‘ผกก.จริง’ แจ้งจับ ‘ผกก.ปลอม’ แก๊งมิจอ้างชื่อหลอกสาว ส่งใบแจ้งความปลอม ฟ้อง 9 ล้าน

ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี แจ้งความถูกมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อในใบแจ้งความ หลังมีเหยื่อสาวทำเรื่องกู้เงินออนไลน์ ส่งใบแจ้งความมาขู่ฟ้อง 9 ล้านบาท ผกก.ตัวจริงลั่น ดำเนินคดีถึงที่สุด

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 19 มิ.ย.67 ที่ สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต. ไพรัตน์ นวนตะคุ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ว่าถูกแก๊งมิจฉาชีพแอบอ้างนำชื่อนามสกุล ไปทำเอกสารราชการปลอม หลอกลวงประชาชน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.67 พื้นที่ สน.วัดพระยาไกร พร้อมหลักฐานเป็นเอกสารปลอมใบแจ้งความจาก สภ.เพชรบูรณ์

โดยรายละเอียดในใบแจ้งความปลอม สภ.เพชรบูรณ์ ระบุข้อความว่า “เมื่อเวลา 09.49 น. วันที่ 18 มิ.ย. 67 บริษัท ทรัพย์มั่งมี สินเพิ่มพูน จำกัด เลขทะเบียน 0405565004xxx ผู้แจ้ง ที่อยู่ x หมู่ที่ 11 ตำบลตาลเดี่ยว อำเภอหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ 67110 มาสถานีตำรวจเพื่อแจ้งว่า เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2567 เวลาประมาณ 09:49 น. ผู้แจ้ง แจ้งว่า น.ส. ลัดดา (นามสมมุติ) ได้ทำการขอสินเชื่อ จำนวนวงเงิน 50,000 บาท มีเจตนาเข้ามาเพื่อก่อกวนบริษัท ทำให้บริษัทเกิดความเสียหาย

เนื่องจาก น.ส.ลัดดา (นามสมมุติ) ได้กรอกข้อมูลในการทำธุรกรรมการเข้ามา และเกรงว่าจะนำข้อมูลบริษัท ไปใช้ในทางที่เสียหาย เป็นการฉ้อโกงทรัพย์ มีความผิดร้ายแรงบริษัทจึงมา แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน และดำเนินคดีให้ถึงสุด พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต พงส. - พงส.ผู้เชี่ยวชาญ สภ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งความไว้แล้ว จึงให้ผู้แจ้งลงนามของบริษัทไว้เป็นหลักฐาน ลงลายมือชื่อ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต พนักงานสอบสวน"

จากการสอบถาม น.ส.ลัดดา (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า เริ่มแรกตนเกิดปัญหาต้องรีบใช้เงิน จึงได้เข้าไปค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต จึงได้ไปเงินกู้เงินออนไลน์ ทางตนได้ยื่นกู้ตามขั้นตอนของระบบ แต่เงินไม่เข้าบัญชี ตนจึงทักบริษัทนั้นกลับไป ซึ่งทางบริษัทนั้นบอกว่าตนใส่บัญชีผิด โดยทางบริษัทนั้นได้แจ้งว่าให้ตนหาเงินจำนวน 25,000 บาท ไปให้ทางบริษัท ถ้าตนไม่หาเงินจำนวนดังกล่าวไปคืนให้เขา ทางบริษัทจะฟ้องตนจำนวน 9 ล้านบาท ตนจึงแจ้งกลับไปว่าตนไม่มีเงิน

จากนั้นทางบริษัทได้ทักไลน์ และส่งเอกสารเป็นใบแจ้งความกลับมาให้ตน ทำให้ตนตกใจว่าจะต้องถูกฟ้องร้องแน่นอน จึงได้นำเรื่องนี้ไปคุยกับญาติพี่น้อง และนำรายชื่อในใบแจ้งความมาตรวจสอบในโซเชียล จนกระทั่งได้เบอร์ท่านผู้กำกับมา จึงได้ทักไปหาท่าน ซึ่งทางท่านผู้กำกับก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าโดนแอบอ้างชื่อ เรื่องที่เกิดขึ้นตนยังไม่ได้แจ้งความ แต่ได้มีการปรึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงทราบว่าเป็นพวกมิจฉาชีพ ตนได้มีการตรวจสอบทุกวิถีทาง ทั้งแจ้งศูนย์ดำรงธรรม ทั้งโทรไปหาตำรวจไซเบอร์ ทุกหน่วยงานยืนยันว่ามันเป็นมิจฉาชีพแน่นอน ตอนนี้ตนกังวลใจมาก เพราะมิจฉาชีพใช้ชื่อตำรวจจริงนามสกุลจริงในการหลอกประชาชน และมีตัวตนจริง

ตนอาศัยอยู่ในกรุงเทพได้ยินเรื่องเหล่านี้มาเยอะ ยังพลาดไปกู้เงิน แล้วคนที่อยู่ต่างจังหวัด ที่ไม่รู้เรื่องจะทำยังไง น่าจะมีคนโดนแบบนี้เยอะ ก็อยากฝากเตือนคนที่ได้รับเอกสารในลักษณะแบบนี้ให้มีสติ ปรึกษาคนรอบข้างก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น และให้แจ้งความ ซึ่งโชคดีที่ตนยังไม่ได้เสียเงินให้แก๊งมิจฉาชีพ

ด้าน พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี หลังแจ้งความได้ เปิดเผยว่า ตนได้รับแจ้งจากผู้เสียหายผ่านทางไลน์ ว่ามีคนแอบอ้างเอาชื่อไปใช้ โดยเป็นชื่อจริง นามสกุลจริง แต่ตำแหน่งตำรวจที่ไม่ถูกต้อง โดยผู้เสียหายส่งรูปมาให้ดูทางไลน์ เป็นเอกสารสำเนาประจำวัน ลงชื่อตนเป็นพนักงานสอบสวน สภ.เพชรบูรณ์ เนื่องเกิดจากผู้เสียหายต้องการจะกู้เงิน จึงไปกู้เงินผ่านทางออนไลน์ แต่ปรากฏว่าเงินไม่ได้เข้าบัญชี

จากนั้นมิจฉาชีพได้มีการข่มขู่ให้ผู้เสียหายโอนเงินไปให้ ถ้าไม่โอนเงินไปให้ จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 9 ล้านบาท หลังจากตนทราบเรื่องก็เตือนสติไปว่าอย่ากู้เงินนอกระบบ เพราะจะเกิดปัญหาตามมา และต้องมีสติ เพราะมิจฉาชีพใช้วิธีปลอมเอกสารราชการมาหลอกเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ ถ้าได้รับเอกสารในลักษณะนี้ให้ตรวจสอบกับต้นทางของเอกสารให้ดีก่อน ว่ามีบุคคลจริงในเอกสารหรือไม่ อย่างกรณีผู้เสียหายคนนี้ได้ติดต่อมาหาตนก่อน ซึ่งตนก็ยืนยันไปว่าไม่มีกรณีดังกล่าว และตนก็ไม่เคยไปประจำที่เพชรบูรณ์ด้วย สำหรับคดีนี้ตนจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้ทำการตรวจสอบเอกสารดังกล่าวไปที่ สภ.เพชรบูรณ์ พบว่าเป็นเอกสารปลอมไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.ลัดดา และเอกสารดังกล่าวพบว่ามีจุดที่ไม่ถูกต้องหลายจุด เช่น สภ.เพชรบูรณ์ ไม่มี มีแต่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบผู้ที่ส่งเอกสารดังกล่าว เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป