คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา แสดงจุดยืนแข็งกร้าว ชี้ไทยปิดด่านฝ่ายเดียว ละเมิดสิทธิมนุษยชน

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของกัมพูชา ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนอย่างแข็งกร้าว ต่อกรณีที่ประเทศไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยระบุว่าเป็นการกระทำที่ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพ

เนื้อหาในแถลงการณ์ระบุว่า ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวต่างๆ รวมถึงประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย และผู้ที่เดินทางข้ามพรมแดนระหว่างสองประเทศ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา ขอแสดงความกังวลอย่างสุดซึ้งต่อการที่ประเทศไทย ปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียวเมื่อเร็วๆ มานี้ การปิดพรมแดนอย่างกะทันหันและขาดการประสานงานนี้ ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ซึ่งประกอบด้วย

1. สิทธิเสรีภาพในการเดินทาง การปิดพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียวของไทย ทำให้บุคคลต่างๆ ทั้งแรงงาน, พ่อค้า, ผู้เดินทาง และครอบครัว ต้องติดค้าง ไม่สามารถข้ามพรมแดนด้วยเหตุผลอันชอบธรรมได้ การปิดพรมแดนนี้ได้ขัดขวางเสรีภาพในการเดินทาง ซึ่งเป็นเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่ได้รับการรับรองไว้ในตราสารสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เช่น ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (ข้อ 13) และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ข้อ 121)

2. สิทธิในการมีมาตรฐานการครองชีพที่เพียงพอ การปิดพรมแดนอย่างกะทันหันนี้ ส่งผลกระทบเชิงลบอย่างใหญ่หลวงต่อผู้ที่ต้องเดินทางข้ามพรมแดนเป็นประจำทุกวัน รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าและผู้ประกอบการรายย่อยที่ข้ามพรมแดนเพื่อการดำรงชีพ พวกเขาจะสูญเสียแหล่งรายได้หลัก ซึ่งก่อให้เกิดความยากลำบากทางการเงิน, ความไม่มั่นคงทางอาหาร, ปัญหาด้านที่อยู่อาศัย และปัญหาสุขภาพจิต สิทธินี้ได้รับการรับรองโดยกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (ข้อ 11)

3. สิทธิในการทำงาน การปิดพรมแดนของไทยได้ขัดขวางไม่ให้แรงงานที่เดินทางข้ามพรมแดนรายวัน สามารถไปถึงที่ทำงานได้ การกระทำนี้เป็นการละเมิดสิทธิในการทำงานซึ่งระบุไว้ในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (ข้อ 23) และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (ข้อ 6)

4. สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล แรงงาน, พ่อค้า และผู้เดินทางหลายพันคนที่มีเหตุผลอันชอบธรรมในการเดินทางต้องตกค้างและเกิดความสับสน เนื่องจากการปิดพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียวของไทยโดยไม่มีการแจ้งเตือนหรือประกาศล่วงหน้า สิทธินี้ได้รับการคุ้มครองโดยกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ข้อ 19)

5. สิทธิในสุขภาพและการศึกษา แม้ว่านักเรียนและผู้ป่วยจะยังได้รับอนุญาตให้ข้ามพรมแดนได้ แต่ก็ยังคงมีอุปสรรคและความยากลำบากในการเข้าถึงบริการเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านเอกสาร สิทธิเหล่านี้ได้รับการคุ้มครองโดยกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (ข้อ 12, 13 และ 14)

6.การค้ามนุษย์ เมื่อช่องทางการข้ามแดนที่ถูกกฎหมายและปลอดภัยถูกปิด ประชาชน โดยเฉพาะแรงงานที่สิ้นหวัง จะถูกบีบให้ใช้เส้นทางการเข้าเมืองที่ไม่ปกติ ความสามารถที่จำกัดของเจ้าหน้าที่ในการคัดกรองยิ่งเพิ่มความเสี่ยงสูงต่อการค้ามนุษย์และการแสวงหาประโยชน์จากแรงงาน โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้หญิง, เด็ก, ผู้สูงอายุ และผู้พิการ