คณะวิศวกรรม ม.ดัง ตั้งกรรมการสอบ หนุ่มนักศึกษา ป.โท ซ้อมสาวน่วม ย้ำจุดยืนต้านความรุนแรง

คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยดังเชียงใหม่ เคลื่อนไหวแล้ว ตั้งกรรมการสอบ หนุ่มนักศึกษาปริญญาโท ใช้ความรุนแรงซ้อมและทำร้ายร่างกายแฟนสาว พร้อมแถลงจุดยืนไม่สนุบสนุนให้ใช้ความรุนแรงในทุกกรณี

จากกรณีที่ นักศึกษาระดับปริญญาโท คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ก่อเหตุทำร้ายแฟนสาวได้รับบาดเจ็บ ซึ่งมีการโพสต์เรื่องราวนี้ทางโลกออนไลน์ ซึ่งล่าสุดมีหญิงสาวที่เป็นนักศึกษา ที่เคยคบกับชายคนนี้ รวม 4 คนที่ถูกกระทำในลักษณะทารุณกรรม กักขังหน่วงเหนี่ยว และทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดในห้องพักห้องเดียวกันของ นาย ก. นักศึกษาวิศวะคนนี้ แต่มีเพียง 1 คนที่เคยเข้าแจ้งความดำเนินคดีเมื่อปี 2564 แต่คดีไม่คืบหน้า

ขณะที่อีกรายมาแจ้งความเมื่อวันที่ 2 พฤภาคม 2568 ที่ผ่านมา แต่หลังจากที่แจ้งความทางตำรวจติดต่อไม่ได้ แต่กลับไปคืนดีคบหากันอีกครั้ง จนล่าสุดเลิกรากันจึงได้นำเรื่องมาโพสต์ ทางตำรวจแจ้งว่าหากมีเหยื่อเพิ่มเติมสามารถเข้าแจ้งความย้อนหลังได้

ล่าสุด คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สถาบันการศึกษาต้นสังกัดของนักศึกษาหนุ่มรายนี้ได้เคลื่อนไหวแล้ว โดยออกแถลงการณ์ กรณีนักศึกษาของคณะฯ ถูกอ้างถึงว่าเป็นผู้ทำร้ายร่างกาย ความว่า

“ตามที่กรณีนักศึกษาในสังกัดคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ถูกอ้างถึงว่าเป็นผู้ทำร้ายร่างกาย จนส่งผลให้คู่กรณีบาดเจ็บ และปรากฏเป็นข่าวเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568

คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น รวมถึงขอแสดงความห่วงใยกับผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ ทางคณะฯ ยินดีให้ความร่วมมือกับผู้ที่ได้รับผลกระทบ และขอย้ำจุดยืนว่า คณะฯ ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ

คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จะดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบข้อร้องเรียน เพื่อดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอนของคณะฯ และ มหาวิทยาลัย ควบคู่กับการให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนตามกฎหมาย

คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ยืนยันว่าจะดำเนินมาตรการทั้งหมด ด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม และเคร่งครัด เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัย และความเป็นธรรมภายในสถาบัน พร้อมทั้งยืนหยัดต่อต้านความรุนแรงในทุกรูปแบบ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เพจ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่”