“ทรัมป์” ส่งจดหมายรอบ 2 รีดภาษี “บราซิล” 50% อ้างปกป้องบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ ซัด “ลูลา” ล่าแม่มด “โบลโซนารู”

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอเมริกา ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินจากบราซิลจาก 10% เป็น 50% อ้างเพื่อปกป้องบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ และตอบโต้ “การล่าแม่มด” ต่อนายฌาอีร์ โบลโซนารู อดีตผู้นำบราซิลและพันธมิตรคนสำคัญ ด้านประธานาธิบดีลูลา ดา ซิลวาสวนกลับ เตรียมใช้มาตรการตอบโต้ เตือนอย่าแทรกแซงกิจการภายใน


ประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ร่อนจดหมายแจ้งภาษีกับอีก 7 ประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้มีชาติอาเซียน 2 ชาติ คือ ฟิลิปปินส์ (20%) และบรูไน (25%)


ทรัมป์ได้กล่าวโจมตีรัฐบาลบราซิลอย่างดุเดือดโดยกล่าวหาบราซิลว่าโจมตีเสรีภาพในการเลือกตั้งและสิทธิในการแสดงออกของชาวอเมริกัน ผ่านการเซ็นเซอร์แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึง Trump Media บริษัทของเขาเอง และเอ็กซ์ (X) ของอีลอน มัสก์ ซึ่งเคยถูกสั่งแบนชั่วคราวในบราซิล หลังจากเอ็กซ์ปฏิเสธที่จะแบนบัญชีที่รัฐบาลบราซิล ระบุว่ากระทำการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีบราซิลปี 2565


นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้กล่าวปกป้องนายฌาอีร์ โบลโซนารู อดีตประธานาธิบดีฝ่ายขวาจัดของบราซิล ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับทรัมป์จนได้รับสมญานามว่า “ทรัมป์แห่งดินแดนเขตร้อน” โดยระบุว่าการดำเนินคดีต่อนายโบลโซนารูในข้อหาพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2565 ถือเป็นเรื่องน่าอับอายและเป็นการล่าแม่มด ไม่ต่างจากการโจมตีคู่แข่งทางการเมืองที่เขาเองรู้ดี


เพื่อเพิ่มแรงกดดันในเรื่องนี้ ทรัมป์ได้ประกาศว่าจะสั่งให้ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (US Trade Representative) เริ่มการไต่สวนแนวปฏิบัติทางการค้าดิจิทัลของบราซิล ตามมาตรา 301 ซึ่งเป็นกระบวนการทางกฎหมายที่เคยใช้เป็นเครื่องมือในการขึ้นภาษีในอดีต


ทางฝั่งบราซิล ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ไม่ได้นิ่งเฉยและได้ออกมาตอบโต้ทันทีว่าการขึ้นภาษีใดๆ ต่อบราซิล จะถูกตอบโต้กลับ พร้อมเตือนทรัมป์ว่า “เขาต้องรู้ว่าโลกได้เปลี่ยนไปแล้ว เราไม่ได้ต้องการจักรพรรดิ” และย้ำว่าบราซิลจะไม่ยอมให้ใครมาแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของประเทศ เพราะไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย


การประกาศขู่บราซิลครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความเคลื่อนไหวใหญ่ของทรัมป์ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเขาได้ส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีนำเข้าสินค้าที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ไปยังประเทศคู้ค่าทั่วโลกแล้วอย่างน้อย 22 ประเทศ ซึ่งรวมถึง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไทย


นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังประกาศเก็บภาษีนำเข้าทองแดง 50% ด้วย โดยให้เริ่มมีผลบังคับใช้ทันที ในวันที่ 1 สิงหาคม โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ ตามมาตรา 232


ประเด็นที่น่าสนใจคือ สหรัฐฯ นั้นได้เปรียบดุลการค้ากับบราซิลอยู่แล้ว ซึ่งทำให้การตัดสินใจขึ้นภาษีครั้งนี้ถูกมองว่ามีแรงจูงใจทางการเมืองมากกว่าเหตุผลทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมโยงกับการพิจารณาคดีของโบลโซนารูและการปกป้องบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ