เลือกตั้งและการเมือง
นายกฯ ลั่นจะเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็งจับมือกันจนจบสมัยแน่ ด้าน “เท้ง” ซัดถ้านั่งนายกฯต่อ คนไทยจะอายุสั้นลงทุกวัน
โดย paranee_s
26 มี.ค. 2568
45 views
นางสาวแพทองธารชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุม สส. และบรรดาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ที่ห้องประชุม สส. พรรคเพื่อไทยในเวลา 09:00 น.ก่อนจะมีการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี
โดย กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ตนถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ได้รับคำแนะนำจากหลายคน 2 วันที่ผ่านมาเข้าใจว่าหลายคนอดหลับอดนอน ทำหน้าที่ของตนเองอย่างหนัก ต้องขอบคุณทุกคน ทั้งสส.จากพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล ขอบคุณทุกคนที่ทุ่มเทอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการชี้แจงหรือการควบคุมให้อยู่ในประเด็นเป็นไปด้วยความเรียบร้อยของสภา และการอภิปรายครั้งนี้ตนพูดจากใจได้เลยว่าต้องขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาล ขอบคุณคณะรัฐมนตรีเป็นอย่างมากทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงใดทุกคนก็ขึ้นมาชี้แจงและตอบเอง ขณะเดียวกันก็มีในส่วนของหน่วยงานราชการมาช่วยชี้แจงในรายละเอียด โดยไม่ต้องขอร้องอะไรใดๆ ทั้งสิ้น แต่ก็ได้มีการสื่อสารไปว่า ชี้แจงถ้าต้องการข้อมูลใดๆ ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงนั้นช่วยชี้แจง ซึ่งทุกคนก็ทำแบบนั้นจริงๆ จึงต้องขอบคุณทุกคนมากเพราะชี้แจงในสิ่งสำคัญทำให้ประชาชนเข้าใจ
นายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกว่า ต้องฝากหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคไป ว่าสส. ในพรรคร่วมรัฐบาลหลายคนอาจจะยังไม่ได้ใกล้ชิดกัน ไม่ค่อยได้รู้จักกันมาก แต่ตอนนี้มีความตั้งใจที่อยากจะรู้จักและคุยกับทุกคน อาจจะมีการพูดนัดพูดคุยกันทีละพรรคแยกไป เพราะส่วนใหญ่ก็ได้เจอแต่สส.พรรคเพื่อไทย
ขณะเดียวกันต้องขอบคุณ สส.พรรคเพื่อไทยที่ให้ให้กำลังใจไม่ว่าจะเป็นสายตาที่ส่งให้หรือเป็นข้อความ หรือเป็นคำแนะนำต่างๆ รู้สึกถึงความอบอุ่นมากๆ เราทำงานร่วมกันมารู้สึกว่าครั้งนี้ทุกคนช่วยกันจริงๆ เมื่อคืนได้มีโอกาสย้อนกลับไปดูการอภิปราย เพราะไปถึงบ้านก็ยังนอนไม่หลับ อยากรู้สึกว่าวันนี้เราจะต้องทำอะไรต่อ มีความไม่ค่อยแน่ใจจึงได้ไปดูคลิปที่รัฐมนตรีหลายคนลุกขึ้นชี้แจง ก็คิดว่าประเด็นทุกอย่างที่อภิปรายไปครบแล้ว และตนมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลของเราจะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของประชาชนได้จริงๆ เป็นรัฐบาลที่มีพรรคร่วมหลายพรรค แต่จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศไทยและพี่น้องคนไทยจริงๆ การร่วมมือที่ผ่านมาตนพูดเลยว่าเป็นธรรมดามากที่มนุษย์จะคิดไม่เหมือนกันอยู่แล้วแต่ทุกคนสามารถเข้าใจและตกลงกันได้ในที่สุดนี่คือสิ่งสำคัญตนจึงต้องขอขอบคุณมากๆ ที่พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคมีการตัดสินใจมีการเปิดใจซึ่งเป็นเรื่องที่น่านับถือและทำให้ตนทำงานได้ง่ายขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นพวกพรรคเราจึงพร้อมใจกันเพื่อให้รัฐบาลของเราทำให้คนไทยมีกินมีใช้จริงๆ แล้วตอนนี้เศรษฐกิจก็เริ่มดีขึ้นแล้ว ตนเป็นอย่างยิ่งว่าจะดีขึ้นต่อไปจากนี้ทุกๆ เดือนทุกๆ ปีที่รัฐบาลของเราทำงานเพื่อประชาชน
สำหรับการอภิปรายที่ผ่านมา ขอบคุณทุกพรรคทุกคนอีกครั้ง ตนก็จะทำหน้าที่ให้เต็มที่ความเดือดร้อนของประชาชนมีตรงไหนอย่างไรขอให้ได้พูดคุยกันเราจะช่วยกันทั้งหมดเพราะเป็นทีมของเราทีมรัฐบาลของเราก็จะเข้มแข็งแบบนี้จนจบสมัยแน่นอน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 มี.ค. ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะหัวหน้าผู้นำฝ่ายค้าน แถลงภายหลังที่ประชุมสภามีมติไว้วางใจนายกรัฐมนตรีให้ทำหน้าที่ต่อ ว่า ผลการลงมติที่ออกมาพรรคฝ่ายค้านถือว่าครบถ้วน ในส่วนของพรรคประชาชนมี 2 พรรคที่ทราบสถานะคือน.ส.วรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ ที่มีการแอดมิดส่งเข้าโรงพยาบาล เมื่อวานนี้ (25 มี.ค.) และนายสิริน สงวนสิน สส.กทม. มีปัญหาเรื่องสุขภาพ เราเองก็ติดตามดูอยู่ด้วยความเป็นห่วง ส่วนที่เหลือก็ต้องติดตามกันดูในพรรคร่วมฝ่ายค้าน
เมื่อถามว่า ภายหลังการลงมติเสร็จแล้วระหว่างถ่ายรูปได้คุยอะไรกับนายกรัฐมนตรี นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตอนที่ตนไปถ่ายรูปตั้งใจไปถามคำถามให้นายกฯชี้แจงในหลายๆ อย่าง จากที่เมื่อคืนยังไม่ได้ชี้แจง ตนตั้งใจจะไปถามนายกฯโดยตรง แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบอะไร นายกฯก็แค่ยิ้ม และถ่ายรูป
เมื่อถามย้ำว่าตั้งใจจะไปถามเรื่องอะไรกับนายกฯ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เวลาสั้นๆ ที่เดินไปแสดงสปิริตเมื่อสักครู่นี้ คงไม่ใช่เรื่องที่ตนจะไปไล่ถามทุกคำถาม
“ผมก็ถามสั้นๆ ประโยคสั้นๆ ว่า ท่านนายกฯครับ เมื่อวานที่ได้รอนายกฯชี้แจง ผมก็ย้ำนายกฯหลายครั้ง เมื่อคืนให้ท่านชี้แจง ท่านก็กลับเงียบ และไม่ได้ชี้แจงใดๆ ได้แต่ยิ้มและหันหน้าขึ้นไปถ่ายรูป” นายณัฐพงษ์ กล่าว
ส่วนประเด็นที่จะโรยเกลือต่อที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรากำลังดูเรื่องข้อกฎหมาย มีหลายประเด็น ซึ่งยุทธการโรยเกลือยังมีช่องทางอีกหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการขับเคลื่อนในกรรมาธิการ หรือไปยื่นตามที่ต่างๆ มีตามมาแน่นอนไม่ต้องห่วง และเรากำลังพูดคุยกันภายในพรรคว่าจะจัดการอย่างไรต่อ พร้อมย้ำว่าเริ่มทำงานตั้งแต่วันนี้ทันที ก่อนมาแถลงข่าวนี้ก็ประชุมกันในพรรคมีการพูดคุยกันหลายประเด็นแล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคประชาชนต่อต้านการที่นายกฯถูกถอดถอนโดยศาลหรือองค์กรอิสระ แต่วันนี้จะทำเอง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นจุดยืนของเรามาโดยตลอดว่าเราไม่เห็นด้วยกับกระบวนการนิติสงคราม รวมถึงกระบวนการที่สืบถอดมาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการกลั่นแกล้งทางการเมือง ดังนั้น ที่ยังไม่ลงรายละเอียดมากเพราะเรากำลังดูช่องทางที่ถูกต้องตรงไปตรงมา ไม่ใช้กลไกที่เราไม่เห็นด้วย จึงต้องดูในรายละเอียดก่อน
“ผมเชื่อว่ามีหลายช่องทางที่เราสามารถดำเนินการทำได้ เช่น เรื่องภาษีถึงแม้ไม่ต้องร้องเรียนต่อหน่วยงานต่างๆ แต่การทำหน้าที่ตรวจสอบ โดยการนำข้อมูลมาเปิดเผยในสภาฯ ก็สามารถทำให้ครอบครัวของนายกฯจ่ายภาษีได้ เราทุกคนก็ได้ประโยชน์ รวมถึงยังมีอีกหลายช่องทางมากมาย เป็นสิ่งที่พวกเราศึกษากันอยู่” นายณัฐพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่า นายกฯเรียกร้องให้พรรคประชาชนประกาศจุดยืนไปเลยว่าจะไม่จับมือกับพรรคไหนบ้างในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า จุดยืนของพรรคประชาชนชัดเจนมาโดยตลอด ในสภาฯชุดนี้ จะไม่มีการไปร่วมรัฐบาลแน่นอน ตนคิดว่าการที่เรามีความชัดเจน เราก็พูดชัดเจนอยู่แล้ว แต่ในมุมกลับกันตนต้องถามจุดยืนทางเมืองเมืองของนายกฯเช่นเดียวกัน ว่าจุดยืนของท่านเป็นอย่างไร ดูย้อนแย้งหรือตรงข้ามกับสิ่งที่เคยเป็นจุดยืนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลดอหรือไม่ ฉะนั้น ยังเร็วไปที่จะถามคำถามนี้ เราเห็นมาโดยตลอดแต่ละพรรคโดยฉพาะอย่างยิ่งสภาฯชุดปัจจุบัน อาจจะมีสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป บางทีก็ย้ายไปฝั่งรัฐบาลบ้าง ฝั่งฝ่ายค้านบ้าง ฉะนั้น จุดยืนเราไม่เคยเปลี่ยน
เมื่อถามย้ำว่าช่วงไหนถึงจะพอดีกับดีจะประกาศว่าร่วมกับพรรคไหน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า รอมีกระแสใกล้ๆ ช่วงมีการยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ช่วงนั้นอาจจะมีความชัดเจนมากขึ้น
เมื่อถามว่า หลังจากอภิปรายครั้งนี้จะต้องปกป้องคนในพรรคด้วยหรือไม่ เพราะออกมาแฉเรื่องไอโอกองทัพ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สิ่งที่พวกเราไม่อยากเห็น คือการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีหรือฟ้องปิดปาก แต่อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้คงไม่ได้ยับยั้งการทำหน้าที่ของพวกเรา ส่วนเรื่องปฏิบัติการไอโอสิ่งที่น่าเสียดายคือไม่ได้อภิปรายจนจบ เพราะเราอยากสะท้อนให้ทุกคนเห็นว่าฝ่ายการเมืองทุกฝ่ายเป็นเป้าโจมตีของกองทัพ
เมื่อถามว่าพอใจภายพรวมการอภิปรายหรือไม่ เพราะฝั่งรัฐบาลก็ระบุว่าเหมือนเป็นการสรุปข่าวให้ฟัง ไม่มีข้อมูลใหม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนต้องขอบคุณทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคร่วมฝ่ายค้าน อย่างพรรคพลังประชารัฐ หลายคนมีบริบททางการเมืองที่เปลี่ยนไป แต่ก็ทำหน้าที้ของตัวเองเต็มที่ ซึ่งเรานำเสนอข้อมูลใหม่หลายด้าน ถ้ามองในกรอบรัฐบาลที่มองว่าพรรคฝ่ายค้านไม่มีข้อมูลอะไรมาก ตนอยากถามนายกฯและรัฐบาลเช่นเดียวกัน ว่าหลายปัญหาของประเทศในขณะนี้ ไม่ใช่ข้อมูลใหม่ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีตหลายปี ในเมื่อคุณเดินเข้าสู่อำนาจแล้วมีเจตจำนงหรือความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านั้นให้กับประชาชน
เมื่อว่าเกมของฝ่ายค้านจบแล้วในสภามีการเตรียมรับมือกับเกมของฝั่งรัฐบาลอย่างไรบ้าง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเป็นสส. คือการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่พูดอย่างทำอย่าง ส่วนเกมการเมืองเช่นที่หลายฝ่ายวิเคราะห์ว่าการถ่ายภาพร่วมกันจะเป็นเกมที่ทำให้เราเสียภาพหรือไม่ ตนมองว่าเป็นประเด็นเล็กๆ น้อยๆ สิ่งที่ประชาชนมองเห็นคือการทำหน้าที่ของเราอย่างคงเส้นคงวา
ส่วนยืนยันหรือไม่ว่าการอภิปรายในครั้งนี้ไม่เสียของ นายณัฐพงษ์ ระบุว่าไม่เสียของอย่างแน่นอน หลายอย่างที่เรานำเสนอ จะมีการดำเนินการต่อแน่นอน ขอให้รัฐบาลตั้งรับไว้ให้ดีข้อมูลที่เรามีบางอย่างนายกฯยังตอบไม่ได้
เมื่อถามว่าพรรคประชาชนจะถูกลอยโดดเดี่ยวอีกหรือไม่ เพราะมีสส.จากพรรคฝ่ายค้านไปโหวตเห็นชอบให้นายกฯดำรงตำแหน่งต่อ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เราไม่สามารถไปควงคุมเสียงของพรรคร่วมฝ่ายค้านได้ เราไม่ได้กลัวอะไรเราสิ่งที่เป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้เราคืออำนาจสูงสุดของประเทศนี้เราเชื่อว่าเป็นของประชาชน ฉะนั้น เกมการเมืองในสภาแต่ละพรรคจะว่าอย่างไรก็เป็นเรื่องของพวกเขา
เมื่อถามว่ามีการประเมินอายุรัฐบาลชุดนี้ไว้อย่างไรบ้างนั้น นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เราประเมินแทนนายกฯ หรือพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้ แต่สิ่งที่ตนพูดได้แทนประชาชนคือ หาก น.ส.แพทองธาร ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ อายุของประชาชนคนไทยจะสั้นลงทุกวัน
ส่วนที่ช่วงเช้านายกฯได้ให้สัมภาษณ์ว่าจะอยู่ครบวาระ และนำพาประเทศให้ดีขึ้นกว่าเดิมนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่นายกฯยังตอบชี้แจงพวกเราไม่ได้ทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีตที่ยังไม่แก้ไขมัวแต่อ้างว่าฝ่ายค้านไม่มีข้อมูลอะไรใหม่ การทำหน้าที่ปัจจุบันของนายกฯก็ยังไม่ดีพอ ส่วนปัญหาในอนาคตก็ยังยืนยันว่าตราบใดที่น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯที่ขาดคุณสมบัติที่ดีเพียงพอ ต้นทุนของประเทศที่เสียไปคงไม่มีอะไรมาแลกได้ ไม่อยากให้นายกฯอยู่ครบวาระ
ส่วนเรื่องที่รัฐมนตรีชี้แจงประเด็นส่งชาวอุยกูร์ จะมีการรีแอคชันจากต่างประเทศหรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ประเด็นระหว่างประเทศเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน แต่สิ่งที่เราต้องยึดมั่นคือหลักการสากล เราไม่ควรดำเนินการนโยบายต่างประเทศ ไปเข้าข้างกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด ประเด็นชาวอุยกูร์สิ่งที่สำคัญคือกระบวนการที่จะทำอย่างไรไม่ให้ประเทศไทยเหมือนเข้ากระบวนการฟอกขาวของอีกประเทศหนึ่ง ต้องมีความอิสระของคณะทำงานที่ไปตรวจสอบ
แท็กที่เกี่ยวข้อง