ปิดล้อม 4 ชม.! ตร.สยบชายคลั่ง ฟันหัวคู่กรณีเจ็บ 2 ราย ชนวนทะเลาะเบิ้ลเครื่องจยย. ก่อนหนีซ่อนตัวในบ้าน

ชายถูกยิงท้องเจ็บ โมโหใช้มีดไล่ฟันหัวคู่กรณีเจ็บ 2 ราย ในซอยลาดกระบัง 36 ก่อนหลบซ่อนตัวในบ้าน คลุ้มคลั่งทำลายข้าวของ ตำรวจปิดล้อมจับกุมใช้มีดไล่ฟัน จนท.เกลี้ยกล่อมนานเกือบ 5 ชั่วโมง บุกชาร์จตัวได้สำเร็จ เมียวัย 73 ปี เผย ไม่เคยทราบสามีเสพยาหรือไม่ ชาวบ้านไม่อยากให้อยู่ในชุมชนกลัวลูกหลานไม่ปลอดภัย  


วานนี้ (4 ก.ค.) เวลา 18.20 น. พ.ต.ท.จักรา บุญมี สสรวัตร (สอบสวน) สน.ลาดกระบัง ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีด มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน เกิดเหตุภายในหมู่บ้านเคหะนคร 2 ซอยลาดกระบัง 36 แยก 18 แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมคิด ประเชิญสุข ผกก.สน.ลาดกระบัง เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและปราบปราม และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ นายนันทพงษ์  อายุ 30 ปี  มีบาดแผลถูกฟันที่ศีรษะและโดนแทงบริเวณสะโพกซ้าย เลือดอาบตัว รายที่ 2 นายจักรพงษ์ อายุ 33 ปี มีบาดแผลถูกฟันที่แขนซ้าย ในที่เกิดเหตุพบอาวุธมีดปลายแหลมยาวประมาณ 7 นิ้ว ตกอยู่ 1 เล่ม เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองส่งโรงพยาบาลสิรินธร

จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าคนที่ก่อเหตุ ทราบชื่อเล่นว่านายอาร์ม โดยเมื่อช่วงเช้านายอาร์มได้มีปากเสียงกับผู้ได้รับบาดเจ็บ  จากสาเหตุเรื่องการขี่รถจักรยานยนต์เบิ้ลเครื่อง ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะทะเลาะกัน โดยนายอาร์ม ถูกปืนยิงเข้าที่หน้าท้องบาดเจ็บ ทำให้เกิดความโมโหใช้มีดไล่ฟันผู้บาดเจ็บทั้งสองคน ก่อนจะวิ่งเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักใกล้จุดเกิดเหตุ

เจ้าหน้าที่ชุดป้องกันและปราบปราม สน.ลาดกระบัง  วางกำลังตรึงไว้ที่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว พร้อมนำอุปกรณ์เหล็กง่าม เพื่อเตรียมพร้อมในการระงับเหตุและควบคุมตัว และระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเจรจา นายอาร์ม เดินออกมาที่บริเวณหน้าบ้าน ท่าทางยังโมโหฉุนเฉียว ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ใช้อาวุธมีดทำท่าจะไล่ฟันเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะปิดประตูบ้านและวิ่งหลบเข้าไปอยู่ภายในบ้าน  

ขณะที่รองผู้กำกับปราบปราม สน.ลาดกระบัง ร้องขอกำลังสนับสนุนจาก สน.พื้นที่ข้างเคียง เข้าร่วมระงับเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมอยู่บริเวณหน้าบ้าน พร้อมโล่กำบังและเหล็กง่าม ปืนกระสุนยาง กันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่  พยายามใช้เสียงประกาศเรียกชื่อนายอาร์ม และเกลี้ยกล่อมกดดันให้ออกมาจากบ้าน และให้ภรรยาวัย 73 ปีของนายอาร์ม  มายืนเกาะลูกกรงรั้วหน้าบ้านช่วยเกลี้ยกล่อมด้วย แต่นายอาร์มก็ไม่ยอมออกมา

ต่อมาเวลา 20.47 น. มีการวางกำลังเข้าบุกจับกุมอีกครั้ง โดยมีการเจรจาและบุกเข้าบ้านแต่ยังไม่เป็นผล ทำให้ตำรวจต้องถอยออกมาอีกครั้ง โดยตลอดเวลาตำรวจพูดเกลี้ยกล่อม ทั้งเรื่องของคดีที่เกิดขึ้น และเกลี่ยกล่อมว่าเขาไม่มีความผิดและแสดงความเป็นห่วงเป็นใย ถาม “หิวไหม ทำอะไรอยู่ ไหวรึเปล่า” เพราะว่านายอาร์ม มีอาการบาดเจ็บ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากคนข้างในออกมา

นอกจากนี้ตำรวจยังเกลี้ยกล่อมอีกว่า “คนที่ทำอาร์ม เจ้าหน้าที่ตำรวจจับไว้ให้แล้ว อาร์มแค่ไปชี้ตัวตำรวจดูกล้องวงจรปิดแล้ว อาร์ม น้องไม่ใช่คนผิด น้องออกมา เดี๋ยวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจถอยออกไป วางอาวุธและให้กูชีพเข้าไปทำแผลให้ แล้วน้องไปทวงคืนความยุติธรรม เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอยู่ข้างน้อง ออกมารักษาพยาบาลก่อน พี่มาช่วยอาร์มนะ”  กระทั่งเวลา 21.00 น. นายอาร์ม ก็ยังไม่ยอมออกมาจากบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงถอยร่นออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว วางแผนเพื่อเข้าไปล็อคตัวอีกครั้ง

เวลา 21.30 น. ตำรวจได้เดินเข้าไปบ้านหลังข้าง ๆ พยายามจะเข้าไปหลังบ้านของผู้ก่อเหตุ แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ เจ้าหน้าที่ได้ไปเอาเหล็กง่ามและโล่เพิ่มอีก เกลี้ยกล่อมอีกครั้ง พร้อมทั้งกันชาวบ้านและสื่อมวลชนถอยห่างจากบ้านหลังเกิดเหตุ 50 เมตร และนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ของตำรวจมาจอดขวางกลางถนน เพื่อสะดวกต่อการเข้าระงับเหตุ

กระทั่ง 22.15 น. เจ้าหน้าที่บุกเข้าไปในบ้าน นายอาร์มก็ยังอยู่ในอาการโวยวายขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่  โดยชุดกำลังโล่กำบังกายและไม้ง่ามได้บุกเข้าจู่โจมไปในตัวบ้าน พบว่านายอาร์ม ได้หลบอยู่ในห้องนอน เจ้าหน้าที่ที่อยู่ทางด้านนอก จึงพังหน้าต่างและยิงปืนไฟฟ้าช็อตจำนวน 2 นัด กระแสไฟฟ้าช็อตตัวนายอาร์ม แต่ยังไม่สิ้นฤทธิ์ นายอาร์ม พยายามขัดขืนการจับกุม  เจ้าหน้าที่จึงกรูกันเข้าไปควบคุมตัวไว้ได้สำเร็จ  ท่ามกลางเสียงปรบมือและเสียงเฮของชาวบ้าน จากนั้นตำรวจพยุงตัวนายอาร์ม ซึ่งได้รับบาดเจ็บออกมาจากบ้าน  ให้กู้ภัยฯ ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวนายอาร์ม ขึ้นรถกู้ชีพส่งโรงพยาบาลเนื่องจากได้รับบาดแผลถูกยิงที่ท้อง ใช้เวลาเจรจาเกลี้ยกล่อมนานเกือบ 5 ชั่วโมง

โดยมีตำรวจสายตรวจ สน.ลาดกระบัง ได้รับบาดเจ็บที่นิ้วมือขวา ขณะเข้าชาร์จตัวนายอาร์ม โดยตำรวจนายนี้ ยืนปิดล้อมอยู่บริเวณประตูหน้าต่างซึ่งเป็นกระจก โดนเศษกระจกบาดนิ้วมือได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ กู้ภัยฯ ช่วยทำแผล ส่วนตำรวจคนอื่นที่อยู่จุดเดียวกัน ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ส่วนการเข้าไปชาร์จตัวนายอาร์มภายในบ้านนั้น เป็นตำรวจอีกชุด

ภรรยาวัย 73 ปี ของนายอาร์ม เปิดเผยว่า คบหากันได้ 5 ปี  ไม่เคยเห็นสามียุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เขาจะยุ่งหรือเปล่าตนก็ไม่ทราบ ตลอดที่เวลาที่อยู่ด้วยกันไม่เคยโวยวายใส่ตนและทำลายข้าวของในบ้าน ช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุ สามีปากเสียงกับเพื่อนบ้านใกล้เคียง  ตนห้ามสามีอย่าไปยุ่งหรือทำร้ายเพื่อนบ้านแต่สามีไม่ฟัง ส่วนผู้บาดเจ็บ 2 ราย ที่ถูกสามีใช้มีดไล่ฟัน ตนไม่เคยเจอหน้าและไม่เคยรู้จัก ทั้งสองขี่มอเตอร์ไซค์มาที่หน้าบ้าน ตนไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรกัน ตอนนั้นตนเองทำอาหารอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงปืนดัง 2 นัด จึงวิ่งออกมาดู แต่สามีรีบปิดประตูไม่ให้ตนออกจากบ้านกลัวโดนลูกหลง ส่วนสามีโดนยิงบริเวณท้อง

ส่วนที่สามีคลุ้มคลั่ง โวยวาย เพราะไม่อยากถูกตำรวจจับ ปกติสามีจะไม่ไปหาเรื่องชาวบ้านถ้าใครไม่มาหาเรื่องก่อน  ถ้าโวยวายก็จะโวยวายอยู่ในบ้าน ยืนยันสามีไม่มีปืน ก่อนหน้านี้สามีเคยเข้ารับบำบัดยาเสพติดมาครั้งนึง ยังรักสามีเหมือนเดิม แต่ขอให้เจ้าหน้าที่นำตัวไปบำบัดก่อน ส่วนสามีก็รักตนอยู่ด้วยไม่ยอมทิ้งไปไหน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับนายอาร์ม อดีตเป็นช่างรับเหมาก่อสร้าง เข้ามาปรับปรุงบ้านให้แก่นางฉันทนา เจ้าของบ้านซึ่งมีอายุรุ่นราวคราวแม่ จนกระทั่งเกิดรักใคร่ชอบพอคบหากัน แต่ปรากฏว่าตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน นายอาร์ม มักพาเพื่อนมากินดื่มที่บ้านและมักมีเรื่องกับเพื่อนบ้านเป็นกลุ่มวัยรุ่น กระทั่งมีการทะเลาะเบาะแว้งกันมาแล้วหลายครั้ง จนครั้งนี้มีการลงมือถึงเลือดตกยางออก

ทีมข่าวได้คุยกับนายสุรชัย  อายุ 44 ปี ชาวบ้านข้างเคียงที่มีปัญหากับนายอาร์มและถูกนายอาร์ม ทำร้าย เล่าว่า นายอาร์ม นั่งดักรอตนอยู่หน้าบ้านหลายวันแล้ว วานนี้ (4 ก.ค.) นายอาร์ม โวยวายด่าทอตนว่า “เฮ้ย! ไอ้นาจมึงเก๋านักเหรอ” ก่อนจะมีปากเสียงกัน  ตนเองก็เหลืออดเหลือทน จากนั้นนายอาร์ม นำจอบมาเหวี่ยงใส่แขนตน จนได้รับบาดเจ็บที่แขนข้างขวา ก่อนหน้านี้นายอาร์ม ไม่เคยทะเลาะอะไรกับตนเลย แต่ชอบโวยวายใส่ตน 10 กว่ารอบแล้ว ตนพยายามไม่ยุ่งด้วยปล่อยผ่านตลอด  

หลังจากที่ตนบาดเจ็บก็รีบหนีเข้าไปในบ้าน ไม่รับรู้อะไรแล้ว ไปแจ้งความและไปโรงพยาบาล แล้วไปทำงาน  พอกลับมาถึงบ้านเห็นนายอาร์ม นั่งอยู่หน้าบ้าน ตนจึงเข้าไปในบ้าน  จากนั้นมีน้องในหมู่บ้าน 2 คน รู้ว่าตนถูกนายอาร์มทำร้าย จึงมาเยี่ยมตนที่บ้าน จังหวะนั้นนายอาร์ม นั่งออกกำลังกายหน้าบ้านเห็นน้อง 2 คนนั้น คิดว่าเป็นพวกของตน นายอาร์ม จึงโวยวายใส่มีปากเสียงกัน  รุ่นน้องยิงนายอาร์ม  นายอาร์ม ก็ไล่ฟันทำให้ทั้งสองบาดเจ็บ ตนก็ไม่รู้ว่าทั้งสองพกปืนมาด้วย ใครเริ่มหาเรื่องใครก่อนตนไม่ทราบ


พ.ต.อ.สุทธิศักดิ์ วันที รอง ผบก.น.3 เปิดเผยว่า นายอาร์มมีอาการคลุ้มคลั่งเนื่องจากมีปัญหาเรื่องส่วนตัวกับเพื่อนบ้าน และมีเรื่องกับชายอีก 2 คน เนื่องจากฝ่ายนี้ใช้อาวุธปืนยิงใส่นายอาร์ม  นายอาร์ม จึงใช้มีดไล่ฟันทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บ ก่อนวิ่งไปหลบในบ้านส่งเสียงดังทำลายทรัพย์สินภายในบ้านของตัวเอง ทำให้ชาวบ้านข้างเคียงเกิดความหวาดกลัว จึงโทรแจ้งตำรวจมาระงับเหตุ

ทีแรกการเจรจาไม่เป็นผลเนื่องจากนายอาร์ม ไม่มีสติ เจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปควบคุมตัวหลายครั้งแต่ไม่สามารถเข้าไปในบ้านได้ จึงต้องหายุทธวิธีที่ดีที่สุด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับความปลอดภัยและไม่กระทบกับชาวบ้านข้างเคียง สำหรับประวัติของนายอาร์ม เคยได้รับการรักษาบำบัดยาเสพติด 1 ครั้ง แต่ไม่มีประวัติต้องโทษคดี บางครั้งนายอาร์มหูแว่ว เคยคลุ้มคลั่งมาแล้ว 1-2 ครั้ง ตำรวจก็มาระงับเหตุ เบื้องต้นตรวจสอบในบ้านยังไม่พบสิ่งผิดกฎหมายและไม่พบอาวุธปืนม จากนี้จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ทีมข่าวได้คุยกับนายวชิรากร สัทธาพิทักษ์ พนักงานฉุกเฉินการแพทย์ ที่เข้ามาช่วยคนเจ็บ เล่าว่า หลังจากได้รับแจ้งว่ามีเหตุทะเลาะวิวาท อาวุธปืน ตนมาถึงที่เกิดเหตุไม่เห็นอาวุธปืน เห็นแต่มีดวางอยู่ จึงถามสอบถามคนเจ็บที่โดนฟันศีรษะว่าโดนฟัน ส่วนคนเจ็บที่โดนฟันแขนซ้าย ญาติได้นำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้าแล้ว จากนั้นตนจึงทำแผลให้คนเจ็บที่ฟันศีรษะ และช่วงที่ตำรวจจะเข้าไปชาร์จตัวนายอาร์ม ในบ้านตอนหัวค่ำนั้น ถูกนายอาร์มใช้มีดไล่ฟันแต่ไม่มีเจ้าหน้าที่นายใดได้รับบาดเจ็บ ถูกฟันโดนกล้องติดตัว ส่วนนายอาร์ม คลุ้มคลั่งเพราะเมายาหรือไม่นั้นตนคงให้คำตอบไม่ได้

ด้านนายอมร  อายุ 55 ปี วินจักรยานยนต์รับจ้าง ขี่รถมาเจอนายนันทพงษ์ มั่นใจ ผู้บาดเจ็บที่ถูกฟันศีรษะและให้การช่วยเหลือ กล่าวว่า ตนขี่รถมาส่งผู้โดยสาร เห็นคนเจ็บโดนฟันหัวเลือดออกเยอะเป็นแผลฉกรรจ์ จึงไปช่วยห้ามเลือดนำผ้าไปปิดแผล  แต่ไม่เห็นตอนเกิดเหตุ โดยคนเจ็บบอกให้ช่วยพาไปส่งโรงพยาบาลหน่อย ขณะนั้นตนก็ยังไม่ทราบว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น จากนั้นโทรศัพท์เรียกกู้ภัยฯ และคอยเรียกคนเจ็บไม่ให้หลับ ส่วนนายอาร์ม ตนเห็นเดินในซอยแทบทุกวัน ชอบส่งเสียงดังโวยวายในบ้าน และชอบทะเลาะด่ากับคนข้างบ้าน เพราะนายอาร์ม เสพยาเสพติดด้วย ยอมรับว่าชาวบ้านหวาดกลัวโดนทำร้าย

นางวันเพ็ญ  อายุ 54 ปี ชาวบ้านซึ่งอยู่ใกล้บ้านผู้ก่อเหตุ เผยถึงพฤติกรรมว่า มาอยู่ที่นี่หลายปีแล้ว คบกับนางฉันทนา ภรรยา ซึ่งเป็นคนรักสามีมากไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ภรรยาก็จะดูแลหรือไปประกันตัวตลอด  ก่อนหน้านี้มีการสัญญากันว่าจะซื้อรถยนต์ให้นายอาร์ม  แต่วันนี้นายอาร์ม อาละวาดตั้งแต่เช้าจนทำให้มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันเพื่อนบ้าน ใช้จอบเหวี่ยงใส่เพื่อนบ้านได้รับบาดเจ็บที่แขนขวา

จากนั้นเวลา 17.00 น. มีชาย 2 คน จะมาเคลียร์เรื่องที่เพื่อนบ้านโดนนายอาร์ม ใช้จอบเหวี่ยงใส่แขนได้รับบาดเจ็บ จนทะเลาะวิวาทมีปากเสียงกัน อีกฝ่ายชักปืนออกมายิงใส่นายอาร์ม ได้รับบาดเจ็บที่ท้อง ทำให้นายอาร์ม คลุ้มคลั่งอีกรอบใช้มีดไล่ฟันชายทั้ง 2 คน ได้รับบาดเจ็บ  ตนอยากให้เอาตัวนายอาร์ม ออกจากพื้นที่เพราะทนไม่ไหวแล้ว พฤติกรรมอันตราย  เด็ก ๆ ในซอยก็เยอะ หากเอาปืนมาไล่ยิงเอามีดมาไล่แทงลูกหลานจะอยู่อย่างไร ทะเลาะกับเพื่อนบ้านทีไร  ถ้าไม่เล่นยา นายอาร์มก็จะเป็นปกติจะไม่คุยกับใคร เดินไปมา มนุษยสัมพันธ์ดี คนในซอยจะรู้ว่าถ้านายอาร์มเล่นยา ก็จะอาละวาดอยู่ในบ้านประจำ ตำรวจนำตัวไปบำบัดพอกลับมาก็อาลาวาดเหมือนเดิม สาเหตุที่ทำให้นายอาร์ม อาละวาดครั้งนี้คาดว่าเล่นยา

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/aCMNxxQI05A