สังคม
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกรวบ “แม่เสี่ยโป้” คาบ้านหรู ย่านพุทธมณฑลสาย 2
โดย gamonthip_s
23 ต.ค. 2567
2.6K views
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. ร่วมกันจับกุม 1. น.ส.บานเย็น ฯ (แม่เสี่ยโป้) อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 240/2564 ลงวันที่ 3 ก.พ.64 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน” (คดี กก.1 บก.ป.)
2. น.ส.พฤกษชาติฯ อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลแขวงดอนเมืองที่ 61/2563 ลงวันที่ 31 มี.ค.63 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันประกาศโฆษณา ชักชวน จัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต” (คดี กก.3 บก.ปอท.)
สถานที่จับกุม ภายในบ้าน (พุทธมณฑลสาย 2) แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ ช่วงเดือนมิถุนายน 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ตรวจพบว่า บัญชีเฟซบุ๊กหนึ่งได้โฆษณาชักชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าเล่นพนันออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ จากการตรวจสอบเว็บไซต์พบว่าเป็นเว็บพนันออนไลน์ที่เปิดให้เล่น พนันทายผลฟุตบอล และเกมกาสิโนออนไลน์ประเภทต่างๆ เช่น บาคาร่า, ไพ่ป๊อกเด้ง, เกมไพ่ชนิดอื่นๆ, ตู้เกมสล็อต, ทายผลเกม เป็นต้น ซึ่งเปิดให้มีการเสี่ยงทายเล่นพนันได้เสียเงินจริง และยังพบเงินหมุนเวียนในบัญชีรับโอนเงินจำนวนมาก สำหรับ “น.ส.บานเย็นฯ หรือมารดาเสี่ยโป้” เกี่ยวข้องกับคดีนี้คือ เปิดบัญชีธนาคารที่ได้รับผลประโยชน์ จากบัญชีที่ใช้พักเงินเว็บพนันออนไลน์ข้างต้น ซึ่งเว็บไซต์พนันออนไลน์ดังกล่าว พบผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจำนวน 31 ราย โดยแต่ละรายมีการแบ่งหน้าที่กันในการจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ และการยักย้ายถ่ายเทเงินที่ได้จากผู้เล่นพนัน
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 ก.พ.64 พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดข้างต้น ทั้งหมด 31 ราย โดยหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. ได้ขอหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นหาพยานหลักฐานที่ ได้ใช้ มีไว้ หรือได้มาจากการกระทำผิดในคดีนี้ พร้อมจับกุมนายเสี่ยโป้ฯ และบุคคลใกล้ชิดที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปกว่า 20 ราย อย่างไรก็ตาม ยังคงมีผู้ต้องหาที่ไหวตัวทันและหลบหนีไป
ต่อมา กก.1 บก.ป. ได้มอบหมายให้ ว่าที่ พ.ต.ต.มณเฑียร ธงเทียน สว.กก.1 บก.ป. พร้อมพวกทำการสืบสวน เพื่อติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีนี้ เนื่องจากมีการกระทำความผิดที่มีลักษณะของเครือข่ายองค์กรอาชญากรรม ปัจจุบันยังมีกลุ่มผู้ต้องหาหลบหนีอยู่จำนวน 4 ราย ซึ่งส่วนใหญ่จะเดินทางออกนอกประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ จากการสืบสวนพบว่า น.ส.บานเย็นฯ หนึ่งใน 4 ผู้ต้องหาได้หลบหนีมากบดานอยู่ในหมู่บ้านหรูย่านพุทธมณฑลสาย 2 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร ปกปิดตัวตนใช้นามสมมติว่า “บุษบา” อยู่อย่างเงียบๆ ภายในบ้านหลังดังกล่าว
ปรากฏว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ตามหมายค้นศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ ค219/2567 ลงวันที่ 22 ต.ค.67 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตัว เข้าทำการตรวจค้น ได้พบบุคคลที่มีตำหนิรูปพรรณคล้าย น.ส.บานเย็นฯ กำลังปีนรั้วหลังบ้าน เพื่อหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังปิดล้อมไว้ทั้งหมด จึงปีนกลับเข้าไปซ่อนตัวในบ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นภายในบ้านตามหมายค้นของศาล พบหญิงที่มีตำหนิรูปพรรณตรงกับน.ส.บานเย็นฯ บุคคลในหมายจับ หลบอยู่บริเวณข้างโซฟาของบ้านหลังดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ และบุคคลดังกล่าวอ้างว่า ตนชื่อ บุษบา เป็นแม่บ้าน จึงได้ซักถามปากคำจนบุคคลดังกล่าว จำนนด้วยหลักฐาน ภาพบัตรประชาชน น.ส.บานเย็น ฯ ในโทรศัพท์ และยอมรับว่าตน คือ น.ส.บานเย็น ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้จับกุมตัว น.ส.บานเย็น ฯ แจ้งข้อกล่าวหา และ น.ส.บานเย็น ฯ รับทราบข้อกล่าวหา และสิทธิของผู้ถูกจับข้างต้นดีแล้ว
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นโดยละเอียด พบหญิงที่มีตำหนิรูปพรรณตรงกับบุคคลในหมายจับอีกบุคคลหนึ่งหลบอยู่บริเวณภายในห้องนอนชั้น 2 ของบ้าน จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ จึงได้ขอตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชนพบเป็นของ นางสาวพฤษชาติ ฯ อายุ 31 ปี ตามหมายจับของศาลแขวงดอนเมือง ที่ 61/25630 ลงวันที่ 31 มีนาคม 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "จัดให้มีการเล่นพนันทายผลฟุตบอลฯ, เป็นเจ้าบ้านจัดให้มีการเล่นพนันฯ” จึงได้แสดงหมายจับให้ นางสาวพฤษชาติ ฯ ผู้ต้องหาดูจนทราบและเข้าใจดีแล้ว ยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับรายชื่อบุคคลในหมายจับจริงและยังไม่เคยถูกจับกุมในคดีดังกล่าวมาก่อน
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ ถ่ายภาพนิ่ง, ภาพเคลื่อนไหว และบันทึกเสียง ขณะทำการจับกุม อย่างต่อเนื่องในขณะจับกุมและควบคุมตัว จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาทำบันทึกการจับกุม ที่ กก.1 บก.ป. ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. และ กก.3 บก.ปอท. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และแจ้งว่า “ยอดเงินที่ตนรับโอนมาจากบัญชีเว็บพนันฯ นั้น ตนเป็นเพียงผู้เล่นเท่านั้น ไม่เคยจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์แต่อย่างใด และไม่เคยให้บุคคลใดไปเปิดบัญชีธนาคารให้กับตน”
แท็กที่เกี่ยวข้อง