รวบโจรทำทีมาขอบวช ก่อนขโมยเงินในกุฏิไปปั่นสล็อต พบประวัติโชกโชนทั่วกรุง

รวบโจรทำทีมาขอบวช ก่อนขโมยเงินในกุฏิรองเจ้าอาวาส อ้างคนมาทำบุญเยอะและพระใจดี สารภาพนำเงินไปปั่นสล็อตหมด สัญญาจะไม่ทำอีก พบประวัติโชกโชนก่อเหตุฉ้อโกงกว่า 9 คดีทั่วกรุง

วันนี้ (1 พ.ย.68) ที่ สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี พ.ต.อ.ณัฏฐ์เดชา ฐานิสภัทราพงศ์ ผกก.สภ.ไทรน้อย, พ.ต.ท.เรวัต สุริยะ สว.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุม นายชุติศรีณ์ อายุ 39 ปี ได้ที่อพาร์ตเมนต์ย่านบางแค ในข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถาน” หลังก่อเหตุลักเงินสดจำนวน 5,000 บาท ภายในกุฏิของ พระครูวินัยธรสมศักดิ์ ถมทรัพย์ หรือพระอาจารย์โบว์ รองเจ้าอาวาสวัดไทรน้อย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ส.ค.68

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบชายต้องสงสัยสวมแว่นตา นั่งรถแท็กซี่มาจอดบริเวณหน้ากุฏิรองเจ้าอาวาส ก่อนจะเดินทำทีมาหาพระรองเจ้าอาวาส จากนั้นนั่งรออยู่ในห้อง ก่อนเปิดกระเป๋าบนโต๊ะหยิบเงินสดใส่กระเป๋ากางเกงด้านขวา แล้วลุกขึ้นมาพูดคุยกับพระอาจารย์โบว์ประมาณ 2 นาที ก่อนเดินออกจากกุฏิไปอย่างใจเย็น แล้วขึ้นรถแท็กซี่หลบหนี

ต่อมา เมื่อวันที่ 31 ต.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไทรน้อย ร่วมกับ สน.ท่าข้าม และ สน.หลักสอง เข้าตรวจสอบที่อพาร์ตเมนต์ย่านบางแค และสามารถจับกุมตัวนายชุติศรีณ์ได้ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี

จากการสอบสวน นายชุติศรีณ์ ให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุได้นั่งรถแท็กซี่จากบ้านย่านเพชรเกษม 32 มาที่วัดไทรน้อย เนื่องจากพ่อแม่เคยมาทำบุญที่วัดนี้ เห็นว่ามีผู้คนมาทำบุญเยอะและพระใจดี จึงเกิดความคิดอยากจะก่อเหตุ โดยทำทีจะมาขอเงินบวชจากเจ้าอาวาส แต่เมื่อเห็นเงินในกระเป๋าสตางค์วางอยู่บนโต๊ะจำนวน 5,000 บาท จึงฉวยโอกาสหยิบมาใส่กระเป๋ากางเกง แล้วรีบเดินออกจากกุฏิขึ้นแท็กซี่ที่จอดรออยู่หน้าวัดกลับบ้านทันที

หลังจากได้เงินมา ผู้ต้องหาได้นำไปเล่นการพนันออนไลน์ “ปั่นสล็อต” จนหมด พร้อมยอมรับว่าเคยติดคุกมาแล้ว 1 ปี 6 เดือน และยังกล่าวขอโทษพระอาจารย์โบว์ พร้อมยืนยันว่าจะไม่ก่อเหตุอีก โดยให้เหตุผลว่าฝั่งธนบุรีไปก่อเหตุไม่ได้แล้ว เพราะมีคนจองกฐินไว้เยอะ

พ.ต.อ.ณัฏฐ์เดชา ฐานิสภัทราพงศ์ ผกก.สภ.ไทรน้อย เปิดเผยว่า จากการสืบสวนพบว่านายชุติศรีณ์ มีพฤติกรรมก่อเหตุลักทรัพย์และฉ้อโกงมาแล้วหลายครั้งในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และมีหมายจับรวมทั้งสิ้น 9 คดี ได้แก่ 1.ปี 2561 สน.หลักสอง ข้อหา “ตัวการในคดีฉ้อโกง” 2.ปี 2561 สน.หลักสอง ข้อหา “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” (2 คดี) 3.ปี 2561 สน.หนองค้างพลู ข้อหา “ตัวการในการฉ้อโกง” 4.ปี 2561 สน.บางบอน ข้อหา “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” 5.ปี 2561 สภ.สามพราน จ.นครปฐม ข้อหา “พยายามฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” 6.ปี 2568 สน.บางขุนเทียน ข้อหา “พยายามฉ้อโกง” 7.ปี 2568 สภ.ไทรน้อย ข้อหา “ข่มขู่หรือทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจ”

นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ต้องหามีหมายจับใหม่เพิ่มอีก 2 หมาย ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ “ลักทรัพย์ในเคหสถาน” พร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรน้อย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป