“วิโรจน์” ลั่นใครเขาจะเชื่อ “ทักษิณ” ตอบติดตลกกินมาม่า 6 พรรคร่วม ฉะคำพูดพ่อ ทำลายภาวะผู้นำ “ลูกสาว”

แต่นายทักษิณ ตอบชี้แจงในแบบให้เกียรติประชาชนได้ดีกว่านี้ เพราะคนมีประสบการณ์ และมีนักการเมืองเข้าไปขอคำปรึกษา นั้นได้อยู่แล้ว มันไม่น่าใช่การครอบงำพรรคหรอก อะไรก็ว่าไป แต่พอบอกว่าเข้าไปกินมาม่า มันเหมือนกำลังท้าทายเสียงวิจารณ์ประชาชน ประกาศยอมรับไปในที ว่าฉันครอบงำพรรคแล้วทำไม

ซึ่งจุดอ่อนของระบบของไทยที่ไม่เคารพเสียงประชาชน คือ มีเส้นมีสาย เครือข่ายระบบออุปถัมภ์ หรือ มีมือที่มองไม่เห็นคอยเชิด มีตัวละครที่อยู่หลังม่าน มีใบสั่ง มีระบบตั๋ว เป็นต้น รอบนี้ นายทักษิณเหมือนกำลังจะส่งสัญญาณว่า ฉันมีตั๋ว ฉันมีมือที่มองไม่เห็นที่คอยปรบมือให้ฉันอยู่ เขายังเชิดฉันอยู่ ฉันไม่ต้องกลัวอะไร เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันมีแบ็กดี ก็ไม่ต้องเกรงใจใครก็เลยตอบท้าทายไปว่ากินมาม่า

เมื่อถามว่าคำพูดนายทักษิณ รอบนี้ สะท้อนอะไร ถึงตัวลูกสาว น.ส.เเพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายวิโรจน์ ตอบว่า ที่ผ่านมา ตนมักถูกด่าด้วยซ้ำ เรื่องคอมเมนต์การเมืองเข้าข้าง น.ส.เเพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เพราะตนไม่อยากไปด้อยค่า ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับการทำหน้าที่นายกฯ แต่ในกรณีคำพูดนายทักษิณนี้ มันเป็นการทำลายภาวะผู้นำของน.ส.แพรทองธาร เสียเอง เพราะถ้านายทักษิณ วางตัวในฐานะผู้มีประสบการณ์คนหนึ่ง แนะนำพรรคร่วมในฐานะผู้ผ่านร้อนผ่านหนาว แล้วก็ให้ความเห็นตบท้ายว่า

สุดท้ายก็ควรจะไปพบกับนายกรัฐมนตรีมากกว่าตนเอง แบบนี้จะเหมาะสมกว่า และตอบแบบให้เกียรติประชาชนและให้เกียรตินายกรัฐมนตรี แต่ครั้งนี้นายทักษิณตอบเหมือนฉันไม่แคร์ ท้าทาย

“มาตอบว่าไปกินมาม่าใครเขาจะเชื่อ แต่จงใจท้าทายว่า ก็ฉันคือนายกรัฐมนตรีตัวจริง แล้วใครจะทำไมฉันครอบงำ แล้วใครจะทำไม เพราะมือที่มองไม่เห็นเลือกฉัน ไม่เห็นสายเชือกหรือ ไม่เห็นเชือกที่ข้อมือฉันหรือ ไม่เห็นมือที่ชักใยฉันอยู่หรือ ถ้ามีปัญหาก็ไปคุยกับคนที่ชักใยฉันสิ ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก คุณทักษิณ ก็เลยตอบแบบกวนๆ ไปว่ากินมาม่า แล้วแบบนี้เมื่อไหร่ภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรี จะสร้างได้สำเร็จ” นายวิโรจน์ กล่าว