'แม่สามารถ' แจงเงินในบัญชี 100 ล้าน ส่วนหนึ่งเพราะเล่นหุ้น ด้าน DSI เร่งสอบเอกสารกู้ยืม หลังพบพิรุธ

คุณแม่วิลาวัลย์ หรือ แม่น้อย แม่ของคุณสามารถ วันนี้เปิดใจกับทีมเรื่องเด่นเย็นนี้ พูดถึงกรณีเงินในบัญชี 100 ล้านบาท ยืนยันได้มาถูกต้อง เพราะ นอกจากเป็นเงินยืม เงินเล่นเต็งโต๊ด แล้ว คุณแม่ยังเล่นหุ้นด้วย



ปมเรื่องเงิน วันนี้ คุณแม่วิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ หรือแม่น้อย แม่ของนายสามารถ ชี้แจงว่า ที่ตัวเองมีเงิน 100 ล้านบาทในบัญชี เพราะ เล่นหุ้นด้วย มีบัญชีโบรกเกอร์อยู่ แต่ไม่ขอบอกว่าที่ไหน คุณแม่บอกว่าการเล่นหุ้นบางทีก็ซื้อครั้งละ 4 แสน 5 แสน ซื้อเข้าซื้อออก เล่นเก็งกำไร เล่นเดย์เทรด วันนึงเทรดได้วันละ 600,000 หรือ 700,000 บาท บางทีก็ซื้อแล้วขายเลย อันนี้มีหลักฐาน เพราะจะมีรายการซื้อขายอยู่ ดังนั้นบางวันซื้อข้าวแล้วขายกำไรได้เสียวันละ 1000 กว่าบาทขาดทุนบ้างกำไรบ้าง ซึ่งยืนยันว่ามีหลักฐานในการเล่นหุ้น



ส่วนบางส่วน ก็คือเต็งโต๊ด แต่ไม่ขอพูดแล้วเดี๋ยวโดนกฎหมาย



ส่วนประเด็นเรื่องเงินนอกจากได้จากบอสพอลแล้ว ยังมีข้อมูลว่ามีเงินโอนเข้าจากบอสปีเตอร์ด้วย 5 แสนบาท คุณแม่บอกว่า ต้องขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนเมื่อถามว่าแล้วแม่รู้จักกับบอสปีเตอร์หรือไม่ แม่บอกว่ารู้จักผ่านการแนะนำของลูกชายด้วยเหมือนกัน



ส่วนการหยิบยืมเงิน ที่ตั้งข้อสังเกตว่าตอนยืมโอนตรงเข้าบัญชีแม่แต่ตอนคืนเป็นการคืนเงินสด ผิดวิสัยวิญญูชน คุณแม่บอกว่า อย่างที่บอกไปว่าเอาเงินเขามาเป็นก้อน เวลาคืนไม่ได้คืนเป็นก้อน อย่างกรณีโอนให้ลูกชายจำนวน 40,000 บาท ให้เอาไปคืนบอสพอล เขาก็เอาไปคืนกันเอง ซึ่งไม่รู้ว่าลูกชายเอาไปคืนเป็นเงินสดหรือว่าอะไร



ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวจากชุดทำงานของดีเอสไอ ที่ระบุว่าเรื่องเงินทำบุญ ควรจะมีใบอนุโมทนาบัตร คุณแม่ชี้แจงว่า การทำบุญไม่ใช่ทำก้อนเดียว 1 แสนบาท แต่เป็นการกระจายๆกัน ฉะนั้นมันไม่จำเป็นต้องมีใบอนุโมทนาบัตร แต่บางอันก็มีเอกสารใบอนุโมทนาบัตรอยู่บ้าง ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องซีเรียส มีหลักฐานในการทำบุญทุกอย่าง



ส่วนที่วันนี้ โหนกระแสเชิญ คุณสิระ และ คุณไผ่ มาออกจากรายการ คุณม่าบอกว่า

ทั้งสองท่านเป็นบุคคลที่แม่รัก และเคารพมาก ท่านทั้งสองเก่ง ท่านทั้งสองเป็นไอดอลของดิฉัน แต่ดิฉันถึงขอขมา บางครั้งลูกชายดิฉันอาจจะไปล่วงเกินท่านทั้งสอง อย่างที่เมื่อกี้ท่านทั้งสองได้พูดในรายการโหนกระแสเราว่าไม่ได้มีอะไรกับสามารถ ดังนั้นเราทั้งสองก็ไม่ได้เป็นศัตรูกัน ดิฉันก็ขอความเมตตาท่านทั้งสอง ให้เมตตาคุณแม่สามารถและสามารถด้วย มีอะไรแนะนำ อย่างที่เค้าบอกว่าให้คุณแม่อยู่เฉยๆ เขาพูดถูกว่าคุณแม่รักลูก ดิฉันยอมรับว่ารักลูก แต่ก็ไม่ได้มาปกป้องลูก ทุกอย่างว่าไปตามเนื้อผ้า พร้อมทั้งยืนยันว่า สองท่านนี้ไม่ได้กลั่นแกล้งใดใด



คุณแม่ยังย้ำว่า วันนี้สองแม่ลูกรับชะตากรรมไปเรียบร้อยแล้ว ตนเองไม่ได้เป็นคนชั่วอย่างที่ทุกคนว่า และไม่ได้เจตนาที่จะมาทำผิดกฏหมาย และขอให้ดีเอสไอเมตตาด้วย เบาๆ หน่อยนะคะ

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/nxeu-ohE348