อาชญากรรม
แม่ใจสลาย ร้องเอาผิดลุงวัย 60 เอาตุ๊กตาลวง 2 เด็กหญิงทำอนาจารคาแฟลต
โดย nicharee_m
13 ส.ค. 2568
730 views
สองแม่ใจสลาย ร้องสายไหมต้องรอด ลูกสาววัย 5 และ 6 ขวบ ถูกลุงเพื่อนร่วมแฟลตวัย 60 ปี กระทำอนาจารหลายครั้ง พร้อมให้ตุ๊กตาลวงเป็นรางวัล แจ้งความตำรวจบอกไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568 ที่ศูนย์ประสานงาน เพจสายไหมต้องรอด ตลาดจิงเกิลเบลส์ ถ.วัดเกาะ เขตสายไหม กทม. สองผู้เสียหายเข้าร้องขอความช่วยเหลือ หลังลูกสาววัย 5 และ 6 ขวบ ถูกลุง วัย 60 ปี เพื่อนร่วมแฟลต ย่านคลองเตย กระทำอนาจารหลายครั้ง ซึ่งทุกครั้งจะให้ตุ๊กตาติดมือกลับมา
โดย นางสาวซี (นามสมมติ) อายุ 30 ปี แม่ ด.ญ.เอ วัย 5 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ลูกสาวถูกลุง วัย 60 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมแฟลต ย่านคลองเตย กทม. มีอาชีพขายผลไม้ กระทำอนาจารหลายครั้ง
โดยลูกสาวของตนเองเพิ่งมาเล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ลูกสาว วัย 5 ขวบ และ หลานสาว วัย 6 ขวบ ถูกลุงเพื่อนร่วมแฟลตจับอวัยวะเพศ จากนั้นชวนเข้าห้อง และมีการกระทำอนาจารต่อลูก อีกทั้งลูกสาวยังเล่าให้ฟังอีกว่าลุงคนดังกล่าวมีการจับน้องแต่งหน้า และบอกว่าขอให้แต่งหน้าให้สวยๆ และเรียกน้องว่าเป็นเมียตัวเอง
ตนเองเพิ่งทราบจากลูกเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา จับสังเกตได้จากลูกสาวของตนเองคนเล็ก (ผู้เสียหาย) และลูกสาวคนกลางเล่นอยู่ด้วยกัน จากนั้นทะเลาะกัน แล้วลูกสาวคนกลางพูดเหมือนจะบอกอะไรบางอย่าง กระทั่งตนเองเค้นถาม จึงทราบว่าลูกสาวคนเล็ก ถูกลุงผู้ก่อเหตุกระทำอนาจาร
หลังจากที่ตนเองทราบจากลูก ก็เข้าไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าเรือ เพื่อปรึกษาว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง จากนั้นตำรวจบอกว่าไม่ใช่เหตุการณ์ซึ่งหน้าไม่สามารถทำอะไรได้ ตนเองจึงได้มีการถามกลับไปว่าต้องรอให้ลูกสาวตนเองถูกลวนลามหรือทำร้ายหนักกว่านี้ใช่หรือไม่
หลังจากนั้นตนเองจึงกลับมาและเข้าไปหาลุงวัย 60 ปี ผู้ก่อเหตุทันที และถามว่าได้กระทำอนาจารกับลูกสาวและหลานสาวของตนเองจริงหรือไม่ แต่ทางฝั่งผู้ก่อเหตุยืนยันว่าไม่เคยแต่ยอมรับว่าแค่หอมแก้ม แต่ทางฝั่งของลูกสาวและหลานสาวก็ยืนยันตรงนั้นว่าถูกลุงคนดังกล่าวกระทำอนาจาร หลังจากนั้นถึงเกิดเหตุการณ์ปะทะกันชุลมุน
หลังจากวันนั้นลุงคนดังกล่าวก็หายออกจากห้องพักไป หนีไปและไม่ได้มีการแจ้งความตัวเองกลับ ซึ่งตนเองมองว่าพฤติกรรมแปลก นอกจากนี้ก่อนหน้านี้ลุงคนดังกล่าวยังมีการใส่กางเกงในตัวเดียวออกมาหน้าห้องทำความสะอาดห้อง เหมือนเป็นพฤติกรรมชอบโชว์ ใส่ชุดนอนน่ารักๆ ซึ่งทำให้ตนเองคิดว่าลุงดูเป็นคนอ่อนโยน
อีกทั้งตนเองเคยเดินผ่านหน้าห้องของลุงคนดังกล่าวก็สังเกตเห็นว่ามีตุ๊กตาอยู่ภายในห้องจำนวนมาก กระทั่งตนเองมาทราบ ก็เริ่มเอะใจว่าลูกสาวเริ่มถือตุ๊กตากลับมาที่ห้องหลายครั้ง โดยเมื่อถามลูกสาวก็บอกว่าลุงคนดังกล่าวให้มา ซึ่งตนเองก็เข้าใจว่าแค่เอ็นดูและให้ตุ๊กตาเด็กเท่านั้น
บางครั้งยังมีการจ่ายเงินให้ลูกสาวเอาไว้ซื้อขนม พาลูกสาวและหลานสาวไปซื้อขนมที่ร้านค้าเป็นประจำ ซึ่งจากการที่ตนเองได้ไปสอบถามร้านค้าร้านค้าก็บอกว่าฝั่งผู้ก่อเหตุเป็นคนพาเด็กมา และพามาหลายครั้ง
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งให้ลูกสาวและหลานสาวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแล้วแต่อยู่ระหว่างการรอผลตรวจร่างกาย ทั้งนี้ตนเองอยากให้จับผู้ก่อเหตุมาให้ได้ เพราะขณะนี้ไม่ได้อยู่ที่ห้องพักแล้ว เพราะคิดว่าอาจจะเคยทำกับเด็กคนอื่นมาก่อนหน้านี้ อีกทั้งตนเองยังกังวลใจเพราะโทรศัพท์มือถือของผู้ก่อเหตุตามที่ลูกสาวเล่าให้ฟังคือถ่ายรูปลูกสาวในขณะที่กระทำอนาจารไว้ด้วย
ซึ่งหากฝั่งผู้ก่อเหตุได้ฟังอยู่ ตนเองยอมรับว่าไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดกับตัวเอง ทันทีที่รู้ใจของคนเป็นแม่แทบจะสลาย และอยากให้ผู้ก่อเหตุยอมรับกับความผิดที่ได้กระทำ เพราะผู้ก่อเหตุก็มีลูกสาวเช่นเดียวกันอยากให้รู้สึกละอายใจบ้าง
ด้าน นางสาวโอ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี แม่ ด.ญ.บี วัย 6 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ลูกสาวของตนเองก็ถูกชักชวนจากลุงผู้ก่อเหตุไปพร้อมกับหลานเช่นเดียวกัน ปกติลูกสาวก็จะเล่นกับน้อง วัย 5 ขวบ ซึ่งเป็นหลานอยู่ด้วยกันตลอด เวลาที่ลูกเลิกเรียนก็จะไปเล่นอยู่ที่แฟลตด้วยกัน เพราะลุงผู้ก่อเหตุเห็นก็จะชวนไปกินขนม ให้เงิน อีกทั้งมีการแต่งหน้าลูกสาวและหลานสาวก่อนที่จะกระทำอนาจารเด็ก มีการยื่นข้อเสนอจะให้เงินในแต่ละครั้งที่จะทำอนาจาร
ลูกสาวเล่าให้ฟังแม้กระทั่งว่า ผู้ก่อเหตุมีโทรศัพท์มือถือสองเครื่อง โดยใช้หนึ่งเครื่องถ่ายรูปส่วนอีกหนึ่งเครื่องให้ลูกสาวและหลานเล่น และบอกว่าจะเก็บรูปไว้ดูในขณะที่ไม่ได้เจอกัน มีการบอกลูกสาวห้ามบอกพ่อแม่ เพราะเดี๋ยวลุงจะโดนจับ
และมีพฤติการณ์ให้ตุ๊กตาติดไม้ติดมือลูกสาวมาด้วยเหมือนกัน แต่ตอนนั้นตนเองไม่ได้เอะใจ ตนเองเคยถามแต่ลูกสาวก็ตอบมาว่าลุงผู้ก่อเหตุเป็นคนให้มา แต่ตนเองก็เข้าใจว่าผู้ก่อเหตุเพียงแค่เอ็นดูเด็กเท่านั้น จนกระทั่งมาทราบความจริงจากลูกสาว
ทั้งนี้ ตนเองอยากบอกไปถึงผู้ก่อเหตุให้ยอมรับกับสิ่งที่ทำ เพราะถ้าทำผิดจริงต่อให้หนียังไงก็หนีไม่พ้นอยู่ดี ตนเองสงสารลูกมาก ซึ่งหากมีความเป็นคนอยู่ก็อยากให้ยอมรับกับสิ่งที่ทำ
ขณะที่ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า สำหรับกรณีดังกล่าว หลังจากได้ฟังสิ่งที่ แม่ทั้ง 2 ท่านเล่านั้น หากผู้ก่อเหตุก็ทำจริงก็เป็นพฤติกรรมที่เลวทรามมาก ส่วนตัวเชื่อเด็ก คำพูดของเด็กมักจะเป็นความจริง และเชื่อว่าไม่น่าจะก่อเหตุแค่เด็กสองคนนี้ และพฤติกรรมคือมีการให้ตุ๊กตาทุกครั้งที่มีการกระทำอนาจาร
อย่างไรก็ตาม ต้องฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าเรือ ให้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาสอบให้ได้ว่าก่อนหน้านี้เคยมีพฤติกรรมแบบนี้มาก่อนหรือไม่ พฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นภัยสังคมอย่างมาก ตนเองจะประสานไปยัง พม.ให้ช่วยเข้ามาดูแลสภาพจิตใจของเด็กหญิงทั้ง 2 คน
แท็กที่เกี่ยวข้อง ลวงเด็กอนาจาร