สังคม

ลูกชาย ป.5 สู้ชีวิต ทำงานหาเลี้ยงพ่อแม่ตาบอด

20 มี.ค. 2568

749 views

ผู้สื่อข่าว ได้รับรายงานเรื่องราวสุดสะเทือนใจของครอบครัวหนึ่งใน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี พบพ่อแม่ตาบอดทั้งสองคน ต้องอาศัยเงินจากการทำงานของลูกชายวัย 11 ปี เป็นค่าใช้จ่ายประจำวัน สภาพบ้านอยู่อาศัยทรุดโทรม หลังคารั่ว ห้องน้ำใช้การไม่ได้ ด้านชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านช่วยเหลือกันตามกำลัง แต่ยังคงขาดแคลนอีกมาก


พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพาณิช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ทราบเรื่องราวสุดรันทดของ ครอบครัวรำพึงวงศ์ จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ มอบเงินใช้ประทังชีวิต จากการพูดคุย พบว่าสมาชิกในบ้านประกอบด้วย นายอ่อน อายุ 65 ปี ผู้เป็นพ่อ นางสาวมาลิสา อายุ 45 ปี ผู้เป็นแม่ ด.ช.กิตติศักดิ์ รำพึงวงศ์ อายุ 11 ปี ลูกชายคนเล็ก นักเรียนชั้น ป.5 และ ลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งออกมารับจ้างข้างนอก


ทั้ง นายอ่อนและนางสาวมาลิสา ตาบอดสนิททั้งคู่ ทำให้ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ต้องอาศัย ลูกชายวัยเพียง 11 ปี เป็นผู้หารายได้จุนเจือครอบครัว ด.ช.กิตติศักดิ์ต้องออกไปทำงานรับจ้างทั่วไป หลังเลิกเรียน และวันหยุด เพื่อหาเงินมาซื้อข้าวปลาอาหาร ดูแลพ่อแม่ และตัวเอง


แม้จะอายุเพียง 11 ปี แต่เด็กชายคนนี้ต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้ง ใช้ชีวิตไม่ต่างจากผู้ใหญ่ที่ต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด


สภาพที่อยู่อาศัยของครอบครัวนี้เป็น บ้านปูนเก่าหลังคาสังกะสี ซึ่งเคยได้รับการช่วยเหลือจาก ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านในพื้นที่ ที่ร่วมกันสร้างขึ้นให้ แต่ปัจจุบันบ้านอยู่ใน สภาพทรุดโทรมอย่างหนัก เมื่อฝนตกหลังคารั่ว ต้องใช้ ถุงพลาสติกคลุมมุ้ง กันไม่ให้เปียก


แม้ว่า ญาติพี่น้องจะคอยช่วยเหลือบ้าง แต่ด้วยฐานะที่ยากจน ทุกคนต่างต้องดิ้นรนเอาตัวรอด ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือได้เต็มที่ และแม้ว่าชีวิตจะยากลำบาก แต่ในความมืดมนยังมีแสงแห่งความหวัง เมื่อผู้ใหญ่ใจดีหลายคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ


โดยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ตำบลทุ่งเบญจา นายกวี หรือ ผู้ใหญ่โก๋ อายุ 54 ปี เป็นตัวแทนชาวบ้านที่คอยส่งข้าวปลาอาหารให้เป็นครั้งคราว พร้อมเปิดรับความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ หากใครต้องการช่วยเหลือสามารถติดต่อ ได้ที่ 086-1526003 รวมทั้ง ครูเก่ง เป็นครูผู้ดูแล ด.ช.กิตติศักดิ์ คอยฝึกฝนให้เขาเล่นกีฬา และเป็นผู้ประสานหน่วยงานต่างๆ ให้เข้ามาดูแลครอบครัว


น.ส.นิชารีย์ (น้องอิงค์) อายุ 18 ปี แม่ค้าขายสละลอยแก้วจากบ้านท่าแคลง เป็นอีกหนึ่งผู้ใจบุญที่พบกับ ด.ช.กิตติศักดิ์ และเห็นว่าเป็นเด็กขยัน จึงรับไปช่วยงานที่ร้าน และ ตั้งใจจะอุปการะส่งเสียให้เรียนต่อที่โรงเรียนท่าแคลง เพื่อแบ่งเบาภาระพ่อแม่ พร้อมให้โอกาสหารายได้ส่งกลับบ้านนายอ่อน รำพึงวงศ์ พ่อของเด็ก กล่าวว่า “ผมไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการให้ลูกๆ มีอนาคต”


นางมาลิสา ภรรยาของนายอ่อน กล่าวว่า แม้จะตาบอดและทำงานหาเงินไม่ได้ แต่เขาอยากให้ลูกชายทั้ง 2 คนมีชีวิตที่ดีกว่าตัวเอง ไม่ต้องเผชิญความลำบากเช่นเดียวกับพ่อแม่ “ถ้าใครช่วยซ่อมบ้านให้ได้ก็ดี เราอยู่กันลำบากจริงๆ เวลาฝนตกนี่เปียกทั้งหลังคาเลย ห้องน้ำก็พัง จะอาบน้ำก็ต้องลำบากมาก”


ขณะนี้ ครอบครัวรำพึงวงศ์ยังต้องการความช่วยเหลือในหลายด้าน โดยเฉพาะซ่อมแซมบ้านให้แข็งแรงขึ้น, ซ่อมห้องน้ำให้กลับมาใช้งานได้, เครื่องอุปโภคบริโภค เสื้อผ้า อาหารแห้ง และ ทุนการศึกษาให้เด็กชายกิตติศักดิ์ได้เรียนต่อ


แม้ว่าเด็กชายวัย 11 ปีคนนี้จะต้องกลายเป็นเสาหลักของครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อย แต่สิ่งที่ทำให้เขาเดินหน้าต่อไปได้ คือ กำลังใจจากคนรอบข้าง และ น้ำใจจากผู้ใหญ่ใจดีที่มองเห็นคุณค่าของความพยายาม


ในขณะที่ ปัญหาความยากจนไม่สามารถแก้ไขได้เพียงชั่วข้ามคืน สิ่งที่เราทำได้คือช่วยกันเป็นสะพานต่อโอกาสให้เด็กคนหนึ่งได้เรียนหนังสือ มีบ้านที่ปลอดภัย และมีโอกาสสร้างอนาคตที่ดีกว่าที่พ่อแม่เขาเคยเผชิญมา“ชีวิตที่ดีขึ้นเริ่มต้นจากน้ำใจเพียงเล็กน้อย ที่อาจเปลี่ยนอนาคตของเด็กคนหนึ่งไปตลอดกาล”

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ