เลือกตั้งและการเมือง

'เศรษฐา' ประชุม UNGA ครั้งที่ 78 ชูแก้ปัญหาสำคัญ โลกร้อน อุปสรรคพัฒนา ศก.ยั่งยืน

21 ก.ย. 2566

166 views

การประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 ที่มุ่งเน้นเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นวาระของสหประชาชาติในปี 2030 แต่ปัญหาสำคัญที่เป็นอุปสรรคต่อเป้าหมายนี้คือปัญหา การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ climate change ที่



นายอังตอนียู กูแตเรช เลขาธิการสหประชาติ กล่าวในที่ประชุมระดับผู้นำว่าด้วยการดำเนินการสภาพภูมิอากาศ Climate Ambition Summit ว่าขณะนี้มวลมนุษยชาติได้เปิดประตู่สู่ขุมนรก ด้วยการปล่อยให้วิกฤตสภาพภูมิอากาศเลวร้าย ซึ่งในจำนวนประเทศสมาชิกสหประชาชาติ 193 ประเทศ มีเพียง 38 ประเทศและแขกพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติเท่านั้นที่ได้กล่าวถ้อยแถลง ซึ่งนายกรัฐมนตรีของไทย เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้กล่าวในเวทีนี้ ทำให้เป็นที่ยอมรับว่าเป็นประเทศที่จริงจังกับปัญหาสภาพภูมิอากาศ โดยไทยตั้งเป้าบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 และส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน โดยจะขับเคลื่อนการเงินสีเขียว หรือ Green Finance) เพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วย



วันที่ 2 ในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ หรือ UNGA ครั้งที่ 78 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยการดำเนินการสภาพภูมิอากาศ (Climate Ambition Summit) ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนและร้ายแรง ทำให้เลขาธิการสหประชาชาติสนับสนุนให้ประเทศสาชิกสนับสนุนให้บรรลุเป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศุนย์หรือ net-zero ให้ใกล้เคียงกับปี 2050 มากที่สุด และเสนอแผนการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน รวมถึงการเลิกใช้ถ่านหินภายในปี 2040



ซึ่งไทยได้ให้คำมั่นในการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ UNFCCC COP ครั้งที่ 26 ว่าจะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 โดยเราได้เพิ่มเป้าหมายการสนับสนุนการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนดขึ้น (NDC) จาก 20% เป็น 40% ภายในปี 2030 โดยรัฐบาลกำลังร่างแผนพลังงานแห่งชาติขึ้นใหม่ มุ่งเน้นการเพิ่มการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ และการเตรียมการที่จะยุติการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน ซึ่งประเทศไทยตั้งเป้าที่จะเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ครอบคลุม 55% ของพื้นที่ทั้งหมดภายในปี 2037 หรือในปี 2580 ที่สำคัญไทยยังได้ส่งเสริมกลไกการเงินสีเขียว (Green Finance) ผ่านการออกพันธบัตรเพื่อความยั่งยืน Sustanability link bond เพื่อเพิ่มแรงจูงใจในการบรรลุเป้าหมาย SDG



นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่ารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้นำเสนอเรื่องนี้แทนคนไทย จนหลายประเทศให้ความชื่นชมที่ไทยให้ความสำคัญกับเรื่องสภาพแวดล้อม ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งมาจากความร่วมมือของคนไทยทำให้เกิดพลังงานสีเขียว ตรงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs ที่สหประชาชาติให้ความสำคัญ



สำหรับการกล่าวถ้อยแถลงว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นายกรัฐมนตรีของไทย เป็น 1 ใน 38 ประเทศที่ได้รับการยอมรับจากสมาชิก 193 ประเทศให้นำเสนอเรื่องนี้เพราะมีการผลักดันอย่างจริงจัง และในกลุ่มประเทศอาเซียนมีเพียงนายกรัฐมนตรีของไทย และ เวียดนาม เพียง 2 ประเทศ ที่ได้รับการยอมรับและในส่วนของไทยได้รับคำชื่นชมในการผลักดัน กลไกการเงินสีเขียว หรือ Green Finance ด้วย



นายกรัฐมนตรียังกล่าวเปิดการประชุมในกิจกรรมคู่ขนานระดับสูงของประเทศไทยและอาเซียน ซึ่งเสนอให้อาเซียนต้องมี โรดแมป จัดทำ ASean Green agenda เป็นแนวทางการพัฒนาความยั่งยืนในภูมิภาค ให้สอดคล้องกับวาระของสหประชาชาติและวิสัยทัศน์ของประชาคมอาเซียนในปี 2045 และส่งเสริมการเกษตรอัจฉริยะ และผลักดันการเงินสีเขียวด้วย



นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้หารือทวิภาคีกับ นายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม จะร่วมสร้างความเข็มแข็งในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและอาเซีย และ นายยุน ซ็อก ยอล ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีใต้ เร่งผลักดันการเจรจาจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจต่อกัน



นายกรัฐมนตรียังได้พบกับนายจิอานนี อินฟันติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ fifa ที่จะไปจัดการประชุมฟีฟ่าในไทยในปีหน้า คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกว่า 2,000 คน ไทยพร้อมสนับสนุนเพราะจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย



อีกหนึ่งไฮไลท์นายกรัฐมนตรีได้พบกับสภาธุรกิจสหรัฐ อาเซียนและหอการค้าสหรัฐฯ ซึ่งจะเร่งฟื้นตัวการค้าระหว่างกัน และชี้แจงการผลักดันเศรษฐกิจของประเทศเข้าสู่เกียร์สูง เช่นนโยบายดิจิตอล วอลเล็ตและบล็อกเชต รวมถึงเร่งเดินหน้าเจรจาเอฟทีเอ ด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News