'ประยุทธ์' พร้อมถอน ร่าง พ.ร.บ.กลาโหม แก้ไข ก่อนเสนอเข้าสู่สภาฯ รอบใหม่

ความคืบหน้ากรณีการเสนอร่างพระราชบัญญัติกลาโหม ของ สส.พรรคเพื่อไทย วันนี้มีความชัดเจนว่าผู้เสนอร่างจะถอนร่างออกมาเพื่อแก้ไขและจะเสนอเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง และยืนยันว่าเป็นสิ่งที่ทำกันทั่วโลกในการปกครองระบอบประชาธิปไตย



นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แถลงชี้แจงกรณีการเสนอร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบกลาโหมโดยยืนยันว่าไม่ได้มีความขัดข้องใจกับกองทัพที่ต้องการไปแก้ไขอะไร เพราะทหารเป็นรั้วของชาติ ตั้งแต่กรุงสุโขทัยมาถึงปัจจุบัน ทหารมีบทบาทในการรักษาชาติบ้านเมืองและราชบัลลังค์



ส่วนสาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้จะสามารถป้องกันการรัฐประหารได้หรือไม่นั้น นายประยุทธ์ กล่าวว่า อยากเปลี่ยนว่าประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยเป็นเหมือนบ้านหลังหนึ่ง ฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ อยู่ในบ้านหลังนั้น หากตนสร้างรั้วขึ้นมาก็ไม่ได้เสียหาย แต่ไม่สามารถป้องกันขโมยหรือโจรได้ 100% แต่หากประชาชนมาช่วยกันเป็นยามรักษาบ้าน อย่างเช่นที่เกิดขึ้นในประเทศเกาหลีใต้ ความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายก็จะเกิดขึ้นทันที ด้วยเจตนารมณ์เช่นนี้ จึงอาศัยรัฐธรรมนูญมาตรา 133 วงเล็บ 2 เข้าชื่อเสนอกฎหมายสมบูรณ์แบบทุกประการ โดยไม่จำเป็นต้องเสนอเข้าสู่ที่ประชุมของพรรค แต่ในฐานะที่เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็ต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม เพื่อขอเสียงสนับสนุนของพรรคเพื่อไทย แต่จะทำก่อนหรือหลังการเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาได้ทั้งสิ้น



ทั้งนี้ นายประยุทธ์ ยืนยันว่า ไม่ได้เขียนร่างกฎหมายฉบับนี้ด้วยตัวเอง แต่กระทรวงกลาโหมเป็นผู้จัดทำ ในสมัยของนายสุทิน คลังแสง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และเมื่อพ้นตำแหน่งไปก็ได้ ส่งเรื่องกฎหมายฉบับนี้มายังพรรคเพื่อไทย ทางคณะกรรมการกฎหมายของพรรคจึงได้ดำเนินการต่อ มีการปรับปรุงเล็กน้อย แต่ไม่ผิดวิสัย เป็นสิ่งที่ทำกันทั่วโลกในการปกครองระบอบประชาธิปไตย



ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึง ความจริงใจ ของพรรคเพื่อไทย ต่อการแก้กฎหมายสภากลาโหม ว่าไม่ทราบพรรคเพื่อไทยหรือพรรคการเมืองอื่น จริงใจแค่ไหน แต่หนึ่งอย่างที่สำคัญมาก คือร่าง พระราชบัญญัติ สภากลาโหม กฎหมายตัวนี้ สำคัญ และที่ผ่านมากฎหมายตัวนี้ ทำให้รัฐบาลพลเรือน เข้าไปยุ่งกับกองทัพไม่ได้ หมายความว่ากองทัพมีความเป็นอิสระ จัดการงบประมาณตรงนี้ ทั้งอัตรากำลังพล และการเลื่อนขั้น อำนาจอยู่ที่สภากลาโหม ซึ่งมีสัดส่วนของผู้นำเหล่าทัพ มากกว่าสัดส่วนของพลเรือน



เมื่อถามย้ำว่าหากพรรคเพื่อไทย เดินหน้าเรื่องนี้พรรคประชาชน พร้อมสนับสนุนใช่หรือไม่ นายธนาธร ระบุว่าแน่นอนอยู่แล้ว จริงๆหากใครไปอ่าน MOU ฉบับที่ 2 ระหว่างพรรคเพื่อไทย กับพรรคก้าวไกล ในการตั้งประธานสภาฯ ก็มีเงื่อนไขนี้อยู่ ว่าจะผลักดันการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติ สภากลาโหม



ทั้งนี้แสดงว่า หากพับไปมองว่ามีคนไม่ทำตามคำพูดใช่หรือไม่ นายธนาธร บอกว่าใช่ มันมีอยู่ในเงื่อนไขอยู่แล้วอยากให้ประชาชน และสื่อมวลชนลองไปดูเงื่อนไขตรงนี้