รวบแก๊งบัลแกเรีย ใส่ชุดช่าง ตระเวนลอบติดตั้งเครื่องส่งไวรัสเข้าตู้ ATM รบกวนระบบ แอบดูดเงิน

ตำรวจไซเบอร์บุกรวบชายชาวบัลแกเรีย ปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงของธนาคาร เปลี่ยนสายรับส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ภายในตู้เอทีเอ็ม เพื่อให้เวลากดเงินแล้ว เงินจะออกมามากกว่าที่กด แต่โชคดีที่ธนาคารตรวจเจอก่อนเลยยังไม่เกิดความเสียหาย



กล้องวงจรปิดในซอยแห่งหนึ่งย่านพระโขนง กรุงเทพฯ จับภาพคนร้ายเป็นชายชาวต่างชาติ 2 คน ใส่ชุดคล้ายช่าง ถือป้ายและกล่องอุปกรณ์เดินไปที่หน้าตู้ ATM ก่อนจะใช้กุญแจมาสเตอร์คีย์ไขหน้าตู้ ATM แล้วถอดเปลี่ยนสายรับส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ภายในตู้ ก่อนจะเอาสายรับส่งข้อมูลเส้นใหม่ที่มีไวรัสชื่อว่า "jackpot" ฝั่งอยู่ ซึ่งคนร้ายเตรียมมาใส่เข้าไปแทน เพื่อให้รบกวนการทำงานของตู้ ATM และระบบไฟฟ้า ทำให้การถอนเงินออกจากตู้ ATM ที่ติดตั้งสายนี้เกิดความผิดปกติ คือ จะปล่อยเงินออกมามากกว่าจำนวนที่กด



พันตำรวจเอก วีร์กวิน เสริมศรีธนชัย ผู้กำกับการ 3 บก.สอท. บอกว่า คนร้ายจะเลือกตู้ ATM ที่เป็นรุ่นเก่าที่สามารถใช้กุญแจมาสเตอร์คีย์ได้ บางแห่งอยู่ตามร้านสะดวกซื้อ บางแห่งอยู่ติดกับธนาคาร แต่คนร้ายจะเลือกลงมือหลังเวลาธนาคารปิดทำการแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีตู้ ATM 13 ตู้ ของ 2 ธนาคาร ที่โดนเปลี่ยนสายรับส่งข้อมูล มีทั้งในกรุงเทพมหานคร / นนทบุรี / สมุทรสาคร และ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แต่โชคดีที่ธนาคารมีระบบป้องกันตนเอง จึงสามารถตรวจสอบและดักจับไวรัสดังกล่าวไว้ได้ทัน จึงไม่เกิดความเสียหาย



สำหรับวิธีการของคนร้าย คือ เช่ารถ Honda รุ่น City สีขาว มาขับตระเวนหาตู้ ATM เป้าหมาย จากนั้นจะเอารถไปจอดห่างจากตู้ เพื่อป้องกันการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ จากนั้นจะใส่ชุดช่างลงมา ทำทีว่าเป็นคนของธนาคารมาซ่อมตู้ ATM แล้วค่อยเปลี่ยนสายรับส่งข้อมูล โดยใช้เวลาก่อเหตุราว 10- 15 นาที เท่านั้น จากการตรวจสอบเชื่อว่า น่าจะมีผู้ร่วมขบวนการ 2-3 คน เพราะน่าจะมีชุดที่ทำหน้าที่กดเงินด้วย




ตำรวจจึงขอศาลออกหมายจับ นายอีวาน วัลเซฟ สัญชาติบัลแกเรีย วัย 50 ปี ที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านหรู พื้นที่ ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จากการตรวจค้นเจอสายรับส่งข้อมูลที่ถูกขโมยไป บัตรที่ติดตั้งระบบชิปการ์ด ซึ่งเชื่อว่าน่าจะใช้สำหรับกดเงินจากตู้ ATM ที่ติดตั้งสายรับส่งไวรัส และยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เชื่อว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำความผิดอยู่ภายในไปตรวจสอบด้วย




เบื้องต้น นาย อีวาน ยอมรับว่า ของกลางที่พบในบ้านเป็นของตัวเองจริง และเป็นคนเปลี่ยนสายรับส่งข้อมูลในตู้ ATM จริง แต่ทำคนเดียว ไม่มีคนอื่นร่วมขบวนการ ส่วนเหตุยังไม่ยอมบอกว่าทำไปเพื่ออะไร แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เพราะในกล้องวงจรปิดเจอคนอื่นร่วมก่อเหตุด้วย

เบื้องต้น แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดขวางสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด ร่วมกันกระทำการโดยไม่ชอบโดยใช้วิธีอิเล็กทรอนิกส์ดักรับข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น กระทำการโดยไม่ชอบเพื่อทำให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ถูกระงับขัดขวางหรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ อันก่อให้เกิดความเสียหายต่อข้อมูล หรือความมั่นคงทางเศรษฐกิจ

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/M9vHPDofMEU