“วัฒนา” ล้มช้างชนะ “พงษ์ศักดิ์” นายก อบจ.ขอนแก่น 6 สมัย

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 3 พ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการนับคะแนนเลือกตั้ง นายก อบจ.ขอนแก่น หลังปิดหีบเลือกตั้งมาตั้งแต่เวลา 17.00 น.ที่ผ่านมา โดยทั้ง 26 อำเภอของจังหวัดขอนแก่นได้ทยอยรายงานผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ มาที่ศูนย์ประสานงานและอำนวยการการเลือกตั้ง นายก อบจ.ขอนแก่น อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดผลการรับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการไปแล้วกว่าร้อยละ 80



ปรากฎว่า นายวัฒนา ช่างเหลา ผู้สมัครหมายเลข 1 ได้คะแนนที่ 293,348 คะแนน ทิ้งห่างนายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ หมายเลข 2 ซึ่งได้คะแนน 248,842 คะแนน และนายโตบูรพา สิมมาทัน หมายเลข 3 ได้คะแนน 37,030 คะแนน โดยเป็นผลการนับคะแนนไปแล้ว 2,350 หน่วยเลือกตั้งจากทั้งหมด 2,689 หน่วยเลือกตั้ง



นายวัฒนา ช่างเหลา ว่าที่ นายก อบจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ผมในการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างถล่มทลาย ซึ่งทุกนโยบายที่ได้ประกาศไว้จะทำทันที ไม่มีวันหยุดและไม่มีวันเหนื่อย นายก อบจ.ขอนแก่น จะลงพื้นที่แก้ปัญหาให้กับประชาชนครบทั้ง 26 อำเภอของจังหวัด เพราะจากการลงพื้นที่ในการหาเสียงแม้จะมีเวลาในการเตรียมตัวไม่มากนัก แต่ตนเองและทีมงานมีความตั้งใจจริง มีความมุ่งมั่นตั้งใจ และลงพื้นที่ครบทั้ง 26 อำเภอแม้จะไปไม่ครบทุกหมู่บ้าน แต่ก็มีทีมงานไปในทุกพื้นที่ เพราะเราทำงานเป็นทีม



“ทุกคนบอกว่า อบจ.คือพี่ใหญ่ของวงการท้องถิ่น คำนี้เป็นข้อพิสูจน์ให้กับผม และคณะทำงานอย่างมาก เพราะทุกคะแนนที่มอบให้ เป็นความมุ่งมั่นที่ทุกคนจะพร้อมที่จะมาร่วมเปลี่ยนจังหวัดไปด้วยกัน ที่ผ่านมาการทำงานแบบเดิมของ อบจ.เป็นแบบใด ทุกท่านทราบกันอยู่แล้ว ภาพจำเดิมๆที่เคยมี มาในยุคผมไม่มีแน่นอน นายก อบจ.ต้องเข้าถึงง่าย รับฟังทุกปัญหาและร่วมกันแก้ไขปัญหาที่ตรงกับความต้องการของประชาชนและจะต้องตรงจุด อบจ.จะทำงานร่วมกันกับ เทศบาล และ อบต.ทุกแห่งอย่างเข้าใจ เพราะเรารู้ว่าท้องถิ่นนั้นติดขัดเรื่องงบประมาณ โดยเฉพาะในด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่นเดียวกันกับการทำงานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจะครอบคลุมในทุกมิติขณะที่ 9 นโยบายที่ใช้ในการหาเสียงก็จะทำทันทีเช่นกัน”



ขณะที่บรรยากาศที่บ้านพักของนายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ อดีต นายก อบจ.ขอนแก่น ในเขต ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เป็นไปอย่างเงียบเหงา โดยหลังจากรู้ผลคะแนนว่าพ่ายแพ้ให้กับผู้สมัครหน้าใหม่ ต่างคนต่างทยอยกันเดินทางกลับทันที มีเพียงคนสนิทและคนในครอบครัวมาร่วมให้กำลังใจไม่มากนัก โดยอนุญาตให้เฉพาะสื่อมวลชนบางคนที่ถูกเลือกเข้าไปบันทึกภาพและเฝ้าสังเกตุการณ์เท่านั้น