อาชญากรรม

สะเทือนขวัญ ฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์ม เร่งล่าคนร้าย ลูกชายตามหาพ่อสุดช็อก

โดย passamon_a

11 พ.ค. 2568

161 views

เมื่อช่วงตี 1 ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.สิเกา รับแจ้งเหตุมีคนถูกเผานั่งยางเสียชีวิต 3 คน เหตุเกิดภายในร่องน้ำสวนปาล์มน้ำมัน พื้นที่หมู่ 1 ตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง เมื่อไปถึงพบโครงกระดูกและชิ้นส่วนมนุษย์ อวัยวะภายใน รวม 3 ร่าง อยู่ในร่องคูน้ำระหว่างสวนปาล์มน้ำมัน 2 สวนติดกัน


ตรวจสอบพบว่า ทั้ง 3 ร่าง คือ นายสุรเชษฐ์ หรือ โกเชษฐ์ อายุ 69 ปี คนดูแลสวนปาล์มน้ำมัน เนื้อที่กว่า 100 ไร่ นายอนันต์ อายุ 49 ปี ชาวอำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช และ นายวีระยุทธ อายุ 41 ปี ชาวอำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งทั้ง 2 คน เป็นลูกน้องของโกเชษฐ์


ถัดขึ้นมาประมาณ 3 เมตร ในที่พักร้างของสวนปาล์มน้ำมันที่อยู่ติดกัน พบคราบเลือดกระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้น มีการนำน้ำมาราด และนำดินมากลบ เพื่อทำลายหลักฐาน ใกล้กันพบแกลลอนสำหรับตักน้ำ 1 ถัง ปลอกกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 1 ปลอก ปลอกกระสุนขนาด 11 มม. อีก 1 ปลอก และขวดเปล่าใช้ใส่น้ำมันที่เป็นเชื้อเพลิง 1 ขวด รถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ และโทรศัพท์มือถือของผู้ตายทั้งหมดหายไป คาดว่ากลุ่มคนร้ายนำหลบหนีไปด้วย


ต่อมาเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.ตภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผบก.ภ.จว.ตรัง ตำรวจ กก.สส.ภ.9 ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ตรัง และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ได้ลงมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้พบหลุมฝั่งศพที่ถูกเผานั่งยางในหลุดอีก 1 แห่ง ซึ่งอยู่ภายในสวนปาล์มน้ำมันที่ผู้ตายดูแลอยู่ ถัดจากจุดที่เผานั่งยางทั้ง 3 ราย ประมาณ 300 เมตร พบบริเวณปากหลุมฝังกลบมีกิ่งต้นกระถินป่าแห้งปกคลุมอยู่ ทางผู้ใหญ่บ้านจึงได้นำจอบมาขุดลึกประมาณ 1 ฟุต พบเศษยางรถยนต์และรถสิบล้อมีร่องรอยถูกเผา ข้างกันมีเศษกระดูกมนุษย์จึงขุดหลุมขุดเพิ่มพบโครงกระดูกมนุษย์และชิ้นเนื้อที่กำลังเน่า ไม่ทราบเพศฝังอยู่ใต้ดิน มีกลิ่นเหม็นเน่าฟุ้งกระจาย นอกจากนี้พบกระป๋องกาแฟตกอยู่ 2 กระป๋อง และรอยหักกิ่งไม้หน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน คาดว่ามีการกลบฝังมาประมาณ 2-4 สัปดาห์


เบื้องต้น พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผบก.ภ.จว.ตรังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบและเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมประสานหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อตรวจสอบรายชื่อบุคคลสูญหาย ทั้งในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อเร่งพิสูจน์อัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิตว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับเหตุการณ์เผานั่งยาง 3 ด้วยหรือไม่


นายเรืองศักดิ์ ล้วนเกียรติขจร ลูกชายของนายสุรเชษฐ์ หนึ่งในผู้เสียชีวิต เล่าว่า พ่อผมทำงานดูแลสวนปาล์มแห่งนี้ให้เจ้าของสวนมาประมาณ 3-4 ปีแล้ว ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะหรือขัดแย้งกับใครเลย เท่าที่ตนรู้ พ่อก็ไม่เคยเล่าให้ฟังว่ามีปัญหากับใคร หรือมีเรื่องอะไรผิดปกติ ก่อนเกิดเหตุ พ่อได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายเข้ามาขโมยทะลายปาล์มน้ำมันในสวน จึงรีบเดินทางออกมาตรวจสอบพร้อมลูกน้องอีกสองคน โดยออกจากบ้าน ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ในเวลาประมาณบ่ายโมงกว่า ๆ ของเมื่อวานนี้ หลังจากนั้นช่วงเย็น ผมเริ่มเอะใจว่าทำไมพ่อยังไม่กลับบ้าน ปกติพ่อจะกลับมาให้อาหารหมาทุกวัน ก็เลยเริ่มออกตามหา ได้สอบถามไปยังลูกน้องคนอื่น ๆ จนทราบว่าพ่อเดินทางมาที่ จ.ตรัง จึงพยายามออกตามหาตามสวนปาล์มที่พ่อดูแล จนกระทั่งช่วงประมาณ 19.00 น. เข้ามาถึงสวนแห่งนี้ ก็เห็นแสงไฟลุกขึ้นจากร่องน้ำข้างสวน ผมเห็นไฟลุกขึ้นมา ตอนนั้นใจไม่ดีเลย รีบเข้าไปดู ก็เห็นเลยว่ามีคนถูกเผาอยู่ตรงนั้น ตอนนั้นก็รู้เลยว่าน่าจะเป็นพ่อกับลูกน้องแล้ว ก็รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที โดยตอนนั้นยังโดนไฟเผาไม่ทั้งหมด เห็นหัวกะโหลก ซึ่งคาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นแบบนี้


นายจำลอง ตี้พั้ว ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 กล่าวว่า ตามปกตินายสุรเชษฐ์ หนึ่งในผู้ตายจะกลับบ้านเป็นเวลาที่ อ.ทรายขาว จ.กระบี่ แต่เมื่อวานนี้ลูกชายไม่เห็นผู้ตายกลับเข้ามาที่บ้าน จึงโทรศัพท์หาแต่โทรไม่ติด เมื่อโทรหาลูกน้องที่ไปกับพ่อสายแรกโทรติดแต่ไม่มีผู้รับ เมื่อโทรหาอีกครั้งถูกปิดโทรศัพท์ไปแล้ว จึงออกมาตามที่สวนปาล์ม พบมีแสงเพลิงอยู่ภายในร่องปาล์ม จึงรีบแจ้งตำรวจร่วมตรวจสอบ ก่อนชาวบ้านบรรทุกรถน้ำมาช่วยดับก็พบเศษกระดูกและชิ้นส่วนมนุษย์อยู่ในกองเพลิง สำหรับผู้ตายนั้นดูแลสวนปาล์มแห่งนี้มานานแล้ว ให้กับเจ้าของสวนที่อยู่ใน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดยมีเนื้อที่ 100 กว่าไร่ แต่บางส่วนอยู่ในที่ดินป่าชายเลน ซึ่งได้ถูกตรวจยึดไปแล้วบางส่วน โดยเข้ามาใส่ปุ๋ย และดูแลความเรียบร้อยเป็นประจำ ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับคนในพื้นที่แต่อย่างใด


แต่เมื่อช่วงปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้ตายได้โทรหาตนเรื่องที่มีคนมาลักขโมยลูกปาล์มในสวน และยังบอกกับตนว่าให้คุยกับนายบิน ซึ่งดูแลสวนปาล์มที่อยู่ติดกันอีกสวนหนึ่งประมาณ 36 ไร่ เรื่องจะให้ดูแลสวนปาล์มเพื่อกันขโมย และต้นเดือน พ.ค. โทรหาตนอีกรอบแต่ตนไม่ได้รับสาย จนมาเกิดเหตุสลดครั้งนี้ ส่วนสาเหตุตนมองว่าสาเหตุอาจจะมาจากปัญหาเรื่องความขัดแย้งเกี่ยวกับสวนยางพารา และปัญหาที่มีคนร้ายเข้ามาขโมยผลปาล์มน้ำมัน เพราะเท่าที่ทราบไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อน


ส่วนพฤติการณ์คาดว่า ภายหลังกลุ่มผู้ตายเดินทางมาถึง น่าจะบังเอิญเจอกับกลุ่มคนร้าย ซึ่งอาจจะเข้ามาลักขโมยปาล์ม หรือกลุ่มอื่น ๆ ที่หวังจะเข้ามาหาผลประโยชน์ในพื้นตรงนี้ ก่อนจะมีปัญหาพูดคุยกันไม่ลงตัว จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้นและนำพาทรัพย์สิน ซึ่งเป็นรถยนต์และมือถือของผู้ตายไปด้วย โดยคาดว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะรู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี


เบื้องต้น นายศุภกรณ์ หรือ บิน อายุ 37 ปี ชาว ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งเป็นผู้ดูแลปาล์มน้ำมันจำนวน 36 ไร่ ซึ่งเป็นสวนที่อยู่ติดกัน ได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัย โดยขณะนี้ยังติดตามไม่พบตัว ส่วนมูลเหตุคาดว่าเป็นความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์สวนปาล์มน้ำมัน โดยคาดว่ากลุ่มคนร้ายต้องมีไม่ต่ำกว่า 3 คน ในการลงมือก่อเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 100 นาย ได้กระจายกำลังออกหาพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำอย่างละเอียด เพื่อนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/0c5spJrmsTQ

คุณอาจสนใจ