนตรี ปิดการประชุมคณะรัฐมนตรีไปก่อน โดยอยากชี้แจงว่าพรรคไหนที่ออกนโยบายไปทำไม่ได้พรรคนั้นต้องรับผิดชอบพวกนี้ ดังนั้น ไม่อยากให้นายกรัฐมนตรีกังวลในเรื่องพวกนี้ เนื่องจากทุกพรรคต้องผลิตนโยบายให้ประชาชน เพื่อให้ประชาชนพิจารณา ช่วงนี้ข่าวสาร การหาเสียง นโยบาย ออกมาพูดแล้วทำได้ หรือเพ้อฝัน ประชาชนที่เข้าถึงข่าวสารจะไม่ให้ใครมาให้นโยบายมาให้นโยบายที่เป็นไปไม่ได้

ส่วนนโยบายที่นายกรัฐมนตรีพูดถึงที่มีการเสนองบประมานถึง 800,000 ล้านบาทใช่พรรคภูมิใจไทยหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้เอ่ยถึงพรรคภูมิใจไทย แต่เมื่อนโยบายเกิดขึ้นก็คงเป็นรัฐบาลใหม่แล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรี ไม่ได้รับผิดชอบอะไรอยู่แล้ว

นายอนุทินได้ออกมายอมรับว่า เมื่อวานนี้ได้เข้าไปขอโทษนายกรัฐมนตรี หลังจากที่ลูกพรรคได้ปราศรัยพาดพิง นายกรัฐมนตรี เพราะในฐานะหัวหน้าพรรคก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ลูกพรรคทำไป และ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย พูดมันปากไปหน่อย พาดพิงไปในสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องพูด ในฐานะพรรคภูมิใจไทย ที่มีแนวทางชัดเจนว่าการปราศรัยหาเสียงจะต้องไม่พาดพิงพรรคอื่น ดังนั้นหัวหน้าพรรคจะต้องรับผิดชอบด้วยการกราบขออภัย

และหลังจากนี้จะต้องไม่เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก หากเกิดกับพรรคอื่นตนเองก็ต้องไปขอโทษ ซึ่งตนเองได้บอกกับลูกพรรคว่า ตอนนี้เข่าด้านแล้วนะ ปกติรอยตะเข็บกางเกงแหลม แต่เมื่อวานนี้ทู่ ดังนั้น จึงเชื่อว่าคงไม่อยากให้หัวหน้าพรรคกางเกงไม่สวยอีกต่อไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็เข้าใจ เพราะเป็นผู้ใหญ่ในระดับนี้แล้ว พร้อมถามกลับว่าเกิดอะไรขึ้น และย้ำว่าสิ่งใดที่ไม่สมควรก็ต้องขอโทษผู้หลักผู้ใหญ่ เพราะตัวเองถือว่าเป็นผู้น้อย

ขณะที่ การให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าไม่เคยคิดร้ายกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการส่งสัญญาณจับมือทางการเมืองหรือไม่นั้น นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ใช่ แต่ตนเองได้พูดแสดงความรู้สึกว่า ไม่ได้มีปัญหากับนายทักษิณ ซึ่งไม่ทราบว่าเกิดจากการตัดต่อหรือไม่ ซึ่งตนยืนยันว่าไม่เคยมีใครคิดร้ายกับนายทักษิณ ส่วนเรื่องการเมืองก็ถือว่าต่างคนต่างเดิน ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณอะไรทั้งสิ้น จึงอยากให้ไปฟังคำถามก่อน เพราะวันนั้นได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับหนังสือพิมพ์มติชน ซึ่งขาดในส่วนที่เป็นคำถามไป