สังคม

ผกก.สน.หัวหมาก เร่งสอบปม ชายคลั่งยาขับรถอีแต๊กรุมประชาทัณฑ์ดับ กู้ภัยยืนยันไม่มีการรุมประชาทัณฑ์

โดย paranee_s

8 ก.ย. 2567

296 views

จากกรณีที่ตำรวจ สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุประชาชนช่วยกันไล่จับคนร้ายที่ขโมยรถอีแต๊ก และขับมาด้วยความหวาดเสียว จากที่พื้นของสน.ปทุมวัน โดยมี ส.ต.ต.พรหมมินทร์ ฤทธิ์ชัยสงค์ ผบ.หมู่ (ป) สน.ปทุมวัน ช่วยในการไล่จับมา แต่เมื่อมาถึงเชิงสะพานข้ามคลองแสนแสบ จึงใช้ปืนพกยิงเข้าที่ยางหลังด้านซ้าย 2 นัด จนยางแตก และ ยิงอีกนัดที่ บริเวณแยกคลองตัน จนรถเสียหลักวิ่งขึ้นเกาะกลาง


จากนั้นคนร้ายได้วิ่งหลบหนีไปถึงหน้าการไฟฟ้าบางกะปิ ชาวบ้านที่ตามมาต่างกรูกันวิ่งตามไปด้วยความโกรธแค้น กระทั่งคนร้ายหมดแรง ถูกชาวบ้านจับตัวไว้ได้ และลงประชาทัณฑ์จนคนร้ายแน่นิ่งไป และทราบภายหลังว่าเสียชีวิตที่โรงพยาบาลจากนั้นนำศพไปชันสูตรที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ


จากการสอบถาม พ.ต.อ.พรทวี สมวงค์ ผกก.สน.หัวหมาก บอกว่าจากการตรวจสอบทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าของรถอีแต๊กไม่ได้มีการไปขโมยตามที่เขาออกไปก่อนหน้านี้ และได้ขับมาจาก อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อมาหาญาติในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่วนรายละเอียดยังไม่ขอเปิดเผย และเมื่อถามถึงกรณีที่ชาวบ้านไปรุมทำร้ายจนผู้เสียชีวิตแน่นิ่งไปจะได้รับความผิดหรือไม่


เบื้องต้นผู้กำกับ ระบุว่า ตนไม่ได้รับรายงานว่ามีการรุมประชาทัณฑ์ แต่ได้รับรายงานชาวบ้านไปไล่ช่วยจับ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิดและประสานกลุ่มชาวบ้านเข้ามาสอบปากคำ ส่วนตัวผู้เสียชีวิตตอนนี้อยู่ที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจต้องรอผลชันสูตรว่าเสียชีวิตจากสาเหตุอะไร เบื้องต้นพบยาเสพติดภายในกระเป๋าของผู้เสียชีวิต


ขณะที่นายสุรกิตติ เปล่งสงวน เจ้าที่กู้ภัยที่อยู่ในเหตุการณ์ บอกว่า ตนได้รับแจ้งเหตุเกิดประมาณ 00.10 น. ว่าพบรถอีแต๊กขับในพื้นที่ถนนในลักษณะหวาดเสียว โดยที่มีชาวบ้านและพลเมืองดีไล่ตามกันมา เพราะกังวลว่าจะขับไปชนกับใครเหมือนกับเหตุการณ์ที่ พระราม 4 ส่วนตำรวจที่ติดตามจับกุม ตนไม่ทราบว่าไปเป็น ตำรวจ สน.ไหน เมื่อมาถึงบริเวณแอร์พอร์ตลิงก์รามคำแหง รถอีแต๊กเกิดอาการเสียหลักหมุน ทำให้คนขับลงจากรถและวิ่งหนี ชาวบ้าน พลเมืองดี และตำรวจ วิ่งตามไล่จับ


เมื่อถึงตัวตำรวจจึงใช้ยุทธวิธี ในการสกัดจับและควบคุมตัวโดยให้คว่ำหน้า มือไพล่หลัง ใส่กุญแจมือ และประสานตำรวจท้องที่มารับตัว แต่ระหว่างนั้น ตนเองได้ตรวจดูทรัพย์สินของ คนขับเพื่อหาเอกสารประจำตัวจากกระเป๋าเมื่อเปิดไปก็พบอุปกรณ์การเสพและยาบ้าจำนวนหนึ่งจึงเรียกตำรวจให้ตรวจสอบ


แต่ระหว่างนั้นตนเห็นคนขับอาการไม่ดีเนื่องจากปัสสาวะราด น้ำลายฟูมปาก หายใจเฮือก และตาค้าง ตนจึงให้ตำรวจถอดกุญแจมือ เพื่อจะเช็กอาการ พบว่าไม่มีชีพจรจึงทำการปั๊มหัวใจและใช้เครื่องช็อตไฟฟ้ากระตุ้นหัวใจ ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก่อนศูนย์เอราวัณมาช่วยเหลือ จากนั้นใช้เวลาอีกประมาณ 30 นาทีจนชีพจรกลับมาก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดและทราบภายหลังว่าเสียชีวิตที่โรงพยาบาล


นายสุรกิตติ ยืนยันว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีการรุมประชาทัณฑ์ เพราะตัวของคนขับไม่มีร่องรอยบาดแผลใบหน้าไม่ปวดบวมมีเพียงรอยถลอกจากการยื้อเล็กน้อยเท่านั้น

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ