กินกันไม่ลง! 'หงส์-ปืน' เสมอเดือด 2-2 ด้าน 'แมนฯยู' เจอพิษวีเออาร์ โดนค้อนทุบ 2-1 จมอันดับ 14

วานนี้ (28 ต.ค. 67) มีการแข่งขันฟุตบอลศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 2024-2025 

'อาร์เซนอล' พบกับ 'ลิเวอร์พูล'

ครึ่งแรก

เป็น 'อาร์เซนอล' เจ้าบ้าน ที่เล่นได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด และสามารถยิงประตูขึ้นนำได้ก่อน ในนาทีที่ 9 โดย 'บูคาโย ซากา' ใช้สปีดที่เป็นจุดเด่น แล้วล็อกหลบ 'แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน' แล้วยิงเข้าประตูไปอย่างสวยงาม 

ลิเวอร์พูลยังไม่ย่อมแพ้ง่าย โดยในนาทีที่ 18 โดย เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลเข้ากลาง หลุยส์ ดิอาซ จึงโหม่งเช็ดต่อให้ เฟอร์จิล ฟาน ไดก์ โขกแบบจ่อ ๆ กลับมาเสมอกันที่ 1-1

แต่ช่วงที่กำลังจะจบครึ่งแรก 'ปืนใหญ่' มาได้เพิ่ม 1 ลูก เมื่อ 'ดีแคลน ไรซ์' เปิดโค้งไปหน้าประตู และเป็น 'มิเคล เมริโน' วิ่งโฉบมาโหม่งบอลเข้าไป ออกนำอีกครั้ง 2-1

ครึ่งหลัง

เหมือนหนังคนละม้วน เมื่อ 'หงส์แดง' เล่นได้ดีขึ้น มีบางช่วงที่สามารถพับสนามได้ และในนาทีที่ 81 'ดาร์วิน นูนเญซ' เปิดบอลให้ 'โม ซาลาห์' ทำให้จบเกมเสมอกัน 2-2 

ซึ่งผลที่ออกมาแบบนี้ สามารถมองทั้งในแง่ดี และ แง่ร้าย คือ 'ลิเวอร์พูล' ต้องเสียจ่าฝูงให้ 'เรือใบสีฟ้า' แต่ในแง่ดีก็ถือว่า สามารถเก็บได้ 1 คะแนน จากรังเหย้าของ 'อาร์เซนอล' ที่ถือว่าเป็นคู่แข่งตัวฉกาจในการแย่งแชมป์

'เวสต์แฮม ยูไนเต็ด' พบกับ 'แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด'  

ครึ่งแรก

เป็น 'ปีศาจแดง' ที่เล่นได้ดีกว่า มีโอกาสทำประตูที่สามารถเป็นสกอร์ได้ถึง 3-4 ลูก แต่กลับตีนฝืด ยิงไม่เข้าสักประตูเดียว

ครึ่งหลัง

กลายเป็นหนังคนละม้วน เมื่อ 'ขุนค้อน' กลายเป็นที่เล่นดีกว่า และสามารถออกนำได้ก่อน ในนาทีที่ 74 เมื่อ 'แดนนี่ อิงส์' ยิงพลาดในเขตโทษ แต่บอลไปเข้าทาง 'ครายเซนซิโอ ซัมเมอร์วิลล์' ยิงเข้าไป 'ขุนค้อน' ออกนำก่อน 1-0

แต่ไม่นานนัก 'ปีศาจแดง' ก็สามารถ ตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ โดยในนาทีที่ 81 'โยชัว เซิร์กเซ่' กองหน้าสำรอง โหม่งบอลต่อให้ 'คาเซมิโร่' ที่โขกอีกรอบ ตามตีเสมอ 1-1

'ปีศาจแดง' เกือบหอบ 3 แต้มกลับเมืองแมนเชสเตอร์ได้ แต่ทว่า ในนาทีที่ 88 ต้องมาเสียจุดโทษ เมื่อ 'มัทไธจ์ เดอ ลิกต์ 'ไปกระแทก 'แดนนี่ อิงส์' ในกรอบเขตโทษ และเป็น 'จาร์ร็อด โบเว่น' สังหารไม่เหลือซาก 'เวสต์แฮม ยูไนเต็ด' ออกนำ 2-1 และเมื่อนกหวีดเป่าหมดเวลา ก็จบลงด้วยสกอร์นี้

ทำให้ตอนนี้ จากการแข่ง 9 นัด 'แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด' แพ้ไปถึง 4 นัด อยู่อันดับที่ 14 

ส่วนผลบอลคู่อื่น มีดังนี้

เชลซี ชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-1

คริสตัล พาเลซ ชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส 1-0