สังคม
“กามิน” เข้าพบ สอท. แจ้งความเพจอวตาร ตัดต่อภาพ-โพสต์ใส่ร้าย
โดย paranee_s
28 มี.ค. 2568
103 views
เมื่อเวลา 09.15 น. จี กามิน อินฟลูเอ็นเซอร์ชาวเกาหลีใต้ พร้อม นายพรชัย พฤกษ์พิชัยเลิศ ทนายความ เดินทางเข้าพบ พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับเพจอวตาร ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
นายพรชัย พฤกษ์พิชัยเลิศ ทนายความ กล่าวว่า วันนี้เป็นการร้องทุกข์กับเว็บอวตารต่าง ๆ ที่ไม่สามารถตรวจสอบที่มาที่ไปได้ โดยเว็บเหล่านี้มีการลงข้อความทำให้ กามิน เกิดความเสียหาย แต่รายละเอียดนั้นอยู่ในคำร้องทุกข์ ขอไม่เปิดเผย แต่เป็นลักษณะของการดูหมิ่น เหยียดหยาม กล่าวข้อความอันเป็นเท็จ ใส่ความให้เกิดความเสียหาย ทั้งจากเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวและเรื่องการทำงาน และไม่ใช่แค่ กามิน แต่เว็บเหล่านี้ ยังมีการกล่าวข้อความให้บุคคลอื่นเสียหายด้วย จึงต้องการให้ทางตำรวจไซเบอร์ตรวจสอบให้
ที่ผ่านมา กามิน ได้มอบหมายให้ตนในฐานะทนายความ ดำเนินการต่างๆ ตามขั้นตอนของกฎหมายมาตลอด ซึ่งมองว่า ไม่ควรพิจารณาว่าเป็นชาวต่างชาติหรือคนไทย เพราะกฎหมายคุ้มครองทุกคนอยู่แล้ว หากเป็นกรณีแค่พูดเมาท์มอยนั้นรับได้ แต่ไม่ใช่มากล่าวหาใส่ร้าย ทำให้เกิดความเสียหายมาตลอด ซึ่งไม่ว่าจะทำกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ กระบวนการยุติธรรมก็สามารถตรวจสอบให้สังคมเดินหน้าต่อไปอย่างถูกต้องได้
ด้าน จี กามิน กล่าวเป็นภาษาเกาหลี โดยมีล่ามช่วยแปล ใจความว่า เวลาที่ได้เห็นเพจต่างๆ ลงข่าวที่ไม่เป็นความจริง ก็รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ตอนนี้ก็มีความมั่นใจมากขึ้นที่จะจัดการกับเพจเหล่านี้ และอยากขอบคุณ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ที่ช่วยดูแล เพราะเป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นแต่ก็เกิดขึ้นแล้ว รวมถึงขอบคุณแฟนคลับและคนไทยทุกคนด้วย
ต่อมา ภายหลังตำรวจรับแจ้งความ พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เปิดเผยว่า เบื้องต้น กามิน และทนายความ ได้นำหลักฐานแจ้งความให้ตรวจสอบบัญชีอวตาร 4 บัญชี เป็นช่องทางติ๊กต็อก 2 บัญชี และอินสตาแกรมอีก 2 บัญชี ลักษณะคือมีการคอมเมนต์ ตัดต่อรูปภาพที่ไม่เหมาะสม เติมข้อความ ทำให้เสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง
โดยได้มอบหมายพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 3 บก.สอท.1 ให้ทำการตรวจสอบทั้ง 4 บัญชีว่าเป็นใคร และเข้าข่ายความผิดฐานใด แต่เบื้องต้นน่าจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 16 ตัดต่อภาพให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท
ทั้งนี้ ฝากถึงเกรียนคีย์บอร์ดที่คึกคะนองก่อเหตุลักษณะนี้กับผู้มีชื่อเสียงว่า กฎหมายมีการควบคุม ให้คิดด้วยว่าคุ้มหรือไม่ที่จะถูกดำเนินคดี และยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ทำเฉพาะผู้มีชื่อเสียง แต่หากประชาชนได้รับความเสียหายลักษณะนี้ก็ให้เข้ามาแจ้งความ พร้อมดำเนินการให้ และยืนยันว่าแม้บัญชีต่างๆ จะมีการปิดไป แต่ทุกอย่างมีร่องรอย ตำรวจมีวิธีการในการติดตาม และจะทำอย่างเต็มที่
ส่วน กามิน บอกว่า หลังจากได้เข้ามาจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ได้ลองมาพูดคุยกับตำรวจเอง ก็รู้สึกว่าคดีต่างๆ ที่ตัดสินใจจะดำเนินการก็น่าจะเป็นไปด้วยดี แม้ว่าคดีของตัวเองจะไม่ได้เยอะมาก แต่เชื่อว่าตำรวจจะจัดการได้ และเชื่อว่า ยังมีอีกหลายคนที่โดนกระทำให้ลักษณะเดียวกันนี้ ดังนั้น การออกมา ไม่ใช่แค่การสู้เพื่อตัวเองเท่านั้น
แท็กที่เกี่ยวข้อง