ชาวบ้านถึงกับยกมือสาธุ หลัง "เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย" ลาสิกขา ลั่นดีแล้วที่สึกไป

เช้าวันนี้ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปวัดพระพุทธฉาย ตำบลหนองปลาไหล อำเภอเมืองสระบุรี พบมีการทำบุญวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ซึ่งบรรยากาศยังคงมีประชาชนและลูกศิษย์วัดมาทำบุญจำนวนมาก โดยมีพระสงฆ์วัดพระพุทธฉาย ภาวนาศีล และมีชาวบ้านต่างจับกลุ่มคุยกัน เกี่ยวกับการถูกจับสึกของอดีตเจ้าอาวาส ซึ่งชาวบ้านกล่าวเป็นเสียงเดียวกัน พร้อมยกมือท่วมหัว "สาธุ" บอกว่าสึกไปได้ก็ดีแล้ว ซึ่งวัดไม่ได้เกี่ยวกับตัวบุคคล ความผิดอยู่ที่ตัวบุคคลไม่เกี่ยวกับวัด



ทีมข่าวเดินทางไปพบกับ นายสมัยพัฒนา อสัมภินนพงษ์ อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ตำบลหนองปลาไหล เผยว่า ตนเองเป็นผู้ใหญ่บ้านมา 13 ปีกว่า รู้ข่าวมานานแล้ว แต่ไม่มีใครกล้ายุ่ง และตัวเองก็ถูกทางวัดกีดกันมาโดยตลอด ระยะหลังมานี้ประมาณ 4-5 ปี ตนเองก็ไม่เคยเข้ามาในวัดนี้อีกเลย



หลังจากที่รู้ว่าอดีตเจ้าอาวาสถูกจับสึก ชาวบ้านต่างดีใจมาก และทำให้ชาวบ้านศรัทธาวัดมากขึ้น ซึ่งแต่ก่อนอดีตเจ้าอาวาสจะไม่ค่อยเอาชาวบ้านสักเท่าไหร่ จะเอาแต่พวกที่มีเงินมีทองเข้ามาในวัด ชาวบ้านจะเข้าไม่ถึงอดีตเจ้าอาวาส เวลามีเทศกาลอะไร จะไม่ค่อยมีชาวบ้านเข้ามา เนื่องจากเสื่อมศรัทธามากขึ้น



ส่วนตนเองก็เพิ่งกลับเข้ามาที่วัดเป็นวันแรก ตอนนี้อยากให้ติดตามเกี่ยวกับเรื่องเงินของวัด เพราะวัดพระพุทธฉาย มีรายได้จากการที่ชาวบ้านเช่าที่วัด เงินจัดเก็บจากร้านค้าที่มาตั้งขายของ เงินผ้าป่า กฐินของทุกๆ ปี ว่าทั้งหมดนี้ไปอยู่ที่ไหน และเงินที่ได้จากการเวนคืนที่ดินอีก ซึ่งไม่มีการชี้แจง และตอนนี้ทราบมาว่า ทางวัดไม่มีเงินจ่ายค่าคนงานแล้ว และเท่าที่ตนเองรู้เรื่องสีกา ก.นั้น ตนเองรู้ว่าไม่ได้มีแค่คนนี้เพียงคนเดียว แต่ยังมีคนอื่นอีกที่อยู่ในสระบุรี และเท่าที่ตนเองรู้ข่าวเรื่องสีกากอล์ฟ นั้นตนเองรู้ว่าไม่ได้มีแค่คนนี้เพียงคนเดียวแต่ยังมีคนอื่นอีกที่อยู่ในสระบุรี



ทางด้านนางสาวสวาด หอมทอง อายุ 60 ปี แม่ค้าขายกาแฟโบราณข้างวัด เล่าว่า หลังจากที่ตนเองทราบข่าวว่าอดีตเจ้าอาวาสถูกจับสึก ตนเองก็รู้สึกเสียความรู้สึก ที่รู้ว่ามามีข่าวแบบนี้ ซึ่งตนเองก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ ซึ่งตนเองก็ไม่ค่อยได้สัมผัสกับท่านเท่าไรนัก โดยส่วนตัวท่านก็ดีบ้างเป็นบางเรื่องแต่ไม่ทุกเรื่องไป ซึ่งถ้าชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถวนี้จะไม่ค่อยต้อนรับเท่าไร จะต้อนรับแต่พวกที่ใหญ่ๆ โตๆ คุณหญิงคุณนายพวกนี้



ส่วนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ส่วนน้อยที่จะเข้าไปทำบุญ แต่ก่อนจะเยอะมากสมัยที่พระครูองค์เก่าอยู่ คนใส่บาตรทำบุญศาลาคนจะไม่พอนั่งแน่นมาก หลังจากเจ้าอาวาสองค์ใหม่เข้ามาอยู่จะลื้อหมด ไม่ว่าจะเป็นกุฏิเก่าๆก็ถูกลื้อจนหมด ส่วนการพูดคุยกับชาวบ้านก็จะห้วนๆ ซึ่งถ้าชาวบ้านเข้าไปก็จะมองเฉยๆ ในด้านความรู้สึกหลังจากที่สึกไปแล้วตนเองคิดว่า ก็ดีแล้วที่สึกไป คนเราต้องรับความจริง จะให้คนมากราบไหว้อยู่ได้อย่างไร ซึ่งปกติตนเองก็ไม่เคยเข้าวัดอยู่แล้ว ทำบุญก็ใส่บาตรหน้าบ้านเฉยๆ ตนเองขอสาธุ โมทนาบุญด้วย



ทางด้านนางสุภัค เพลิงภูเขียว แม่ค้าขายของหน้าวัด เล่าว่าตอนแรกที่ตนเองรู้ข่าวก็รู้สึกตกใจเหมือนกัน แต่ก่อนที่ตนเองอยู่กรุงเทพก็พอรู้ข่าวในเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน แต่ไม่แน่ใจ ก็มีคนมาถามตนเองอยู่เหมือนกัน ตนเองก็ตอบไปว่าไม่เห็นและไม่รู้เลย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/KFE0tSZ10M8