วันนี้ (2 ต.ค. 2567) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในการประชุม วาระการพิจารณาญัตติด่วนศึกษาแนวทางเสนอข้อคิดเห็นและยกระดับมาตรฐานในการป้องกันการเกิดเหตุ กรณีรถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้
นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้เสนอให้รถที่ใช้สำหรับการขนส่งนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นการทัศนศึกษา หรือจะเดินทางไปที่ไหนก็ตาม ต้องมีการตรวจสอบสภาพรถ และพนักงานขับรถให้มีความพร้อมมากที่สุด และใช้เครื่องยนต์ที่ปลอดภัยกว่าการใช้ก๊าซ, คนขับรถต้องมีความรับผิดชอบที่ดี ต้องมีมาตรการควบคุมมาตรฐานของคนขับรถทัศนศึกษา เช่นเดียวกับนักบินที่จะต้องดูแลชีวิตผู้โดยสารบนเครื่องบินทั้งลำ มีการให้ความรู้ในการเอาตัวรอดหากเกิดเหตุฉุกเฉินเหมือนบนเครื่องบิน พร้อมเสนอให้มีการออกกฎหมายครอบคลุมไปถึงเจ้าของรถ จะต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย เพื่อไม่ให้เจ้าของรถละเลยการดูแลคุณภาพและสมรรถนะของรถ
รวมไปถึงผู้ประกอบการขนส่งที่จะต้องมีความรู้ และเข้าใจกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น และจะต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าปกติหากต้องใช้ทัศนศึกษาเด็กนักเรียน และครูที่ไปกับคณะทัศนศึกษา ต้องมีสติ รู้จักการแก้ไขปัญหา หรือรับมือกับสถานการณ์อุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ส่วนสถานศึกษา ก็จะต้องพิจารณาจัดการทัศนศึกษาหากมีเด็กเล็ก ควรกำหนดระยะทาง และต้องมีการตรวจสอบคุณภาพของรถและพนักงานขับรถด้วย หากไม่พร้อมก็ควรยกเลิกการทัศนศึกษาไปก่อน
ขณะที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวว่า การทัศนศึกษาเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ ดังนั้น การทัศนศึกษา จึงไม่ใช่ปัญหา แต่เป็นปัญหาในการจัดการความปลอดภัยของยานพาหนะหรือรถบัส ซึ่งการดูแลเยียวยาทั้งกายและใจของผู้ประสบเหตุ รวมถึงครอบครัวผู้สูญเสีย นับจากนี้รัฐบาลคงต้องดูแลให้มีความครบถ้วนและรวดเร็วไม่ตกหล่น จากการฟังแถลงของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ก็เข้าใจว่าท่านก็เร่งรัดอยู่แล้ว
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า การขนส่งสาธารณะของคนหมู่มาก หากยังปล่อยปละละเลย ก็จะเป็นอันตรายอย่างมาก พร้อมยกประกาศของกรมทางบก เรื่องการติดตั้งก๊าซ CNG ซึ่งกรณีเมื่อวานนี้ถูกตั้งข้อสังเกตจากวิศวกรทั่วประเทศว่า รถคันที่เกิดเหตุได้การติดตั้งก๊าซ CNG แต่รถบัสคันดังกล่าว เมื่อมีการเฉี่ยวชนกับขอบทางเพียงเท่านี้ เกิดเหตุเพลิงไหม้ได้อย่างไร เพราะฉะนั้น กระทรวงคมนาคม จะต้องตรวจสอบต่อไป
เพราะรถคันดังกล่าว จดทะเบียนตั้งแต่ปี 2513 มีอายุมากกว่า 54 ปี มากกว่าตนอีก และยังมีการต่อเติมดัดแปลงมาขนส่งรับผู้โดยสาร ตามข่าวเบื้องต้น ยังไม่มีการจดทะเบียนการใช้ก๊าซ CNG ด้วย ซึ่งไม่ทราบว่าการตรวจสภาพรถประจำปี สามารถผ่านการตรวจสอบมาได้อย่างไร
ดังนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะต้องขันน็อต ด้วยการเรียกรถสาธารณะที่ขนส่งโดยสารคนจำนวนมาก และติดก๊าซ CNG มาตรวจสอบสภาพใหม่ทั้งหมด เพื่อยืนยันความปลอดภัย หากเกิดที่พาณิชยกรรม ตนเชื่อว่าความเสียหายไม่ได้มีเท่านี้ เรื่องนี้ถูกตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการตรวจสภาพหรือขายลายเซ็นกันแน่ เท่ากับประเทศนี้กำลังมีลูกระเบิดวิ่งอยู่บนท้องถนนทุกเมื่อเชื่อวัน
“ทุกท่านคงทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีคำครหาจากสังคมว่ากรมการขนส่งทางบก เป็นแดนสนธยาทีเรียกรับผลประโยชน์มหาศาล การตรวจสภาพว่ากันว่าเป็นการขายลายเซ็น ตรวจจริงหรือไม่ก็ไม่รู้ หรือตรวจแบบขอไปที” นายวิโรจน์ กล่าว
นายวิโรจน์ ยังฝากถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ว่า จะต้องออกระเบียบถึงการจัดจ้างรถโดยสารต้องคำนึงความปลอดภัยอย่างรอบด้าน มีการฝึกซ้อมครู และเจ้าหน้าที่ ให้พร้อมรับมือเหตุฉุกเฉิน รวมถึงการทำประกันการเดินทางให้กับนักเรียนด้วย
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ อภิปรายว่า โศกนาฏกรรมในครั้งนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่าควรยกเลิกทัศนศึกษาหรือไม่ ตนคิดว่า มีประโยชน์เปิดโลกทัศน์ของเด็กๆ แต่เด็กอนุบาลควรปรับเปลี่ยนเรื่องระยะทาง
“ในสมัยผมเด็กๆ เวลามีทัศนศึกษาผมดีใจมาก ในวันนั้นรองเท้ายังไม่มีใส่เลย แต่พ่อแม่ก็หาข้าวหาปลา แล้วเราก็ไปทัศนศึกษา ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ภาคภูมิใจ ชอบมากเลยตอนเด็ก ผมคิดว่าควรดำเนินการต่อไป” นายธนกร กล่าว
นายธนกร กล่าวต่อว่า กระทรวงคมนาคมที่กำกับดูแลการตรวจสภาพรถ วันนี้ตรวจเข้มหรือไม่ เพราะวันนี้รถก็มีการดัดแปลงจดทะเบียนตั้งแต่ปี 2513 ตนยังไม่เกิดเลย ถึงอยากฝากไปถึงนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
“ขันน็อตเจ้าหน้าที่ เหมือนที่ท่านวิโรจน์พูด วันนี้การออกไปอนุญาตต่างๆ การตรวจสภาพต้องมีความเข้มข้น เพราะทุกครั้งที่เกิดโศกนาฏกรรมเรามักจะพูดว่าขอให้เป็นครั้งสุดท้าย แต่มันไม่เคยมีครั้งสุดท้ายเลยครับท่านประธาน โศกนาฏกรรมครั้งนี้เศร้าใจอย่างมาก เราเองก็มีลูก เพราะฉะนั้นไม่อยากให้เกิดขึ้นมา” นายธนกร กล่าว
นายธนกร ยังฝากไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ว่าควรมีมาตรการเพิ่มเติม วันนี้เราเห็นประเทศไทยประเทศเดียวหรือไม่ ที่มีรถบัส 2 ชั้น แล้วมีรูปโลโก้อะไรต่างๆมากมาย ตนเชื่อว่าถ้าตรวจจริงๆมันผิดกฏหมายทั้งนั้น เหตุการณ์ครั้งนี้เอาจริงเอาจังได้แล้ว เหมือนที่นายวิโรจน์พูด
สุดท้ายขอสดุดีไปยังครูที่เสียชีวิตทั้ง 3 ท่าน ที่ดูแลลูกศิษย์จนวินาทีสุดท้าย ฟังแล้วก็จะเศร้าใจ ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ ขอให้รัฐบาลได้ช่วยเยียวยาผู้ปกครอง อยากให้นายกรัฐมนตรีได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะต้องมีความพร้อม
ส่วนนางสาวพุธิตา ชัยอนันท์ สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน กล่าวชื่นชมนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่ลงพื้นที่ และเข้าไปดูแลอย่างรวดเร็ว โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็มีกระแสข้อเรียกร้องจากกลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครอง เรื่องการยกเลิกการทัศนศึกษา ซึ่งเราจะไปโทษพ่อแม่ผู้ปกครองไม่ได้ ประเด็นอยู่ที่ว่าผู้ปกครองไม่มั่นใจในความปลอดภัยของลูก เรามีข่าวให้เห็นมากมายว่าเกิดอุบัติเหตุอย่างไรบ้าง เมื่อไหร่ที่เราจะมีมาตรการจากกระทรวงศึกษาธิการอย่างเป็นรูปธรรมสักที
“เด็กเล็กๆ ต้องนั่งคาร์ซีทด้วยซ้ำ แต่การออกไปทัศนศึกษาดูแลอย่างไรบ้าง ดิฉันยังไม่กล้าให้ลูกของดิฉันนั่งรถในขณะที่ไม่ได้อยู่ในคาร์ซีทเลยค่ะ อยากจะให้มีการใส่ใจและทำให้อย่างเป็นรูปธรรมอย่างจริงจังได้แล้ว” นางสาวพุธิตา กล่าว