สังคม

เทศบาลตั้งป้ายเตือนแล้ว หลังชุ่ยลาดยางมะตอย ทำรถเสียหายเกือบ 200 คัน

โดย nattachat_c

14 ต.ค. 2567

26 views

ความคืบหน้ากรณี 'เทศบาลนครตรัง' เจ้าของโครงการปรับปรุงผิวจราจรแอสฟัลท์ติกคอนกรีต ถนนสายขนานทางรถไฟ (ใต้) หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า 'ถนนสายทางรถไฟวังตอ' โดยมีบริษัท สยามภัณฑ์ศิลา จำกัด เป็นผู้รับจ้าง ในงบประมาณจำนวน 6,030,000 บาท ปรากฏว่า ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 12 ต.ค. 67 ทางผู้รับจ้างได้ลาดยางมะตอยเต็มพื้นถนนตลอดสาย แต่กลับไม่มีการแจ้งปิดถนน  และไม่มีป้ายแจ้งห้ามใช้เส้นทาง หรือป้ายสัญญาณเตือนใด ๆ ทำให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ไม่ทราบว่ามีการลาดยางมะตอย จึงได้ขับรถเข้าเส้นทางดังกล่าว จนทำให้ยางมะตอยที่ลาดอยู่บนพื้นถนนติดล้อยาง กระเด็นขึ้นมาใต้ท้องรถ ใต้ซุ้มล้อ และพื้นผิวสีตัวรถ จนทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ทั้งรถยนต์-จักรยานยนต์ รวมกันเกือบ 200 ราย ซึ่งผู้เสียหายได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ที่ สภ.เมืองตรัง  


วานนี้ (13 ต.ค. 67) 'เพจ PR Nakorntrang News' เพจของเทศบาลนครตรัง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ดร.สัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง ได้สั่งการให้แก้ไขทันที สั่งการให้ผู้รับจ้างจัดทำป้ายไวนิล 'ทางปิด ห้ามเข้า' ตามมาตรฐานการก่อสร้าง ไปติดตั้งที่ทางเข้าถนนรวม 3 จุด คือ ถนนกันตัง ถนนคลองน้ำเจ็ด และถนนวังตอ รวมทั้งให้นำแผงเหล็ก หรือแบริเออร์ กั้นปิดพื้นที่สร้างถนนแล้ว ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 12 ต.ค. 67


ในส่วนของผู้เสียหาย ทางเทศบาลยินดีประสานผู้รับจ้างเพื่อชดใช้ค่าเสียหาย และเยียวยา ซึ่งผู้เสียหายสามารถประสานมายังสำนักช่างเทศบาลนครตรัง นอกจากนี้ ทางเทศบาลได้กำชับผู้คุมงาน และผู้รับจ้าง ดำเนินการติดตั้งป้ายเตือน สัญญาณไฟต่าง ๆ อย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหานี้ซ้ำอีก และได้เรียกผู้รับจ้างเข้าประชุมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ในวันที่ 15 ต.ค. นี้ เพื่อหาแนวทางเยียวยาผู้เดือดร้อน และจะประสานขอข้อมูลจาก สภ.เมืองตรัง เพื่อให้ทราบจำนวนผู้เดือดร้อน และทำการเยียวยาตามลำดับต่อไป


ขณะที่ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ สภ.เมืองตรัง มีผู้เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันอย่างต่อเนื่อง จนพื้นกระเบื้องบน สภ.เมืองตรัง เต็มไปด้วยคราบยางมะตอยที่ติดมากับรองเท้าของผู้เสียหาย


นางดวงพร อ้นเพ็ง อายุ 58 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเลิกงาน ขับจักรยานยนต์จะกลับบ้าน พอมาถึงถนนดังกล่าว ไม่มีป้ายเตือนใด ๆ ก็ขับเข้าไปตามปกติ แต่รู้สึกว่าล้อรถสัมผัสพื้นแล้วนิ่ม ๆ จึงจอดรถลงมาดู ปรากฎว่ามียางมะตอยติดเต็มล้อรถ และติดรองเท้าคู่ละ 1,000 กว่าบาท ทั้งสองข้าง จนต้องทิ้ง ตนต้องขับรถกลับบ้านแล้วไปนั่งเขี่ยยางมะตอย แต่ก็ออกไม่หมด จึงได้นำรถไปเข้าคาร์แคร์ เสียค่าบริการกว่า 500 บาท แต่ก็ไม่สามารถขัดคราบได้ออกทั้งหมด จึงอยากให้ผู้รับผิดชอบออกมาชดใช้ค่าเสียหาย ค่าเสียเวลา ให้ด้วย เพราะผู้เสียหายมีหลายราย


ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ร้านคาร์แคร์ ในเขตเทศบาลนครตรัง มีผู้เสียหายนำรถเข้ามาใช้บริการ ให้ทางร้านขจัดคราบยางมะตอยออกให้เป็นจำนวนมาก โดยค่าใช้จ่ายในการขจัดคราบ สำหรับจักรยานยนต์ราคาเริ่มที่ 500 บาท รถยนต์ราคาเริ่มต้น 1,000 บาท จนถึง 3,000 บาท


เจ้าของร้าน ป้อมคาร์แคร์ กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุนี้ มีลูกค้าเข้ามาสอบถาม และนำรถเข้ามาไม่ต่ำกว่า 30 คัน แต่ทางร้านรับได้ไม่เยอะ เนื่องจากเมื่อขจัดคราบคันแรก ๆ ไปแล้ว รู้เลยว่ามันขจัดยาก บางคันต้องใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมง ถึงจะออกได้ทั้งหมด ยากง่ายขึ้นอยู่กับลักษณะของยาง ยิ่งยางใหญ่ดอกลึก ยิ่งยาก เพราะติดยางมะตอยมาเยอะ แล้วฝังเข้าไปอยู่ในดอกยาง และยิ่งปล่อยให้แห้ง ยางจะติดแน่นกว่าเดิม


ทั้งนี้ บริเวณของรถส่วนใหญ่ที่จะติดยางมะตอยจะอยู่ที่ ล้อยาง ซุ้มล้อ และช่วงล่างรถ ซึ่งราคาเริ่มต้นที่ 1,000 บาท ขึ้นอยู่กับความยากง่าย และปริมาณเนื้อยางมะตอย ลูกค้าก็สะท้อนปัญหาบอกว่า ขับเข้าถนนไปเพราะไม่รู้ ไม่มีป้ายเตือนว่ากำลังราดยางมะตอย ตนจึงขอแนะนำผู้ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุนี้ อย่าเพิ่งให้รถโดนแดด เพราะยางมะตอยจะแห้ง จะยิ่งเอาออกยากมาก ต้องพยายามไปล้างให้เร็ว


ด้าน นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง กล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ ทาง สำนักงาน ป.ป.ช.ตรัง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการของเทศบาลนครตรัง จำนวน 24 โครงการ รวมทั้งโครงการถนนสายดังกล่าวนี้ด้วย ซึ่งใช้งบประมาณจำนวน 24 โครงการ ไปกว่า 130 ล้านบาท เนื่องจากมีชาวบ้านร้องเรียนมาก่อนหน้านี้ว่า ถนนบางสายไม่ได้ชำรุด แต่มีการขุดรื้อเพื่อทำถนนใหม่


หลังจากตรวจสอบในเบื้องต้น ยังไม่พบการกระทำความผิด แต่พบเจอสิ่งที่น่าสังเกตในเรื่องของการเสนอราคาของผู้ประกอบการ แต่ละรายเสนอราคาใกล้เคียงกันมาก บางรายเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางไม่มาก บางรายเสนอราคาสูงกว่าราคากลาง และในบางโครงการเสนอราคาห่างกันไม่มาก ประมาณ 400 - 500 บาท ซึ่งในส่วนนี้ทาง ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง จะเฝ้าระวัง ติดตาม และขอข้อมูลอย่างต่อเนื่องในเรื่องนี้ เพื่อดูรายละเอียดว่ามีพิรุธตรงไหนอย่างไร และจะตรวจสอบโครงการอื่น ๆ อีก เพราะทราบว่ายังมีโครงการอื่น ๆ อีก ที่กำลังจะดำเนินการประมูลงานก่อสร้าง


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/eHL6Gf9rQpE




คุณอาจสนใจ

Related News