เลือกตั้งและการเมือง

เขมรไม่มูฟออน! โวยปม 18 เชลยศึก-รั้วลวดหนาม “ฉลาด” โต้กลับ อย่าใช้เวที AIPA ขยายความขัดแย้ง

โดย chutikan_o

18 ก.ย. 2568

177 views

เอาอีกแล้ว! “ควร สุดารี” กล่าวถ้อยแถลงบนเวที AIPA ไม่มูฟออน อ้าง 18 ทหารเฉลยศึกถูกควบคุมตัวโดยมิชอบ ชี้ฝ่ายไทยติดตั้งรั้วลวดหนามผิดกฎหมาย “ฉลาด ขามช่วง” โต้ “เขมร” ใช้เวที AIPA ขยายความขัดแย้งระหว่างประเทศ ชี้ทุกอย่างมีหลักฐานเป็นประจักษ์

18 ก.ย.2568 ในการกล่าวถ้อยแถลงของผู้นำของรัฐสภาอาเซียน บนเวทีสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย สมเด็จ ควร สุดารี ประธานสภาแห่งชาติกัมพูชา ได้กล่าวถ้อยแถลงโดยระบุว่า “ดิฉันขอเน้นย้ำว่าหากไม่มีความมั่นคงเสรีภาพและสันติภาพในภูมิภาคเราคงไม่สามารถสร้างอาเซียนที่มีส่วนร่วม การบูรณาการในภูมิภาค การสร้างสันติภาพและเสถียรภาพเป็นสิ่งสำคัญทั้งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสังคมในการสร้างประชาคม เราต้องระมัดระวังและใช้ความพยายามและการรักษาสันติภาพและ เสถียรภาพและต้องรักษาไว้ซึ่งการมีส่วนร่วม ซึ่งกันและ จึงขอใช้โอกาสนี้ขอบคุณประเทศที่รักสันติภาพทุกประเทศในการสนับสนุนในการก่อให้เกิดการหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งถือเป็นกระบวนการสำคัญในการสร้างความมั่นคงในภูมิภาค และ สันติภาพ และต้องระมัดระวังว่าการหยุดยิงค่อนข้างเปราะบาง

การควบคุมเชลยศึกทหาร 18 นายของกัมพูชานั้นกระทำโดยมิชอบ การติดตั้งรั้วลวดหนามโดยผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นการขัดขวางการใช้ชีวิตของประชาชนในพื้นที่

ประเทศสมาชิกอาเซียนจะต้องพยายามระงับยับยั้งการใช้กำลังรวมถึงการทำลายทรัพย์สิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศเพื่อนบ้าน เรามีความวิตกกังวลอย่างยิ่งว่าการละเมิดการหยุดยิงจะทำให้เกิดความเปราะบางรอบใหม่ และจำทำให้เกิดความขัดแย้งซึ่งจะเป็นอุปสรรคในการสร้างสันติภาพระหว่างประเทศ และจะนำไปสู่การเพิ่มความขัดแย้งที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น

การประกาศกฎอัยการศึกและการละเมิดธิปไตย ระหว่างกัน ขอให้ทุกท่านได้ช่วยส่งเสริมและสนับสนุน การให้มีคณะผู้สังเกตการณ์พิเศษของอาเซียนลงพื้นที่พิพาทที่เรียกว่า IOT

พร้อมขอเรียกร้องให้มีการหยุดใช้ความรุนแรงทางการทหารและการปักปันเขตแดนโดยฝ่ายเดียว และควรให้มีคณะกรรมาธิการร่วมปักปันเขตแดนให้สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ และควรเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ

ประธานสภาแห่งชาติกัมพูชา กล่าวต่อว่า ตอนนี้เราอยู่บนทางแยกที่สำคัญ มีวิกฤตการณ์ต่างๆมากมาย โลกนี้ยังห่างไกลจากคำว่าสันติภาพ ในภูมิภาคของเราควรจะใช้มาตรการทุกมาตรการในการจัดการปัญหาเขตแดนระหว่างไทยกัมพูชาที่มีความเปราะบางอย่างยิ่ง เพื่อให้เราเป็นภูมิภาคที่มีสันติภาพและเสถียรภาพ

การใช้การทูตเชิงรัฐสภาก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญและเกี่ยวข้องโดยตรงกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน เรา ไม่ควรใช้ประเด็นปัญหาทางการเมืองภายในและโยนมาที่เพื่อนบ้าน เราควรต้องสร้างสะพานแห่งความเชื่อใจความร่วมมือ และไม่ควรใช้รั้วลวดหนามมากีดกั้นความสัมพันธ์ของสองประเทศ เราควร แบ่งปันความมั่นคงมั่งคั่งร่วมกัน เราควรส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน เพื่อสร้างสันติภาพให้ยั่งยืนและยาวนานแทนที่จะสร้างสงคราม ที่ดึงพวกเราออกจากกัน เราควรหยุดการโทษกันไปมาและควรส่งเสริมการใข้กลไกด้านรัฐสภาระหว่างประเทศในการส่งเสริมสันคิภาพ โดย AIPA มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง เราควรใช้ความพยายามมากยิ่งขึ้น

พร้อม ขอเน้นย้ำว่าเอกภาพของอาเซียนมีความสำคัญ เราต้องยืนหยัด คุณค่าของเราและหลักการของเรา เราจะไม่ทนว่าอำนาจคือความถูกต้องและไม่ควรทำให้ผู้ที่อ่อนแอต้องเป็นฝ่ายที่เงียบ

ภายหลังที่สมเด็จควร สุดารี ได้กล่าวถ้อยแถลงเสร็จสิ้น ต่างลุกขึ้นปรบมือ ส่งเสียงเชียร์ และยังมีการตบโต๊ะชื่นชมผู้นำตัวเอง

ด้านนายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐสภาไทย กล่าวถ้อยแถลงบนเวที AIPA ภายหลังที่กัมพูชาได้กล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงระหว่างไทยและกัมพูชา ว่าในนามของรัฐสภาไทยขอย้ำถึงถ้อยแถลงครั้งนี้ว่ารัฐสภาไทย ไม่ขอทำลายบรรยากาศฉันมิตรของ AIPA โดยการใช้เวทีของฝ่ายนิติบัญญัติเพื่อขยายความชี้แจงข้อมูล หรือตอบโต้ใดๆเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างประเทศ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นล้วนมีหลักฐานเชิงประจักษ์ เพื่อเป็นการรักษาบรรยากาศอันดีงาม ความถ้อยทีถ้อยอาศัยของเพื่อน AIPA

รัฐสภาไทยเห็นว่าสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นการบิดเบือนจากฝ่ายกัมพูชาต่อกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งการโจมตีพลเรือน โครงสร้างพื้นฐาน โดยการยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เข้ามาในพื้นที่ชุมชนของพลเรือนไทย ส่งผลให้พลเรือน และผู้บริสุทธิ์ และ เด็กเกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน เกิดการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของเด็ก ซึ่งขัดต่อกฎบัตรสหประชาชาติ อนุสัญญาเจนีวานี กติกา ระหว่างประเทศ ว่าด้วยสิทธิพลเมือง และ สิทธิทางการเมือง ตลอดจนกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก สิทธิคนพิการ การกระทำยังกล่าวถึงว่าเป็นอาชญากรรมสงคราม ตาม ธรรมนูญกรุงโรม และขัดต่ออนุสัญญาออตตาวาด้วยการวางระเบิดสังหารบุคคล PMN-2 ส่งผลให้ทหารไทยผู้กล้าหาญต้องทุพพลภาพถาวร โดยทูตระเบิดดังกล่าวเป็นอาวุธที่กัมพูชามีไว้ครอบครอง ตามรายงานความโปร่งใสของกัมพูชา ซึ่งปัจจุบันไทยไม่มีระเบิดทุ่นระเบิดใดอยู่ในครอบครอง นอกจากนี้การพบทุนระเบิด PMN-2 ที่วางไว้ และยังไม่ถูกใช้งานด้วยปรากฏหลักฐานข้อเท็จจริงระหว่างทหารกัมพูชาได้รับการฝึกฝนการวางทุ่นระเบิดดังกล่าว จึงเป็นที่ชัดเจนว่าทุนระเบิดเหล่านี้ถูกวางโดยกัมพูชา

อีกทั้งกัมพูชายังอ้างว่าไทยโจมตีใกล้โบราณสถานปราสาทเขาพระวิหาร ที่อยู่ภายใต้อนุสัญญากรุงเฮก ขอเรียนว่าการปฏิบัติการทางทหารของไทย ไม่กระทบต่อโบราณสถานดังกล่าว และไทยได้ชี้แจงต่อยูเนสโกเพื่อทราบแล้ว และกรณีที่ชาวบ้านกัมพูชามีการรื้อรั้วลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยมีการติดตั้งบริเวณบ้านหนองหญ้าปล้องจังหวัดสระแก้ว มีความจำเป็นต้องเล่าความจริงให้ ทราบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในอธิปไตยของไทย และมีความพยายามขัดขวางการทำงานของ ฃเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ทำให้เจ้าหน้าที่บางคนได้รับบาดเจ็บ มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางอันเป็นการละเมิดกฎหมายไทย ไทยจึงจำเป็นต้องเข้าระงับเหตุ ตามหลักสากลและหลักสิทธิมนุษยชน

รัฐสภาไทยขอใช้โอกาสนี้การขอบคุณต่อทุกฝ่าย ที่มีความพยายามทำให้สถานการณ์ระหว่างไทยไทยและกัมพูชาคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ขอย้ำว่าความรุนแรงไม่สร้างประโยชน์อันใด กับประชาชนมีแต่สร้างความเสียหาย ความเจ็บช้ำ และลุกลามบานปลายเป็นรอยแผลในใจที่ไม่สามารถลบเลือนได้

ดังนั้นเราจึงควรหันหน้าเข้าหากันในการสร้างความปรองดอง ขอยืนยันว่า รัฐสภาไทยจะยึดมั่นหลักการของสหประชาชาติ กฎหมายระหว่างประเทศ และหลักปฎิบัติด้านสิทธิมนุษยชน และหลักการของอาเซียน

เราสนับสนุนแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทอย่างสันติวิธีติวิธี ผ่านช่องทางทวิภาคีที่มีอยู่ และไม่ประสงค์จะเป็นคู่ขัดแย้งกับฝ่ายใด เชื่อมั่นว่า AIPA เป็นตัวแทนของประชาชน และเราเข้ามาในนามของประชาชน จึงขอยืนยันว่าการใช้วิธีของฝ่ายนิติบัญญัติ จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมความไว้วางใจ และหาข้อยุติร่วมกันอย่างสันติ และยั่งยืนเพื่อประโยชน์ ของประชาชนทั้งสองประเทศต่อไป



คุณอาจสนใจ

Related News