เพื่อนบ้านสุดทน! กลิ่นปลาร้าคลุ้ง-ควันปิ้งไก่โขมง เตือนไม่ฟังขู่รู้จักตร. แม่ค้าส้มตำ ลั่นถูกกลั่นแกล้ง

บ้านเพื่อนสุดจะทน ร้องเจ๊เต่า แม่ค้าส้มตำวัย 50 สร้างความเดือดร้องรำคาญ ทั้งกลิ่นปลาร้า ควันจากย่างไก่ ซ้ำทะเลาะกับผัวส่งเสียงดังโวยวาย พอถูกเตือนพูดจาข่มขู่โวยวาย และอ้างรู้จักตำรวจกับนักข่าว

นี่เป็นคลิปเสียงที่นายธนาวัณ อายุ 34 ปี ได้นำมาร้องเรียนกับสื่อ โดยบางช่วงจะได้ยินเสียงเจ๊เต่า ทะเลาะกับสามี เอะอะโวย พร้อมกับด่าทอด้วยคำหยาบคาย ก่อนจะตะโกนด่าเพื่อนบ้านว่า "โทรแจ้งเจ้าของบ้านทำไม ว่าตนย่างไก่เหม็น ตนไม่ใช่คนรวย ขอเวลาหาแดกหน่อยได้มั้ย"

จากนั้นไม่นานจะเห็นตำรวจสายตรวจขี่มอเตอร์ไซด์ เข้ามาตรวจสอบบ้านเจ๊เต่า ก่อนจะขี่รถออกไป เนื่องจากเพื่อนบ้านโทรแจ้ง หลังทนพฤติกรรมของเจ๊เต่าไม่ไหว

นายธนาวัณ บอกว่า เจ๊เต่า มักจะต้มปลาร้าจนกลิ่นฟุ้งกระจายทั่วบริเวณ และย่างไก่ทำให้เกิดควันหนาแน่น ส่งผลกระทบกับบ้านใกล้เรือนเคียง โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กอ่อนวัยเพียง 3 เดือน ซึ่งได้รับผลกระทบจากกลิ่นและควันมากที่สุด ชาวบ้านพยายามพูดคุยหลายครั้ง แต่ไม่เป็นผล จึงติดต่อไปยังเจ้าของบ้านเช่า แต่กลับถูกเมินเฉย และเมื่อโทรศัพท์ไปหลายครั้ง เจ้าของบ้านก็ถึงกับบล็อกเบอร์ ไม่ยอมรับสายหลังจากไม่มีทางออก ชาวบ้านจึงแจ้งเจ้าหน้าที่เทศบาลเข้าตรวจสอบ ซึ่งช่วงแรกเจ๊เต่า ยอมปรับปรุง แต่ไม่นานก็กลับมาทำเหมือนเดิม พร้อมแสดงพฤติกรรมที่สร้างความหวาดกลัวให้กับเพื่อนบ้านมากขึ้น

นอกจาก นายธนาวัณ ยังมีเพื่อนบ้านอีกหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เจ๊เต่า มีพฤติกรรมที่น่ากลัว ไม่เพียงแค่ส่งกลิ่นเหม็นจากการทำอาหารเท่านั้น แต่ยังส่งเสียงดังโวยวาย ด่าทอสามี และเลี้ยงสุนัข 2 ตัว ซึ่งส่งเสียงรบกวนแทบทุกวัน ตั้งแต่เจ๊เต่าย้ายเข้ามา ตนไม่เคยนอนหลับสนิท ต้องทนฟังเสียงด่า เสียงหมาเห่า เสียงทำอาหาร แถมกลิ่นเหม็นไปทั่ว ซ้ำร้ายยังมีการพูดจาข่มขู่ โวยวาย และอ้างว่ารู้จักตำรวจกับนักข่าว จะทำให้เรื่องเป็นข่าวดัง ซึ่งที่น่ากังวลไปกว่านั้นคือ เจ๊เต่า มีการส่งเสียงดังอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเพลง สูบบุหรี่จนควันฟุ้งทั่วบ้าน หรือแม้แต่คุยโทรศัพท์เสียงดังด่าทอคนอื่น ทำให้เพื่อนบ้านหลายคนเริ่มหวาดกลัว และหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าโดยตรง

ที่ผ่านมาได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง จึงอยากให้เร่งเข้ามาจัดการ เพราะปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของพวกตนมาก เจ้าของบ้านเช่าก็ไม่สนใจ สุดท้ายชาวบ้านต้องอยู่กันอย่างหวาดกลัว ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้พบกับ เจ๊เต่า แม่ค้าส้มตำวัย 50 ปี เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนเช่าบ้านหลังนี้มานาน 1 ปี ทำสัญญาเช่าอย่างถูกต้อง โดยใช้บ้านเป็นทั้งที่อยู่อาศัยและสถานที่เตรียมอาหารขายส้มตำในตลาด เพื่อเลี้ยงดูลูก 2 คน ที่ยังเรียนหนังสืออยู่

โดยช่วงแรกที่เข้ามาอยู่ เพื่อนบ้านเริ่มร้องเรียนว่า กลิ่นปลาร้าที่ตนต้มเพื่อใช้ในร้าน และควันจากการย่างไก่ทำให้เดือดร้อน จึงโทรแจ้งเทศบาลให้มาตรวจสอบหลายครั้ง

ซึ่งตนก็พยายามแก้ไขด้วยการติดตั้งปล่องพัดลมดูดควัน ใช้เตาแบบไร้ควัน และต้มปลาร้าในพื้นที่ปิดมิดชิด แต่เพื่อนก็ยังไม่พอใจ ตนลงทุนไปเป็นหมื่นทำทุกอย่างที่เขาบอก แต่ก็ยังไม่หยุดร้องเรียน ตนเหมือนคนผิดตลอดเวลาตอนนี้รู้สึกเหนื่อยมาก

และหลังจากตนถูกร้องเรียน ทางเจ้าของบ้านเช่าได้แจ้งขอให้ตนย้ายออกจากบ้าน โดยอ้างว่าปัญหานี้ทำให้เพื่อนบ้านเกิดความไม่พอใจ และอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของชุมชน หลังจากตนได้ยินคำนี้จากเจ้าของบ้านแทบล้มทั้งยืน เพราะไม่มีที่อยู่ใหม่

เรื่องราวของเจ๊เต่าสร้างความเห็นใจให้กับบางคนในชุมชน มองว่าเรื่องนี้ควรได้รับการไกล่เกลี่ยมากกว่าการร้องเรียนจนถึงขั้นไล่ที่ ขณะที่เจ้าของบ้านเช่า ล่าสุดได้ขอให้เจ๊เต่าย้ายออกจากบ้านเช่าแล้ว โดยให้ขนข้าวของออกไปภายในเดือนมีนาคมนี้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Eo72ZHz1r0I