'ภูมิธรรม' เรียกถกคืบหน้าคดีดิไอคอน ด้าน 'บิ๊กก้อง' เผยเตรียมส่งไม้ต่อดีเอสไอ 28 ต.ค. นี้

กรณีดิไอคอนกรุ๊ป เป็นคดีใหญ่ที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก ล่าสุด มีปฏิกิริยา-ความเคลื่อนไหวจากรัฐบาล เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุม ติดตามความคืบหน้าทางคดีแล้ว



ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ช่วงเช้าวันนี้ "นายภูมิธรรม เวชยชัย" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีฯกลาโหม เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามความคืบหน้าคดีดิไอคอนเป็นการภายใน



ผู้เข้าร่วมประชุมหลัก ๆ ประกอบด้วย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ / พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าชุดทำคดีบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป / พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง / พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดี ดีเอสไอ / นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการ ปปง. พร้อมด้วย เลขาธิการคณะกรรมการปปง. /ตำรวจ บก.ปคบ. และสคบ.เข้าร่วม



นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุม ในฐานะเป็นรองนายกฯ กำกับดูแลดีเอสไอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ปปง. ซึ่งทั้ง 3 หน่วยงานมีบทบาทสำคัญในคดีนี้ จึงเรียกมาประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าคดี เพราะเป็นคดีใหญ่ ที่ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก และเตรียมรายงานความคืบหน้ากับ นายกรัฐมนตรีด้วย



การประชุมครั้งนี้ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่นายภูมิธรรม พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้อง จะร่วมกันแถลง โดยบอกว่า จากการรับฟังรายงานของตำรวจ ถือว่าทำหน้าที่อย่างเต็มที่ รับเรื่องร้องทุกข์จากทั้งส่วนกลางและต่างจังหวัด ทั้งหมดจะเข้าสู่เงื่อนไขที่จะต้องมอบอำนาจให้ดีเอสไอไปดำเนินการ



แต่อยากให้สื่อช่วยชี้แจงว่า นี่ไม่ใช่การยกคดีไปให้ดีเอสไอ แต่เป็นการทำให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จากการสอบสวนพบว่าขณะนี้สำนวนใกล้เสร็จแล้ว และพร้อมยื่นให้ดีเอสไอ ได้คุยกันแล้วว่าทั้ง 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะร่วมมือกันทำงานให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายที่ถูกต้อง



จากนี้ ตำรวจจะยื่นคดีให้กับดีเอสไอตามข้อกฎหมาย ส่วน ปปง.จะดูแลเรื่องการยึดทรัพย์ต่าง ๆ โดยในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ จะยื่นคดีทั้งหมดให้กับดีเอสไอ เหตุผลที่คดีนี้เป็นคดีพิเศษ เพราะมีความเสียหายที่มีมูลค่ามากกว่า 300 ล้านบาท



ในส่วนของ สคบ. เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่ถูกกล่าวหาว่ามีบุคคลเกี่ยวข้องคดี จึงไม่ให้เข้ามาเป็นคณะทำงานในเรื่องการสอบสวน แต่จะทำหน้าที่เพียงสนับสนุนเท่านั้น



ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง บอกว่า เมื่อส่งสำนวนไปให้ดีเอสไอ ตำรวจจะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยดีเอสไออีกที จากนี้คงต้องไปหารือกัน ส่วนการออกหมายจับผู้ต้องหาในล็อตที่ 2 จะมีดาราเข้าไปเกี่ยวข้องเพิ่มด้วยหรือไม่นั้น พล.ต.ท.จิรภพ บอกว่า ยังไม่ถึงจุดนั้น เอาไว้วันที่ 28 ตุลาคมนี้ จะนัดคุยกันอีกครั้ง