เลือกตั้งและการเมือง
"ไอติม" ขอบคุณ "ภูมิใจไทย" ฝ่ายค้านน้องใหม่ เสนอซักฟอกนายกฯ-ครม. แต่ยังไม่ฟันธงร่วมยื่นด้วย
โดย nutda_t
25 มิ.ย. 2568
47 views
25 มิ.ย. 2568 ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย เตรียมเสนอขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรี ในการเปิดสมัยการประชุมในวันที่ 3 กรกฎาคม ว่า ต้องขอบคุณพรรคฝ่ายค้านน้องใหม่ อย่างพรรคภูมิใจไทย ที่เชิญชวนพรรคร่วมฝ่ายค้านผ่านสื่อมวลชน เรื่องแนวคิดเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 แต่ในส่วนของพรรคประชาชน วางหลักการไว้ว่า ยืนยันว่าจะใช้ทุกกลไกของรัฐสภาในการตรวจสอบรัฐบาลแก้ไขปัญหาให้กับประเทศ การอภิปรายตามมาตรา 151 และ 152 รวมถึงกรรมาธิการฯ โดยสถานการณ์ประชาชนจำนวนไม่น้อยเริ่มสูญเสียความไว้วางใจต่อรัฐบาล เราก็พร้อมเป็นตัวแทนในการตรวจสอบรัฐบาล
จึงแน่นอนขอยืนยันว่ากลไก 151 มาแน่นอน อาวุธแต่กลไกนี้เป็นอาวุธที่ทรงพลัง แต่ใช้ได้เพียงหนึ่งครั้งต่อสมัยการประชุม คือตั้งแต่ในวันที่ 3 กรกฎาคม ปี 68 ถึง 2 กรกฎาคม ปี 69 จะใช้ได้เพียงหนึ่งครั้ง ดังนั้นแม้จะเป็นอาวุธที่ทรงพลัง แต่ต้องใช้อย่างแม่นยำและต้องหวังผล ทั้งมติในสภาและความไม่ชอบธรรมของรัฐบาล แต่อีกมุมหนึ่งก็ไม่ต้องการให้ใช้อาวุธนี้อย่างเสียของ เพราะหากใช้ไปแล้ว นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด จะกลายเป็นว่าไม่สามารถใช้กลไกนี้ได้อีก แม้จะมีนายกฯ คนใหม่เข้ามา จึงจำเป็นต้องหารือเรื่องจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 โดยจะหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน
ส่วนที่ทางรัฐบาล ระบุว่าเพิ่งมีการปรับคณะรัฐมนตรีใหม่ ควรให้เวลาทำงานก่อนนั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า ไม่ได้เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นนัก เพราะนายกรัฐมนตรียังเป็นคนเดิม แม้ปรับครม. จะเปลี่ยนไปบ้าง ซึ่งเชื่อว่ารัฐมนตรีใหม่ส่วนหนึ่งเป็นคนที่ทำงานอยู่ในรัฐบาลชุดที่แล้ว จึงต้องขอดูก่อนว่าครม. ใหม่ที่จะตั้งประกอบด้วยใครบ้าง จะได้สรุปถูกว่านอกจากจะยื่นไม่ไหวไว้วางใจนายกฯแล้ว จะยื่นไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีคนใดอีกบ้าง ทั้งนี้ในระหว่างการรอหารืออยากจะสื่อสารไปถึงนายกฯ อยากให้ใช้เวลาในช่วงนี้ทบทวนการทำหน้าที่ของตัวเอง ตนเข้าใจว่าสถานการณ์ในปัจจุบันมีหลายมิติ การตัดสินใจของรัฐบาลอาจจะมีการเลือกวิธีที่ถูกบ้างผิดบ้าง ในฐานะฝ่ายค้านก็จะพยายามเสนอแนะหากเห็นว่าดำเนินไปในทางที่ไม่ถูกต้อง แต่คิดว่าคุณสมบัติของผู้นำเมื่อใดก็ตามที่ผิดพลาดไปก็ควรต้องรู้ตัวเอง และการที่นายกรัฐมนตรีออกมาให้สัมภาษณ์ว่าคลิปเสียงที่คุยกับสมเด็จฮุนเซน ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศ เป็นการสะท้อนให้เห็นว่านายกฯ ยังไม่ทบทวนอย่างจริงจังในข้อผิดพลาดที่ทำไปเป็นอย่างไร จึงอยากให้นายกฯ ทบทวนตัวเองว่าพร้อมจะทำหน้าที่ต่อหรือไม่ หากทบทวนแล้วคิดว่าไม่สามารถเรียกความไว้วางใจจากประชาชนกลับคืนมาได้ ทางพรรคยืนยันว่าทางออกที่ดีที่สุดคือการยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชน เพราะเมื่อใดก็ตามที่ได้ยื่นญัตติไปแล้ว ทางเลือกของนายกฯในการยุบสภาก็จะไม่มีอีกต่อไป
ส่วนเมื่อพรรคภูมิใจไทย ประกาศจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจออกมาแล้วจะมีการทบทวนหรือชะลออย่างไรนั้น นายพริษฐ์ ย้ำว่าการยื่นญัตติ ตามมาตรา 151 จะต้องหารือร่วมกันระหว่างพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่ก็ถือว่าเป็นแนวคิดของพรรคฝ่ายค้านน้องใหม่ ที่ยื่นผ่านสื่อมวลชน แต่ในเชิงทางการพรรคประชาชนได้นัด สส. หารือกันอยู่แล้วในเรื่องนี้ และเมื่อได้ข้อสรุปก็จะหารือร่วมกับฝ่ายค้านพรรคอื่น เพราะมีการเปลี่ยนองค์ประกอบรัฐบาลจึงต้องมีการหารือร่วมกัน ทั้งเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 และสัดส่วนวิปฝ่ายค้าน
เมื่อถามว่าเป็นเพราะมีข้อมูลไม่เพียงพอหรือไม่ นายพริษฐ์ ปัจจัยไม่ใช่เรื่องข้อมูลแต่เป็นเรื่องของจังหวะเวลา ที่จะใช้ได้ผลและไม่เสียของ ซึ่งเรื่องนี้พร้อมหารือกับพรรคภูมิใจไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพราะทุกคนเห็นถึงสถานการณ์และความไม่พอใจของสังคมต่อการทำหน้าที่นายกฯ ดังนั้นข้อมูลที่พรรคภูมิใจไทยมีจะต้องนำมากลางเพื่อพูดคุยกัน เพราะถ้าเป็นข้อมูลใหม่ ที่เกี่ยวกับการทำงานของพรรคแกนนำรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาถ้านำเสนอต่อสังคมก็อาจทำให้ชัดเจนขึ้นว่าเหตุใดจึงควรไม่ไว้วางใจรัฐบาลชุดนี้ แต่ก็จะมีคำถามกลับไปเหมือนกันว่าที่ผ่านมาหากมีข้อมูลนี้มาตลอดทำไมถึงพึ่งมานำเสนอต่อสังคมตอนนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะรีบหารือกัน และหวังว่าในวันที่ 3 กรกฎาคม ก็จะมีการเปิดสมัยประชุมสภา ซึ่งมีข่าวแว่วมาว่าจะไม่มีการเรียกประชุม เพราะจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีหนังสือเชิญ ถือว่าผิดวิสัยมาก เพราะปกติแล้วหากวันเปิดสมัยการประชุมตรงกับวันพฤหัส แล้วจะมีเพียงวันเดียว แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่ไม่เคยไม่เรียกการประชุม หวังว่าประธานจะเร่งดำเนินการเรื่องนี้
เมื่อถามย้ำว่าการตีเหล็กควรตีตอนร้อนหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่าเข้าใจความคิดนี้ ว่าควรต้องยื่นเร็ว แต่ขอย้ำว่าอาวุธนี้ต้องใช้อย่างแม่นยำ จึงควรต้องหารือกันและใช้ในจังหวะที่เหมาะสม และอย่างน้อยที่สุดควรรอการตั้งครม. ชุดใหม่จะได้รู้ว่าต้องยื่นใครบ้าง เมื่อถามว่ามองว่ารัฐบาลยังมีเสถียรภาพและเสียงสนับสนุนเพียงพอใช่หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้มองเรื่องนั้น และความจริง การที่รัฐบาลตัดสินใจชะลอ ร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ก็เป็นการยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ แม้จะอ้างว่าเพื่อรอรับฟังเสียงของประชาชนเพิ่มเติม แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่จริง แต่มองว่าที่ต้องชะลอไปเพราะเสียงในสภาไม่พอ เพราะถ้าย้อนกลับไปดูก่อนหน้านี้ จะเห็นว่าตัวแทนพรรคเพื่อไทยยืนยันมาตลอดว่าจัดกิจกรรมรับฟังความคิดเห็น และประชาชนตอบรับดี ดังนั้นการเลื่อนวาระนี้ไปไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการฟังเสียงประชาชน ตนเชื่อว่าเลื่อนเพราะเสียงไม่พอ และสะท้อนว่าเสถียรภาพของรัฐบาลไม่ได้เป็นอย่างที่พรรคร่วมรัฐบาลพยายามนำเสนอ และในกรณีพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ต้องหักเสียงของพรรคประชาชาติออกไป และยังไม่นับกับสส. ของพรรคร่วมรัฐบาลบางคนที่อาจไม่เห็นด้วย ทั้งนี้ นายพริษฐ์ ยังย้ำว่า สำหรับร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ทางออกไม่ควรเป็นการเลื่อน แต่ควรจะเป็นการถอนออกมา แต่ตนเดาว่ารัฐบาลน่าจะมาทางนี้ โดยให้ชะลอและอ้างการรับฟังเสียงประชาชน ดังนั้นถ้าจริงใจที่จะฟังเสียงของประชาชนควรถอนไม่ใช่เลื่อนออกไป
เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทย ที่มีจุดยืนไม่ตรงกันรับมาเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะทำให้การทำงาน มีปัญหาหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า โดยระบบรัฐสภาฝ่ายค้านไม่มีสิทธิ์เลือก เหมือนที่ตนเคยเปรียบเปรยไว้ว่าพรรคร่วมรัฐบาลกับคนที่เป็นแฟนกัน แต่พรรคฝ่ายค้านเหมือนคนโสดที่เหลืออยู่มาร่วมกัน จึงเลือกไม่ได้ และตั้งแต่มีสภานี้มา พรรคประชาชนต้องอยู่ร่วมกับพรรคฝ่ายค้านมากมายไปหมด บางพรรคตอนแรกก็เป็นฝ่ายค้าน แต่พอมีโอกาสร่วมรัฐบาลก็ไปร่วมทันที บางพรรคอาจจะเคยอยู่รัฐบาลแต่ก็มีครึ่งหนึ่งมาอยู่ฝ่ายค้าน จึงคิดว่าพรรคประชาชนเดินหน้าทำงานตามจุดยืนแนวทางของเรา อะไรที่ต้องร่วมมือกันกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็ให้เกียรติซึ่งกันและกัน แต่ก็ต้องรักษาจุดยืนและหลักการของตัวเอง
เมื่อถามว่าการตรวจสอบรัฐบาลอาจเป็นการตรวจสอบย้อนหลังถึงพรรคภูมิใจไทยด้วย จะทำให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตรงไปตรงมา เราตรวจสอบทุกคนที่มีอำนาจใครก็ตามใช้อำนาจรัฐแทนประชาชนโดยมิชอบ โดยใช้ภาษีของประชาชนโดยไม่สมเหตุสมผล เราจะตรวจสอบทั้งหมด
นายพริษฐ์ ยังกล่าวถึงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่สอง ที่จะต้องมีการเลือกใหม่ว่า แม้เสียงของรัฐบาลและฝ่ายค้านจะก้ำกึ่งกัน แต่ฝ่ายค้านยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ขอให้ฝ่ายรัฐบาลพูดคุยกันก่อนว่าจะส่งใคร เพราะความเห็นในรัฐบาลก็ยังไม่ตรงกันเลย
แท็กที่เกี่ยวข้อง ไอติมพริษฐ์ ,พรรคภูมิใจไทย ,พรรคประชาชน ,อภิปรายนายก