สุโขทัยแนวกั้นน้ำพังหลายจุดแล้ว เตือนประชาชนเก็บของ-ย้ายผู้ป่วยติดเตียงด่วน

วันที่ 25 สิงหาคม 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในจังหวัดสุโขทัยว่า จากการลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์น้ำในจังหวัดสุโขทัย พบว่า หลายจุดแนวคันดินกั้นน้ำได้รับความเสียหายแล้ว ส่งผลให้น้ำสามารถไหลเข้าพื้นที่บ้านเรือน และพื้นที่เกษตรของพี่น้องประชาชนแล้ว เช่น ที่บริเวณสะพานสิริปัญญารัตน์ ตำบลวังใหญ่ อำเภอศรีสำโรง ที่ได้มีการเสริมแนวคันดินพร้อมคลุมด้วยพลาสติกไว้ ขณะนี้ ได้พังเสียหายแล้ว


โดยจุดนี้ ตนได้ลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นจุดเสี่ยงที่ตนมีความเป็นห่วงอย่างมาก แต่ถึงแม้จะมีการเตรียมรับมือเสริมแนวกั้นน้ำไว้ล่วงหน้า ก็ไม่สามารถต้านมวลน้ำที่ไหลมาปริมาณมากได้


นายสมศักดิ์ เปิดเผยอีกว่า จากการสำรวจสถานการณ์น้ำ ยังพบว่า หลังแนวกั้นน้ำได้รับความเสียหายประมาณ 30 นาที น้ำก็เริ่มไหลเข้าท่วมถนนที่บริเวณหมู่ 6 ตำบลวังใหญ่ ส่งผลให้บางจุดไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้แล้ว ตนก็ขอเน้นย้ำ ให้พี่น้องประชาชน เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเดินทางด้วยความระมัดระวัง ซึ่งขณะนี้ ทางจังหวัดสุโขทัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็เร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วนแล้ว นอกจากนี้ ตนยังได้ให้สาธารณสุขจังหวัด เตรียมการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ สำหรับให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว ทีมปฏิบัติการทางสิ่งแวดล้อมสำหรับการดูแลสุขาภิบาล ทีมจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ให้แก่ประชาชน


“ผมได้รับรายงานว่า จังหวัดสุโขทัยปีนี้ น้ำมากกว่าปีที่ผ่านมา ดังนั้น กำแพงคันดินที่อ่อนแอ ก็จะสู้ไม่ไหว จึงขอให้พี่น้องประชาชนเตรียมเก็บของ และติดตามการแจ้งเตือนของจังหวัดด้วย ซึ่งในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ผมก็ได้สั่งการให้สาธารณสุขจังหวัด แพทย์ และอสม. ช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงแล้ว โดยให้เร่งเคลื่อนย้ายไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว และขอกำชับให้ข้าราชการ เฝ้าติดตามสถานการณ์อยู่ในพื้นที่ด้วย จะได้ช่วยเหลือประชาชนได้ทัน ซึ่งขณะนี้ ขอยืนยันว่า พี่น้องชาวสุโขทัย ยังมีจิตใจที่เข้มแข็ง พร้อมขอขอบคุณรัฐบาล ที่มีความห่วงใยและช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยผมก็จะคอยติดตามสถานการณ์ และช่วยประสานงานตลอด เพื่อช่วยกันสู้อย่างเต็มที่ และเมื่อน้ำลด ก็จะเร่งในเรื่องการเยียวยาต่อไป” รมว.สาธารณสุข กล่าว