“สนธิญา” ยื่น กกต.ยุบ “รทสช.” ปมขัด พ.ร.ป.พรรคการเมือง เตรียมหอบหลักฐานให้ “ภูมิใจไทย” ช่วยซักฟอก “พีระพันธุ์”

วันนี้ (25 มิ.ย. 68) นายสนธิญา สวัสดี เดินทางมาสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้งให้ยุบพรรครวมไทยสร้างชาติ


นายสนธิญา กล่าวว่า ตนเองจะนำเอกสารทั้งหมดที่ยื่นต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เกี่ยวกับกรณีของการถือหุ้นของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ไปยื่นให้กับพรรคภูมิใจไทย เพื่อใช้ประกอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ ซึ่งจะรวมถึง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีด้วย ในการตั้ง ครม. ที่อาจฝ่าฝืนจริยธรรมด้วย โดยขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการประสานเพื่อยื่นเอกสาร


นายสนธิญา กล่าวต่อว่า ตนเองเชื่อมั่นว่าในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะรับเรื่องที่ประธานวุฒิสภาทำหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญ และจะสั่งวินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรียุติการปฏิบัติหน้าที่ ด้วยเหตุผลคือขณะนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศไทย และประเทศกัมพูชานั้น เป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคลทั้งสองตระกูล โดยหากยังปล่อยไว้จะเกิดปัญหาคาราคาซังมากขึ้นเรื่อย ๆ


ส่วนในวันนี้ที่มาร้องให้ยุบพรรครวมไทยสร้างชาติ ตนเองยืนยันว่านายพีระพันธุ์ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ หากเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ทั้งชุมนุม หากมีการบาดเจ็บ เสียชีวิต มีความวุ่นวายเกิดขึ้น นายพีระพันธุ์ และนายเอกนัฏ จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะตัวเองอ้างมาตลอดว่าเป็นดีเอ็นเอของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ดังนั้น วันนี้การที่อะไรก็ตามจะเกิดขึ้น ก็เท่ากับว่านายพีระพันธุ์ และนางเอกนัฏ พาคนไปตาย ซึ่งประชาชนผิดหวังกับการที่พรรครวมไทยสร้างชาติตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลต่อ เหมือนเข้าไม่ช่วยผีเน่ากับโลงผุ


นายสนธิญา กล่าวถึงเหตุผลที่มายื่นร้องต่อ กตต. ในวันนี้ ในเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นโมฆะ ไม่ผ่านมติพรรคตามพ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 โดยการกระทำฝ่าฝืนต่อมาตรา 28 ให้บุคคลภายนอกชี้นำ ครอบงำ กรณีที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เข้าไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เพราะนายทักษิณ เคยเป็นอดีตผู้ต้องขัง และเรื่องอยู่ในศาลฎีกาขณะนี้ และเป็นผู้ต้องหา มาตรา 112


นายสนธิญา กล่าวต่อว่า นายพีระพันธุ์ ไปประชุมที่โรงแรมโรสวูด แล้วประกาศสนับสนุนนายกฯ แพทองธาร ที่ขัดต่อมติพรรค นายพีระพันธุ์ใช้สิทธิอะไร ในการไปประกาศร่วมรัฐบาลที่ขัดต่อมติพรรค


ส่วนการที่อดีตรองหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคนายวิทยา แก้วภราดัย และนายจุติ ไกรฤกษ์ เปิดเผยถึงมติพรรคให้เปลี่ยนแปลงตัวนายกฯ มิเช่นนั้น พรรครวมไทยสร้างชาติ จะถอนตัว ในกรณีการเข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้ ดังนั้น ที่นายพีระพันธุ์ประกาศนั้น ได้ใช้มติของพรรคที่มีกรรมการบริหารเข้าร่วมประชุมด้วยหรือไม่


นายสนธิญา กล่าวอีกว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ สนับสนุน และรับรู้ รับเห็นเรื่องความแตกแยก รวมทั้งคลิปสนทนาของนายกฯ แพทองธารกับสมเด็จฯ ฮุน เซน แล้วไปดูถูกดูหมิ่นแม่ทัพภาคที่ 2 โดยการเจรจาที่บอกว่าจะให้ทุกอย่างที่สามารถทำได้ เพื่อให้สถานการณ์กลับมาปกติ เป็นการคุกคาม หรือทำสัญญาตกลง ในลักษณะที่ขัดต่อจริยธรรม และทำให้เกิดความวุ่นวายต่อพี่น้องประชาชนคนไทย เพราะนายกรัฐมนตรีไม่สามารถไปยกสินค้า หรือดินแดนให้กับคนใดคนหนึ่งได้ จึงเป็นที่มาของการฝ่าฝืนจริยธรรมมาตรา 45


นายสนธิญา กล่าวอีกว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้รับการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีเช่นเดิมอันเป็นการตกลงเรียกรับหรือยอมรับประโยชน์ ในการดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขัดต่อพรป.พรรคการเมือง มาตรา 46 และอีกหลายประเด็นทั้งหมดรวม 12 ข้อ จึงอยากให้พิจารณาวินิจฉัยยุบพรรครวมไทยสร้างชาติ และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติทั้งหมด ส่วนพรรคอื่นจะพิจารณาเป็นจุด ๆ ไป เช่น พรรคประชาธิปัตย์ พรรคกล้าธรรม พรรคชาติไทยพัฒนา


ส่วนกรณีที่นายเอกนัฏ บอกว่าพายเรือให้กับบุคคลอื่นในสถานะที่ประเทศไทยมีปัญหา หรือมีปัญหาชายแดน ขอยืนยันว่านักการเมืองไม่เกี่ยว เพราะปัญหาชายแดนเป็นเรื่องของทหาร และประเด็นที่บอกว่าเรามีปัญหากับสหรัฐฯ ผ่านมากี่เดือนแล้วที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษี ดำเนินการถึงไหนแล้ว และการพายเรือให้เรือลำนี้มันผ่านไป จะพายเรือเพื่อศักดิ์ศรีของคนในชาติไทย หรือพายเรือเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองกันแน่


“พร้อมฝากถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ กรุณาอย่าแอบอ้างชื่อขององคมนตรี ฯพณฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เลย ท่านไม่ได้มายุ่ง ท่านอยู่เหนือการเมืองตามแล้วธรรมนูญมาตรา 12 ไปแล้ว” นายสนธิญา กล่าว