2 ผัวเมียสู้ชีวิต นอนในรถเข็น ตระเวนขายปลาตะเพียนสานทั่วประเทศ

เวลาประมาณ 09.00 น. วันนี้ (25 สิงหาคม 2567) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพนักงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ริมถนนสายเอเซีย อำเภอเมืองสิงห์บุรีว่า มีสองลุงป้า ใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก มาอาศัยหลับนอนหลบฝนอยู่ที่ด้านหน้าของร้าน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบยังจุดที่ได้รับแจ้ง ซึ่งเป็นสถานีบริการน้ำมัน หงษ์ชวลิต บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 85 ฝั่งขาล่อง


ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ พบสองสามีภรรยา คือนายสมโปรด อายุ 55 ปี ชาวจังหวัดนครสวรรค์ และนางสำลี อายุ 54 ปี ชาวจังหวัดปทุมธานี พร้อมสุนัขพันธุ์ไทย เพศเมียอีกหนึ่งตัว นั่งอยู่ในรถเข็นที่ต่อเติมขึ้นมาพ่วงท้ายรถจักรยานยนต์ จึงเข้าไปสอบถาม ทราบว่าทั้งสองไม่มีบ้านเป็นของตนเอง ประกอบอาชีพเป็นคนงานก่อสร้าง อยู่ด้วยกันมาเป็นเวลานานหลายสิบปี โดยไม่มีลูกด้วยกัน


ต่อมาถูกนายจ้างโกงเงินค่าแรง จึงตัดสินใจไปทำงานรับจ้างตัดอ้อยที่จังหวัดสุพรรณบุรี เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ถูกเพื่อนร่วมงานแอบเบิกเงินค่าแรงหนีไปหมด ทำให้ตัดสินใจหันมาสานปลาตะเพียนจากในมะพร้าวตระเวนขายไปทั่วประเทศ โดยมีลูกรักคือสุนัขเพศเมียชื่อ ดุ๊กดิ๊ก เป็นเพื่อนรู้ใจ


อาศัยตระเวนเร่ขายไปตามจังหวัดต่างๆ อาศัยหลับนอนในรถเข็นที่ต่อเติมไว้บรรทุกสัมภาระ รายได้ไม่แน่นอน บางวันก็ขายไม่ได้เลยสักบาท บางวันก็ได้ 100-200 บาท พอได้อาศัยซื้ออาหารเลี้ยงชีวิตสามปากท้อง


กระทั่งวันหนึ่งขณะที่ขายอยู่ในเขตจังหวัดกำแพงเพชร นางสำลีเกิดป่วยเป็นนิ่วในลำไส้ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดกำแพงเพชร จึงทำให้ไม่สามารถทำงานหนักได้ ทั้งสองจึงตัดสินใจจะเดินทางไปจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อพักรักษาตัวที่บ้านของน้องชายของนายสมโปรด โดยระหว่างเดินทางก็เร่ขายปลาตะเพียนสาน ตั๊กแตนสาน เพื่อเป็นค่าอาหารและค่าน้ำมันรถไปด้วย คาดว่าอีกประมาณ 1 เดือน ก็จะเดินทางถึงที่หมาย กระทั่งเดินทางมาถึงจังหวัดสิงห์บุรี เกิดฝนตกหนักจึงเข้ามาอาศัยหลบฝน มีพนักงานบริการประจำสถานีมาพบ จึงช่วยนำน้ำดื่มมาให้ โดยทั้งสองต้องการให้ผู้ที่พบเห็นช่วยอุดหนุนปลาตะเพียนและตั๊กแตนสาน เพื่อเป็นทุนในการเดินทางต่อไป