เลือกตั้งและการเมือง
กกต. เตรียมประกาศรายชื่อผู้ผ่านการเลือกสว. 200 คน อย่างเป็นทางการ 3 ก.ค. 67
โดย parichat_p
27 มิ.ย. 2567
11 views
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประกาศรายชื่อผู้สมัคร สว. ที่ผ่านการเลือกระดับประเทศ จำนวน 200 คน และตัวสำรอง 100 คน หลังใช้เวลา 22 ชั่วโมงในการเลือกข้ามวันข้ามคืน เลขาธิการ กกต.เปิดเผยว่าจะประกาศรับรองผล อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 3 กรกฏาคม ขณะที่ผู้ผ่านเข้ารอบ ต่างตั้งใจจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ แม้จะติดใจในการเลือกที่เชื่อว่า มีระบบจัดตั้งและบล็อกโหวต จนทำให้ตัวเต็งหลายคนตกรอบ
นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง พอใจผลการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ระดับประเทศ เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว แม้ต้องใช้เวลานานถึง 22 ชั่วโมง แล้วเสร็จเมื่อเวลา 06.00 น.ของวันที่ 27 มิถุนายน และได้ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการเลือกทั้ง 200 คน ใน 20 กลุ่มอาชีพ พร้อมตัวสำรอง กลุ่มละ 5 คน รวม 100 คน เรียบร้อยแล้ว กกต.คาดว่าจะประกาศรับรองผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 กรกฏาคม เป็นต้นไป หากจะมีการร้องคัดค้านว่าการเลือก สว.ไม่เป็นธรรม จะต้องไปยื่นต่อศาลฎีกาภายใน 3 วันนี้ หรือหากพบว่าไม่สุจริตเที่ยงธรรม สามารถร้องได้ที่ กกต. ซึ่งขณะนี้มีการร้องเรียนมาแล้ว 614 คำร้อง ตั้งแต่ระดับอำเภอ จนถึงระดับจังหวัด ส่วนใหญ่เป็นการร้องเรื่องคุณสมบัติ ที่ยอมรับว่า การให้มีเพียงคนรับรอง อาจทำให้ผ่านได้ง่าย และมองว่าคุณสมบัติเหมาะสมหรือไม่
สำหรับการเลือก สว.ระดับประเทศ ที่แล้วเสร็จในช่วง 4 นาฬิกา มีผู้สมัครตัวเต็งที่ตกรอบ เดินทางกลับไปก่อน เช่นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ในกลุ่ม 1 ที่ได้เพียง 10 คะแนน ในขณะที่พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล เป็นตัวสำรองอันดับที่ 11 ซึ่งยอมรับว่าได้คะแนนรองบ๊วย แต่ไม่ขอให้ความเห็นว่าทำไมถึงตกรอบ
ขณะที่พลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ ที่ได้คะแนนสูงที่สุดในกลุ่มที่ 1 ยินดีที่ได้รับเลือก และพร้อมจะตั้งใจทำงาน แต่ไม่ทราบว่าทำไมคะแนนถึงมามากเป็นอันดับ 1
ด้านนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ที่ได้คะแนนอันดับ 2 ดีใจที่ได้รับเลือก และตั้งใจเข้าไปทำงาน แม้ก่อนหน้านี้จะมีปัญหาสุขภาพแต่ก็มีความพร้อม
ส่วนกลุ่ม 17 ภาคประชาสังคม มีการแข่งขันกันสูง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้เป็นตัวสำรอง ยอมรับว่าการเลือกครั้งนี้มีการจัดตั้ง โดยมีพรรคการเมืองพรรคหนึ่งอยู่เบื้องหลัง จนส่งผลให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ตกรอบได้ อย่างที่สื่อมวลชนก็สังเกตเห็นว่าคนกลุ่มนี้แต่งตัวคล้ายกัน ใส่เสื้อสีเดียวกัน จนต้องเรียกว่าพรรคมินเนี่ยน โดยทราบว่าจะมีผู้สมัครหลายคนจะรวมตัวกัน ไปยื่นร้องคัดค้านต่อศาลฎีกา ถึงความผิดปกตินี้ ทราบว่ามีการรวบรวมรายชื่อได้กว่า 80 คนแล้ว
ในขณะที่นางอังคณา นีละไพจิตร ซึ่งได้รับเลือกแต่อยู่ในอันดับท้ายของ กลุ่ม 17 ภาคประชาสังคม ก็ยอมรับว่า ผลการเลือก สว.ที่ปรากฏออกมาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่ามีความผิดปกติ เพราะมีการเกาะกลุ่มกันได้คะแนนสูงโด่ง จึงต้องเป็นเรื่องที่สังคมต้องช่วยตรวจสอบ
ส่วนกลุ่มสื่อมวลชน รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส ที่ได้คะแนนมาอันดับ 9 ยอมรับว่าจะต้องมีการตรวจสอบการบล็อกโหวต เพราะทุกกลุ่มจะมีการจองอันดับที่ 1-8 ไปแล้ว และสุดท้ายอาจทำให้ สว.ชุดนี้ไม่น่าเชื่อถือ เพราะไม่อยากให้เป็นโมฆะเพราะจะทำให้ สว.ชุดคสช.รักษาการต่อไป
ขณะที่นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย ที่ผ่านเข้ารอบมาในอันดับ 10 และต้องจับฉลาก ยอมรับว่า กติกาการเลือกสว.ชุดนี้ เอื้อประโยชน์ต่อการจัดตั้งได้ จึงน่าเสียดายที่ สว.ประชาชน ที่แสดงเจตจำนงว่าจะเข้าไปแก้ไขรัฐธรรมนูญ เข้าไปได้น้อย แต่ส่วนตัวก็ยังตั้งใจจะทำให้เต็มที่
สำหรับผู้ผ่านเข้ารอบ 10 คนในกลุ่มสื่อมวลชน เมื่อตรวจสอบประวัติ หลายคนไม่ได้มีอาชีพสื่อมวลชนโดยตรง แต่มีอาชีพอื่น เช่นนางสาวคอดียะฮ์ ทรงงาม อายุ 64 ปี อาชีพตัดเย็บเสื้อผ้า แต่มีประสปการณ์ทำงานประชาสัมพันธ์เสียงตามสายหมู่บ้าน และประชาสัมพันธ์อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง ส่วนอีกรายนางอารีย์ บรรจงธุระการ อายุ 65 ปี มีอาชีพยาบาล ทำงานเป็นวิทยากรด้านแม่และเด็กที่จังหวัดสตูล เป็นพิธีกรงานแต่งและเป็นวิทยากรให้ความรู้ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่โรงพยาบาลในจังหวัดสตูล ตรังและสงขลา ส่วนนายสุทนต์ กล้าค้าขาย ที่ได้คะแนนอันดับ 1 เป็นนายกสมาคมสื่อช่อสะอาด นายสุพรรณ์ ศรชัย เป็นสื่อมวลชน มา 35 ปี ขณะที่นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล เป็นนายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย นายพิชิต จิตนิยม เป็นผู้บริหารฝ่ายข่าวเนชั่นทีวี เคยทำงานทั้งสถานทีโทรทัศน์ไอทีวี และช่อง 5 มีประสปกรณ์มากว่า 30 ปีด้วย
นอกจากนี้ในจำนวน สว.200 คนที่เข้ารอบ พบว่า บางจังหวัดมีผู้เข้ารอบจำนวนมาก เช่น จังหวัดบุรีรัมย์ มีได้รับเลือกเป็น สว.จำนวน 14 คน ใน 11 กลุ่ม และพบว่า เป็นอดีตข้าราชการ บางคนเป็นบุคคลใกล้ชิดนักการเมือง เช่นเคยเป็นคนขับรถ และเคยมีตำแหน่งทางการเมืองใกล้ชิดกับรัฐมนตรีการเมืองหนึ่ง เป็นต้น และมีอีกหลายจังหวัดที่มีผู้สมัครเข้ารอบสุดท้ายมาจำนวนมากด้วย