เปิดขั้นตอนกฎหมายเลือกตั้งส.ส. หลังสภาล่มคว่ำสูตรหาร 500 ลุ้นหาร 100 ขัด รธน.หรือไม่

ในที่สุดกฏหมายเลือกตั้งส.ส.สูตรหาร 500 ก็ถูกตีตกไปแล้ว หลังที่ประชุมรัฐสภา ต้องปิดการประชุม เพราะมีองค์ประชุมไม่ครบในการพิจารณาลงมติในมาตราที่ 24/1 ส่งผลให้ไม่ทันกรอบการพิจารณาในเวลา 180 วัน ข้อบังคับรัฐสภาให้นำกฏหมายที่ผ่านเข้ามาในวาระที่ 2 เห็นชอบเป็นร่างหลัก นั่นคือร่างที่เสนอโดย กกต.ผ่านคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นสูตรคำนวนณ ส.ส.สูตรหาร 100 โดยพรรคการเมืองเล็ก ยืนยันจะเสนอศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าขัดรัฐธรรมนูญ หากผิดก็ต้องเริ่มกระบวนการใหม่ และหากไม่ทันแล้วมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่อาจกลับไปใช้บัตรใบเดียว



นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ตัดสินใจสั่งปิดการประชุม หลังองค์ประชุมไม่ครบ และต้องรอสมาชิกมาแสดงตนลงมติในมาตรา 24/1 จนมีสมาชิกประท้วง และก่อนหน้านั้นรอองค์ประชุมครบเพื่อเปิดประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง

โดยนายแพทย์สุกิจ อัตโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวยืนยันว่า ทั้งนายชวน และนายพรเพชร วิชัติชลชัย รองประธานรัฐสภา ได้พยายามอย่างมากเพื่อดำเนินการประชุมให้เรียบร้อย แต่ก็เกิดปัญหาขึ้น จึงไม่อยากให้มองว่าเป็นความผิดของฝ่ายใด ไม่มีอุบัติเหตุร้ายแรง เมื่อกฏหมายไม่ผ่านความเห็นชอบทันกรอบเวลา 180 วัน



ส่งผลให้ ร่างกฏหมายที่ผ่านความเห็นชอบเข้าสู่ที่ประชุมในวาระที่ 2 คือร่างของคณะรัฐมนตรี ผ่านความเห็นชอบไปตามกฏหมาย จึงต้องกลับไปใช้สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แบบหาย 100 สูตรหาร 500 ก็ถูกตีตกไปแล้ว และตามขั้นตอน ประธานรัฐสภา จะส่งไปยัง กกต.ให้ความเห็นภายใน 10 วัน ส่งกลับมาให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งก่อนนั้น 5 วัน ส.ส.สามารถยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้



โดยนายแพทย์ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ที่เสนอแปรญัตติสูตรหาร 500 รู้สึกผิดหวังที่ในที่สุดรัฐสภาพิจารณาร่างนี้ไม่ทัน จึงเตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าสูตรหาร 100 ขัดรัฐธรรมนูญ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ขอให้ประชาชนพิจารณาว่าเป็นความตั้งใจของใคร และเท่าที่เห็นในสภา มีส.ส.พรรคพลังประชารัฐเข้าประชุมเพียง 7 คน ในที่สุดหากต้องใช้สูตรหาร 100 พรรคเล็กบางพรรคอาจเลือกแนวทางยุบพรรค แต่พรรคพลังธรรมใหม่ไม่ยุบ จะทำงานการเมืองต่อไป และเชื่อว่าประชาชนจะมาเลือกพรรคขนาดกลาง และเล็ก ทำให้พรรคพลังประชารัฐอยู่ยาก และหากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไม่ได้ไปต่อ จะถึงเวลานับถอยหลังของพรรคพลังประชารัฐ



ขณะที่พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าไม่มีดีลกับพรรคพลังประชารัฐ แม้จะเลือกสูตรหาร 100 เหมือนกันแต่มีจุดยืนคนละแนวทาง เพราะที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับสูตรหาร 500 มาแแต่ต้น และอยากเห็นศาลวินิจฉัยให้แล้วเสร็จ หากเป็นสูตร 100 ก็เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง หากขัดรัฐธรรมนูญ ต้องพิจารณากฏหมายใหม่ ซึ่งห่วงหากมีความพยายามแก้ไขรัฐรรมนูญให้กลับมาเป็นบัตรใบเดียว ตามรัฐธรรมนูญปี 60 ก็ยังมีเวลาในสมัยการประชุมหน้า



ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ในฐานกรรมาธิการวิสามัยพิจารณาร่างกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ยอมรับว่าเสียดายที่ร่างฉบับที่มีสูรตรหาร 500 ต้องตกไป เพราะผ่านการพิจารณาที่ครบถ้วน มั่นใจว่าไม่ขัดรัฐธรรนูญและที่มากกว่า ร่างของคณะรัฐมนตรี สูตรหาร 100 ที่ไม่ได้ผ่านการแก้ไข ส่อไปในทางขัดรัฐธรรมนูญมากกว่า ซึ่งคาดว่าศาลจะใช้เวลาพิจารณาไม่เกิน 2 เดือน หากศาลรัฐธรรมนูญ ตีความว่าไม่ขัด นายกรัฐมนตรีก็นำกฎหมายขึ้นทูลเกล้าฯบังคับใช้ได้ แต่หากศาลเห็นว่าขัดรัฐธรรมนูญ กฎหมายฉบับนี้ก็ตกไป ต้องเริ่มพิจารณากันใหม่ จึงเป็นสิ่งที่หลายฝ่ายเป็นห่วงด้วยว่า หากกฏหมายพิจารณาไม่ทันสมัยของสภาผู้แทนราษฏรชุดนี้ คณะรัฐมนตรีมีอำนาจออกพระราชกำหนดมาจัดการเลือกตั้งได้ และอาจเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้กลับมาใช้บัตรใบเดียวตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ได้ด้วย



นายสมชัย ยังเปิดเผยด้วยว่ากำลังรวบรวมรายชื่อ ส.ส.ที่ไม่ได้แสดงตนในการประชุม 3 ครั้งที่ผ่านมา เพราะสามารถยื่นฟ้องต่อต่อ ปปช.ได้