เลือกตั้งและการเมือง

“ทักษิณ” เดินทางถึงศาลแล้ว สืบพยานนัดแรกในคดี ม.112 ปมให้สัมภาษณ์กับสื่อเกาหลีใต้

โดย paranee_s

1 ก.ค. 2568

191 views

จากกรณีเมื่อปี 2558 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้ พาดพิงดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง คดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัวไป


วันนี้ (1 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ ห้องพิจารณา 902 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายทักษิณ ชินวัตร จำเลยในคดี "หมิ่นสถาบันเบื้องสูง" พร้อมทนาย ได้เดินทางมาตามศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดี "หมิ่นสถาบันเบื้องสูง" หมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐาน "ดูหมิ่นสถาบันฯ" ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์


โดยบรรยากาศที่ศาลอาญารัชดามีสื่อมวลชนจำนวนมากมาเฝ้าปักหลักในการทำข่าวครั้งนี้ โดยพบว่าในเวลา 07.55 น. นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางมาที่ศาลอาญารัชดา แต่เจ้าตัวไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมาชน


ต่อมาเวลา 8.25 น. นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวนายทักษิณ ชิณวัตร ได้เดินทางมาที่ศาลอาญาและได้ให้สัมภาษณ์ นายวิญญัติ ระบุว่า ศาลได้นัดสืบพยานแบบต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน คือ วันที่ 1 กรกฎาคม ถึงวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 โดยฝั่งโจทก์มีพยานทั้งหมด 10 ปาก จำเลย 14 ปาก พร้อมบอกว่าการสืบพยานมีทั้งหมด 7 นัด แต่สามารถเสร็จก่อน 7 นัดได้ ขึ้นอยู่กับกระบวนการของศาล ส่วนนัดสุดท้ายในการสืบพยานคือวันที่ 23 กรกฎาคม


สำหรับอัยการที่เป็นโจทก์ฟ้องนายทักษิณชินวัตร วันนี้ถือว่าเป็นนัดแรก ใน 3 นัด ที่โจทก์นำพยานหลักฐานขึ้นสืบพยานในข้อหาความผิดมาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โดยฝ่ายโจทก์จะนำพยาน 3 ปากที่ได้นัดไว้จาก10ปากมาขึ้นเบิกความ และทนายฝ่ายจำเลยถามค้าน ส่วนกระบวนการพิจารณาก็มีเพียงเท่านี้ เพราะยังไม่ถึงเวลาที่นายทักษิณจะขึ้นมาเบิกความ


เมื่อถามว่านายทักษิณจะต้องเดินทางมาที่ศาลอาญาทุกรอบเลยหรือไม่ นายวิญญัติ ระบุว่า คดีนี้ เป็นคดีที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว และได้รับการประกันตัวระหว่างพิจารณา ซึ่งนายทักษิณจะต้องมาปรากฏตัวต่อศาล เพราะในวันนี้เป็นนัดแรก ส่วนหลังจากนี้จะต้องดูว่าศาลจะออกข้อกำหนดในการพิจารณาคดีว่าอย่างไร เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และราบรื่นต่อการพิจารณาคดี


เมื่อถามว่า จะมีการพิจารณาลับหลังจำเลยหรือไม่ นายวิญญัติ ระบุว่า ตามประมวลกฎหมายพิจารณาคดีอาญาการจะขอสืบพยานลับหลังจะต้องมีอัตราโทษไม่เกิน 10 ปี แต่คดีนี้สูงกว่า 10 ปี และอาจเป็นข้อยกเว้น แต่ถ้าหากจำเป็น และจำเลยมีทนายอยู่แล้ว ก็ขอพิจารณาลับหลังได้ แต่นายวิญญัติ ยืนยันว่าเบื้องต้นนายทักษิณจะขอรับเข้าการพิจารณาคดีทุกรอบหากไม่นิดภารกิจ


เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าประเด็นที่ติดใจคือเรื่องการให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างชาติว่าอาจจะมีการแปลผิด ยังคงติดใจในประเด็นนี้อยู่หรือไม่ นายวิญญัติ ระบุ ภายใน 1-2 วัน จะมีการพิจารณาเรื่องคลิปการสัมภาษณ์อย่างแน่นอน และจะทำให้เห็นว่าคลิปวิดีโอดังกล่าวน่าเชื่อถือหรือไม่ และมีการเก็บพยานหลักฐานมาได้อย่างไร สิ่งเหล่านี้เป็นขั้นตอนในการพิสูจน์หลักฐาน ที่เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และอิเล็กทรอนิกส์


เมื่อถามว่าศาลจะให้น้ำหนักในเรื่องใด ในการพิจารณาคดี นายวิญญัติ ระบุว่า ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของท่านไม่สามารถก้าวล่วงท่านได้ ดังนั้นการพิจารณาคดีอาญามีหลักสำคัญ หลักเดียว จำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง หรือไม่มีพยานหลักฐาน มีน้ำหนัก เพียงพอหรือไม่


นอกจากนี้บริเวณหน้าศาลอาญายังพบว่ามีประชาชนกลุ่มหนึ่ง (4-5คน) สวมเสื้อยืดลายธงชาติไทย และเขียนคำว่า “คนไทยไม่ขายชาติ” ซึ่งจากการสอบถามจากกลุ่มบุคคลดังกล่าว บอกว่า “ตั้งใจเดินทางมาที่ศาลอาญาหลังจากรู้กำหนดการว่านายทักษิณจะเดินทางมาฟังการสืบพยานในนัดแรก หวังว่านายทักษิณ จะเห็นข้อความที่อยู่บนเสื้อ”


เวลา 09.10 น. มีรายงานว่า นายทักษิณ เดินทางมาถึงที่ศาล แต่หลบสื่อ โดยเข้าประตูด้านข้างเพื่อขึ้นไปยังห้องพิจารณาคดี ก่อนที่รถ Mercedes-Maybach สีดำ - เงิน ทะเบียน 267 กทม. ของนายทักษิณจะเข้ามาจอดบริเวณด้านข้างของศาล ที่มีสื่อมวลชนปักหลักรอทำข่าวอยู่


นอกจากนี้ ยังมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางมาที่ศาลอาญา ด้วยเช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้มีการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ