สังคม

ก.ต.ให้ออกจากราชการ ผู้พิพากษาทิ้งเวรไปเที่ยว พร้อมชงตั้งสอบวินัยร้ายเเรง 2 อดีตผู้บริหารศาล

โดย chutikan_o

28 ม.ค. 2568

11.9K views

ก.ต.ให้ออกจากราชการ ผู้พิพากษาทิ้งเวรไปเที่ยว พร้อมชงตั้งสอบวินัยร้ายเเรง 2 อดีตผู้บริหารศาลเอื้อประโยชน์คดีตระกูลดัง

วันที่ 28 ม.ค. 2568 มีรายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 68 ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ชั้น 3 อาคารศาลยุติธรรรม ถนนราชดำเนินใน นางชนากานต์ ธีรเวชพลกุล ประธานศาลฎีกาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ครั้งที่ 4/2568 ที่ประชุมได้พิจารณา และมีมติเห็นชอบ ดังนี้

1.เห็นชอบบัญชีโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการตุลาการ ในวาระพิเศษ ชั้น 4 สับเปลี่ยนตำแหน่ง (บัญชีวาระพิเศษ) แก้ไขจำนวน 3 ตำเเหน่ง เลื่อนชั้น 3 เป็นชั้น 4 และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง 1 ตำเเหน่ง ชั้น 4 สับเปลี่ยนตำแหน่ง (บัญชีวาระพิเศษ) 3 ตำเเหน่ง และเลื่อนชั้น 3 เป็นชั้น 4 และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง 2 ตำเเหน่ง

นอกจากนี้ที่ประชุม ก.ต.ยังพิจารณารายงานผลการสอบสวนข้าราชการตุลาการ จำนวน 1 ราย กรณีไม่อุทิศเวลาของตนให้แก่ราชการ ละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการ กระทำการอื่นใดซึ่งความประพฤติหรือการกระทำดังกล่าวอาจทำให้เสียเกียรติศักดิ์แห่งตำแหน่งหน้าที่ราชการไม่อุตสาหะและอำนวยความสะดวกในหน้าที่ราชการ ไม่ถือและปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนและประเพณีปฏิบัติของทางราชการและจริยธรรมของข้าราชการตุลาการ ตามที่ ก.ต. กำหนด และไม่ยึดถือจริยธรรมและประเพณีอันดีของตุลงตุลาการ ทั้งไม่วางตนให้เป็นที่เชื่อถือศรัทธาของบุคคลทั่วไป ตามมาตรา 58, 60 วรรคสอง, 62 และมาตรา 64 แห่ง พรบ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 ประกอบประมวลจริยธรรมของข้าราชการตุลาการ ข้อ 35 เป็นความผิดวินัยร้ายแรง เห็นควรลงโทษให้ออกจากราชการ

ที่ประชุมเห็นชอบเสนอแต่งตั้งให้นายธีรทัย เจริญวงศ์ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เป็นกรรมการธุรกรรม ตาม พรบ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

ที่ประชุมยังพิจารณารายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงข้าราชการตุลาการ กรณีให้คำปรึกษาคดีความที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ซึ่งพฤติการณ์เกินเลยไปกว่าการให้คำปรึกษาคดีความโดยทั่วไป และเกินความเหมาะสมที่ข้าราชการตุลาการควรพึงกระทำได้ ทั้งไปร่วมนั่งพิจารณาคดีโดยไกล่เกลี่ยคู่ความอันอาจทำให้คู่ความ อีกฝ่ายสงสัยในความเป็นกลาง อันเป็นการไม่ถือและปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนและประเพณีปฏิบัติของทางราชการและจริยธรรมของข้าราชการตุลาการ ตามที่ ก.ต. กำหนด ตาม พรบ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 มาตรา 62 และประมวลจริยธรรมข้าราชการตุลาการ ข้อ 31 วรรรคสอง เป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง เห็นควรลงโทษภาคทัณฑ์

ที่ประชุม ก.ต.ยังพิจารณารายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม มีมติเห็นว่าการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาจำนวน 2 ราย มีมูลเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีที่มีการพิจารณาลงโทษวินัยให้ออกผู้พิพากษาในต่างจังหวัดเป็นกรณีที่ละทิ้งเวรไปเที่ยวมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

ส่วนผู้พิพากษาที่มีการให้คำปรึกษาคดีเกินเลยที่ให้ลงโทษภาคทัณฑ์เป็นอดีตผู้บริหารศาลระดับอธิบดีผู้พิพากษาปัจจุบันเป็นผู้พิพากษาอาวุโสในภาค 2

ในส่วนที่ประชุม ก.ต.มีมติเห็นว่าการกระทำของผู้พิพากษาจำนวน 2 รายมีมูลความผิดวินัยร้ายเเรงเมื่อสมัยเกิดมูลเหตุเป็นเป็นผู้พิพากษาระดับอธิบดีผู้พิพากษาเเละระดับรองอธิบดีผู้พิพากษาในศาลขนาดใหญ่ในกรุงเทพ โดยถูกร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้คู่ความ ในคดีฟ้องครอบครัวนักธุรกิจตระกูลดังฟ้องร้องกันเองในครอบครัวจนมีคดีเเตกออกเป็นหลายคดี ซึ่งขั้นตอนต่อไปประธานศาลฎีกาก็จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายเเรงต่อไป โดยนัดประชุม ก.ต. ครั้งที่ 5/2568 วันที่ 3 ก.พ.2568


คุณอาจสนใจ