สังคม
สองสามีภรรยาร้อง “ปวีณา” ลูกเสียชีวิตในท้อง หลังหมอให้ยายับยั้งการคลอดตลอด 3 วัน
โดย chutikan_o
30 เม.ย. 2568
709 views
สองสามีภรรยาร้อง “ปวีณา” ลูกเสียชีวิตในท้อง หลังเจ็บท้องคลอดก่อนกำหนด หมอให้ยายับยั้งการคลอดตลอด 3 วัน จนสูญเสียลูก สงสัยให้ยาเกินขนาดหรือไม่
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 30 เม.ย. 2568 นายวิชัยกับนางทองคำ สองสามีภรรยาจากจังหวัดกำแพงเพชร เดินทางมาที่มูลนิธิปวีณา หงสกุล ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อขอความช่วยเหลือจากนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิเพื่อเด็กและสตรี ขณะที่ตนเองตั้งครรภ์ได้ 7 เดือนและมีอาการเจ็บท้องคลอดก่อนกำหนด โรงพยาบาลอำเภอให้ยายับยั้งการคลอดทั้งแบบฉีดและแบบกิน ก่อนส่งตัวไปโรงพยาบาลจังหวัด ก็ได้รับยายับยั้งการคลอดซ้ำอีกรวมตลอด 3 วัน จนสูญเสียลูกในครรภ์ ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกน้อย ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยตรวจสอบให้ความเป็นธรรมกับครอบครัว สงสัยแพทย์ให้ยาเกินขนาดหรือไม่
สืบเนื่องจากวันที่ 24 เม.ย. 2568 นางนิด (นามสมมติ) อายุ 40 ปี แม่ที่เพิ่งสูญเสียลูกในครรภ์ 7 เดือน โทรศัพท์สายด่วน 1134 มูลนิธิปวีณาฯ ขอความช่วยเหลือ โดยกล่าวว่า เธอตั้งครรภ์ลูกคนที่ 3 เป็นทารกเพศหญิง อายุครรภ์ 7 เดือน ที่ผ่านมาฝากครรภ์ที่ รพ.อำเภอ และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง ลูกในครรภ์ก็ปกติ โดยมีกำหนดคลอดในเดือน มิ.ย. 2568 จู่ๆ เช้าวันที่ 17 เม.ย. 2568 เธอตื่นมารู้สึกมีอาการท้องปั้นแข็งเหมือนจะคลอด จึงไปหาหมอที่ รพ.อำเภอ พยาบาลแจ้งว่าเด็กจะออกก่อนกำหนดแต่อายุครรภ์ยังไม่ครบ จึงจะต้องฉีดยาและกินยาเพื่อยับยั้งการคลอดไปก่อน โดยฉีดยาเข้าที่สะโพกขวา 2 เข็ม ในเวลาห่างกันครึ่งชั่วโมง และให้กินยาอีก 4 เม็ด ในเวลาห่างกันทุกครึ่งชั่วโมง หลังจากได้รับยาฉีดยากินไป เธอรู้สึกมีอาการใจสั่นและมีเหงื่อออกมือออกเท้า จึงนอนดูอาการ 1 คืน เช้าวันที่ 18 เม.ย. 2568 อาการท้องปั้นแข็งยังไม่หาย หมอจึงได้ส่งต่อไปที่โรงพยาบาลที่ 2 ก็ได้รับการฉีดยายับยั้งการคลอดอีก 2 เข็มเข้าที่สะโพกขวาในเวลาที่ห่างกันครึ่งชั่วโมง และให้กินยาอีก 3 เม็ด (ห่างกัน 8 ชั่วโมง) ซึ่งหลังจากได้รับยาไปเธอรู้สึกมีอาการใจสั่น จึงให้นอนดูอาการ 2 คืน เช้าวันที่ 20 เม.ย.68 หมอจึงให้กลับบ้านได้ พร้อมกับทำใบส่งตัวให้เธอไปพบหมอที่โรงพยาบาลในจังหวัดนครสวรรค์ วันที่ 23 เม.ย. 2568 โดยให้เหตุผลว่าเป็นโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์การแพทย์ครบครันกว่า ซึ่งระหว่างที่กลับไปอยู่บ้าน เธอก็รู้สึกว่าลูกในท้องดิ้นน้อยลง
ต่อมา เช้าวันที่ 23 เม.ย. 2568 เธอไปพบหมอที่โรงพยาบาลในจังหวัดนครสวรรค์ตามนัด หมอได้อัลตราซาวน์ดูเด็กในครรภ์ แล้วบอกว่า “ลูกเสียชีวิตแล้ว แม่รู้ไหม?” เธอถึงกับช็อก ใจแทบสลาย สงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไร จากนั้นก็ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลในอำเภอขาณุวรลักบุรี จ.กำแพงเพชร เพื่อคลอดลูกที่เสียชีวิตแล้ว วันที่ 25 เม.ย. 2568 หมอให้เหน็บยาเร่งคลอด 2 ครั้ง และลูกก็คลอดออกมาในค่ำของวันที่ 26 เม.ย. 2568 ระหว่างที่นอนพักอยู่ในโรงพยาบา ด้วยความเศร้าและทุกข์ใจมากจึงติดต่อมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ ขอให้ตรวจสอบการเสียชีวิตลูกของเธอด้วยว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่
หลังรับเรื่องวันที่ 24 เม.ย. 2568 นางปวีณาโทรประสาน นพ.ปริญญา นากปุณบุตร สสจ.กำแพงเพชร ทันที เพื่อเข้าตรวจสอบช่วยเหลือขณะที่นางทองคำยังนอนรอคลอดลูกที่เสียชีวิตอยู่ในท้อง 3 วัน เป็นโรงพยาบาลที่ 4 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของ สสจ.กำแพงเพชรติดต่อเข้าไปเยี่ยมแล้ว
กระทั่งวันที่ 28 เม.ย. 2568 นางทองคำออกจากโรงพยาบาล นางปวีณาจึงได้ประสาน พ.ต.อ.นนทวร สีอินทร์ ผกก.สภ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร พ.ต.ท.ไพโรจน์ อินทะศรรอง รอง ผกก.สอบสวน สภ.ขาณุวรลักษบุรี ให้แม่ไปพบ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อนุเคราะห์รถตำรวจนำศพมาชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ มูลนิธิปวีณาฯ ได้ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายค่าน้ำมันรถทันที เพื่อเข้าตรวจสอบช่วยเหลือ และจะประสานเสนอเรื่องให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข โดยยื่นเรื่องผ่าน ดร.ธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ ผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข เพื่อให้ความช่วยเหลือตรวจสอบให้ความเป็นธรรมกับกับครอบครัวนางทองคำ พร้อมประสานนางสาวมะลิวัน สิทธิโยธี พมจ.กำแพงเพชร เข้าเยี่ยมครอบครัว โดยทางมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามเรื่องอย่างใกล้ชิดให้ได้รับความกระจ่างและความเป็นธรรม และมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามการช่วยเหลือร่วมกับ สสจ.กำแพงเพชร และ พมจ.กำแพงเพชร ต่อไป
แท็กที่เกี่ยวข้อง ปวีณา ,มูลนิธิปวีณา ,ลูกเสียชีวิตในท้อง ,ยายับยั้งการคลอด