สังคม

ลูกร้อง แม่ไปรักษาฟัน ก่อนอาการทรุด หมอชี้แพ้ยา สุดท้ายติดเชื้อในกระแสเลือดเสียชีวิต

โดย paranee_s

25 ก.พ. 2568

588 views

นายธวัชชัย อายุ 36 ปี ชาว ต.หวายเหนียว อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนว่า นางชบา อายุ 59 ปี แม่ของตนเองได้ไปทำการรักษารากฟันในคลินิกแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี จนมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด และได้มีการส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น แถมทรุดหนักลงไปอีก เนื่องจากทางแพทย์วินิจฉัยว่าแพ้ยา แต่แท้จริงแล้วแม่ของตนติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อในช่องปากและโพรงจมูกจนเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2567 ซึ่งตนได้ไปแจ้งความไว้แล้วแต่ระยะเวลาที่ผ่านล่วงเลยมากว่า 3 เดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครเข้ามาเยียวยาครอบครัวของตน


นายธวัชชัย อายุ 36 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า แม่เริ่มมีอาการปวดฟันวันที่ 24 กันยายน 2567 ในช่วงเช้าหลังกลับจากงานแต่งญาติที่ต่างจังหวัด จึงให้ตนโทรนัดหมอฟันที่คลินิกแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เพื่อทำการรักษารากฟัน หลังจากรักษารากฟันเสร็จในวันที่ 25 กันยายน แม่เริ่มมีอาการปวดมากขึ้นก่อนที่จะกลับไปที่คลินิกอีกครั้งเพื่อทำการล้างรากฟันอีกรอบ วันที่ 26 กันยายน แม่นอนพักที่บ้านแต่อาการก็ไม่ดีขึ้นเริ่มมีอาการหน้าบวมริมฝีปากบวม ตาบวมมากขึ้น เลยตัดสินใจพาแม่ไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ให้ทางแพทย์เฉพาะทางช่วยรักษา เมื่อทำการซักประวัติคนไข้แล้วก็เอกซเรย์เสร็จทางโรงพยาบาลก็ได้ให้ยากลับมากินที่บ้าน 1 ชุด พร้อมกับบอกว่าถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้กลับไปนอนที่โรงพยาบาลอีกครั้ง


พอตกเย็นกินยาก็ยังไม่ดีขึ้นมีอาการแย่ลงหน้าบวมปากบวมตาบวมมากขึ้นกว่าเดิม วันที่ 27 กันยายน เลยพาแม่กลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้งรอบนี้ไปที่ห้องฉุกเฉินทางหมอสั่งให้นอนที่โรงพยาบาล โดยมีหมอมาวินิจฉัยบอกว่าเกิดจากการแพ้ยาหรือไม่ แต่ตนก็ยืนยันว่าแม่ไม่ได้แพ้ยาตัวที่หมอให้มาเพราะว่าแม่เคยกินยาตัวนี้อยู่ในขณะที่รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลจนถึงวันที่ 29 กันยายน แม่ไม่มีอาการดีขึ้น แม่มีอาการหนักมากขึ้น ความดันสูง อาเจียน น้ำตาลในเลือดสูง แล้วก็เริ่มพูดไม่รู้เรื่องไม่มีสติ จากนั้นทางหมอก็ให้ใส่เครื่องช่วยหายใจ แจ้งว่าเกิดจากอาการคอบวม หายใจไม่ออกหัวใจอาจจะหยุดเต้นเฉียบพลัน ทางหมอก็เลยใส่เครื่องช่วยหายใจช่วย


หลังจากใส่เครื่องช่วยหายใจไปแล้วแม่มีอาการหมดสติ ไข้ขึ้นสูง ไม่รู้สึกตัวใดๆ ทางบ้านเลยปรึกษากันว่าจะพาแม่ไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลเอกชน ก็เลยตัดสินใจย้ายโรงพยาบาลในวันที่ 29 กันยายน ช่วง 4 ทุ่ม โดยรักษาตัวต่อในห้อง ICU ของโรงพยาบาลเอกชนโดยทางแพทย์ ได้ทำการตรวจลงความเห็นว่า ติดเชื้อในกระแสเลือด มีหนองในเหงือกและช่องปาก แพทย์รักษาโดยการให้ยาฆ่าเชื้อและผ่าตัดโดดหนองและล้างโพรงไซนัส จำนวน 2 รอบ แต่อาการไม่ดีขึ้นกลับทรุดหนักและมีภาวะไตวาย


แต่เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูงตนจึงได้นำตัวแม่กลับมารักษาต่อที่โรงพยาบาลแห่งเดิมใน จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม จากนั้นวันที่ 17 ตุลาคม ทางโรงพยาบาลได้โทรแจ้งว่าแม่หัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิตในเวลาประมาณ 22.00 น. ซึ่งตนติดใจในสาเหตุการตายว่าคลินิกทำฟันและโรงพยาบาลได้วินิจฉัยตรวจรักษาว่ามีอาการแพ้ยาและได้จ่ายยาผิด จึงอยากให้ทางคลินิกทำฟันและโรงพยาบาลออกมารับผิดชอบเรื่องค่ารักษาพยาบาลตามความเป็นจริงทั้งหมด สิทธิที่จะได้รับเงินเบี้ยประกันสังคม ค่าจัดงานศพ ค่าขาดรายได้และค่าสูญเสียรายได้ของคนในครอบครัว


ซึ่งตอนนี้ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน 3 เดือนแล้วก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ หรือช่วยค่าเยียวยาใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งผลชันสูตรจากโรงพยาบาลนิติเวชก็ออกมาแล้วว่าคุณแม่ติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อในช่องปากและโพรงไซนัส

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ