ประชาสัมพันธ์
GC ดัน Adjusted EBITDA ไตรมาสที่ 2 ปี 2568 โต 13% ดีขึ้นต่อเนื่องท่ามกลางความไม่แน่นอนของอุตสาหกรรม เร่งเสริมความสามารถทางการแข่งขันด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
โดย JitrarutP
21 ส.ค. 2568
226 views
กรุงเทพฯ – 21 สิงหาคม 2568 – บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ปี 2568 ด้วย Adjusted EBITDA 6,083 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาสก่อนหน้า ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกและอุตสาหกรรมที่ยังคงผันผวน สะท้อนถึงความก้าวหน้าในการเพิ่มศักยภาพการดำเนินงาน ควบคู่ไปกับการเพิ่มรายได้-ลดค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวทาง Holistic Optimization การขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อเสริมความสามารถทางการแข่งขัน พร้อมมุ่งสู่ธุรกิจมูลค่าสูง–คาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน
นายณะรงค์ศักดิ์ จิวากานันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GC กล่าวว่า “แม้ครึ่งปีแรกยังสะท้อนความท้าทายของอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจโลก แต่ GC ทิศทางการปรับตัวที่ชัดเจน ผ่านแนวทาง Holistic Optimization การขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ และการเดินหน้ากลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยเฉพาะการมุ่งสู่ธุรกิจมูลค่าสูง–คาร์บอนต่ำ ซึ่งจะช่วยเสริมความสามารถทางการแข่งขัน พร้อมสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ถือหุ้นและนักลงทุน
“ในขณะเดียวกัน ปัจจัยภายนอกหลายด้านเริ่มมีทิศทางเป็นบวกมากขึ้น ทั้งความชัดเจนด้านการค้าระหว่างประเทศ ตลอดจนมาตรการของจีนในการควบคุมกำลังการผลิต ผ่านนโยบาย Anti–Involution ที่มุ่งลดการแข่งขันที่ไม่สร้างมูลค่าและทยอยยุติกำลังการผลิตที่ล้าสมัย ซึ่งล้วนเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อเสถียรภาพของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในระยะยาว” นายณะรงค์ศักดิ์ กล่าวเสริม

เพิ่มขีดความสามารถด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล GC ได้เดินหน้าทรานส์ฟอร์มองค์กรผ่านแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพแบบองค์รวม หรือ Holistic Optimization ควบคู่กับการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในทุกมิติ ซึ่งครอบคลุม 3 ด้านหลัก ได้แก่
1. Smart Plant เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการเดินเครื่องแบบเรียลไทม์
• Plant-wide Optimization: ยกระดับประสิทธิภาพโรงงานแบบองค์รวม
• AI Vision & Drone Inspection: ใช้เทคโนโลยีตรวจสอบและซ่อมบำรุงเพื่อลดค่าใช้จ่ายและเสริมความปลอดภัย
• Asset Intelligent Monitoring: ใช้แบบจำลองและ AI คาดการณ์ปัญหาอุปกรณ์ล่วงหน้า
2. Smart Sales & Marketing ยกระดับกลยุทธ์การขายและการกำหนดราคาให้แม่นยำและตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น
• Price Prediction: ใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลและคาดการณ์ราคาอย่างมีประสิทธิภาพ
• Customer Acquisition & Retention: บริหารจัดการข้อมูลลูกค้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขาย การตลาด และการบริการ
3. Smart Work Process ปรับปรุงกระบวนการทำงานและบริหารจัดการข้อมูลจำนวนมากเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
• Lean & Process Improvement: ปรับปรุงกระบวนการทำงานให้กระชับและคล่องตัวผ่าน FiT Program
• Process Automation: ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้กระบวนการทำงานดำเนินไปแบบอัตโนมัติ
การดำเนินงานตามแนวทางดังกล่าว ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ลดต้นทุน และเสริมความปลอดภัย แต่ยังสะท้อนความก้าวหน้าของ GC ในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาขับเคลื่อนองค์กร ยกระดับความสามารถทางการแข่งขัน และวางรากฐานสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในระยะยาว
ในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 GC มีรายได้จากการขายรวม 133,381 ล้านบาท ใกล้เคียงไตรมาสก่อนหน้า แม้อุตสาหกรรมยังคงผันผวน เศรษฐกิจโลกยังฟื้นตัวช้า และเผชิญแรงกดดันจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ โดยบริษัทฯ มี Adjusted EBITDA 6,083 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาสก่อน ตอกย้ำศักยภาพการดำเนินการตามกลยุทธ์เสริมประสิทธิภาพ เพิ่มรายได้และควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ GC ยังคงรักษาความแข็งแกร่งด้านสภาพคล่อง โดยมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน 18,505 ล้านบาท และเงินสดรวมสินทรัพย์การเงินหมุนเวียนกว่า 27,888 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทางการเงินและเสถียรภาพของธุรกิจ
เดินหน้ากลยุทธ์ธุรกิจมูลค่าสูง–คาร์บอนต่ำ เติบโตอย่างยั่งยืน
นอกจากการเสริมความสามารถทางการแข่งขันด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลแล้ว GC ยังมุ่งพัฒนาการดำเนินงานอย่างยั่งยืนด้วยโครงการเชิงยุทธศาสตร์เพื่อสร้างความได้เปรียบในระยะยาว อาทิ โครงการใช้พลังงานความเย็นจากก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในกระบวนการผลิตโอเลฟินส์ ร่วมกับ บริษัท พีอี แอลเอ็นจี จำกัด (PE LNG) ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 60,000 ตันต่อปี โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2570
ในส่วนของธุรกิจเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ (Specialty Chemicals) ซึ่งขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนและเป็นส่วนสำคัญของการขยายธุรกิจมูลค่าสูง-คาร์บอนต่ำ GC เดินหน้าดึงศักยภาพของ allnex อย่างเต็มที่ ทั้งการขยายกำลังการผลิตในตลาดที่มีการเติบโตสูง อาทิ จีน อินเดีย การพิจารณาลงทุนเพิ่มเติมในมาบตาพุด สำหรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ควบคู่กับการยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานในทุกภูมิภาค ผ่านการปรับโครงสร้างต้นทุน (Cost Optimization) การบริหารจัดการการลงทุนอย่างรอบคอบ (CAPEX Prioritization) และการพัฒนากระบวนการเชิงพาณิชย์และการปฏิบัติการให้มีความเป็นเลิศ (Operational & Commercial Excellence)
พร้อมกันนี้ GC และ allnex ยังคงให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา (R&D) อย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอโซลูชันการเคลือบผิวที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การยกระดับประสิทธิภาพการใช้งาน หรือการสร้างคุณค่าเพิ่มเติมที่ช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จทางธุรกิจ ควบคู่กับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน
สำหรับโรงกลั่นชีวภาพ (Biorefinery) ของ GC ซึ่งสามารถผลิตน้ำมันอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) เชิงพาณิชย์ได้เป็นรายแรกในประเทศไทย ถูกนำไปใช้งานจริงแล้วโดยสายการบิน Bangkok Airways นอกจากนี้ ยังร่วมกับ HMC Polymers ผู้ผลิตเม็ดพลาสติก PP รายแรกและรายใหญ่ที่สุดของไทยพัฒนาผลิตภัณฑ์ Bio-Propylene ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มสูงที่หลากหลาย อาทิ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพและสุขอนามัย รวมถึงของใช้และของเล่นสำหรับเด็ก เป็นต้น
ทั้งนี้ GC มุ่งพลิกสถานการณ์ธุรกิจและวางรากฐานสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของการกำกับดูแลกิจการที่ดี ล่าสุด บริษัทฯ ได้รับ 2 รางวัลเกียรติยศจากเวที ASEAN Corporate Governance Awards 2025 ได้แก่ Top 50 ASEAN Public Listed Companies (PLCs) และ Top 5 Thailand PLCs ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ GC ในการยึดมั่นหลักธรรมาภิบาล ดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส และรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย สังคม และสิ่งแวดล้อม ตามมาตรฐานสากล
# # # # # # # # # # # # # # #
เกี่ยวกับ GC
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จํากัด (มหาชน) หรือ GC มุ่งมั่นเป็นผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับสากล เพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้นด้วยนวัตกรรมพลาสติกและเคมีภัณฑ์ ตามวิสัยทัศน์ของเราในการเป็นเคมีที่เข้าถึงทุกความสุข ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงดุลยภาพของสิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ (Governance & Economic) (ESG) ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของโลกอนาคต ควบคู่ไปกับการดูแลผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
GC เป็นบริษัทหนึ่งเดียวในโลก ที่ได้รับการจัดอันดับจากดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) ให้เป็นที่ 1 ในกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ ด้วยคะแนนสูงสุด 6 ปีต่อเนื่อง โดย S&P Global รวมถึงได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้นำระดับ A ในด้านการบริหารจัดการน้ำ ติดต่อกัน 5 ปี ซ้อน (ปี พ.ศ. 2563-2567) และระดับ B ในด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จาก CDP ปัจจุบัน GC มีฐานการผลิตและจัดจำหน่ายกว่า 90 แห่ง และศูนย์วิจัยและพัฒนากว่า 40 แห่ง ใน 20 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ GC ตั้งเป้าเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำควบคู่กับการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน และมุ่งสู่เป้าหมาย การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี พ.ศ. 2593
ข้อมูลเพิ่มเติม: บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GC)
จินตรัตน์ สายอินทวงศ์ โทร. 065-997-9959 E-mail: chintarat.s@pttgcgroup.com
ปรียารัตน์ บุญมี โทร. 085-295-5296 E-mail: preeyarat.b@pttgcgroup.com
ติดตามข่าวสารของ GC ได้ที่: www.pttgcgroup.com / LINE : @GCofficial / Facebook : GC.CorporateOfficial
ติดตามข่าวอื่นๆ ของ GC ได้ที่ : https://www.pttgcgroup.com/th/newsroom/news
แท็กที่เกี่ยวข้อง ข่าวประชาสัมพันธ์