สังคม

'ทนายกองทัพธรรม' ร้องอัยการสูงสุด จัดการ 'ลัทธิเชื่อมจิต' เผยมีหลักฐานเด็ด เรื่องใหญ่ระดับประเทศ

โดย paweena_c

27 พ.ค. 2567

57 views

'ทนายกองทัพธรรม' ยื่นหนังสือร้องอัยการสูงสุด ตรวจสอบการปฎิบัติหน้าที่ของอัยการ จ.สุราษฎร์ธานี กรณี 'ลัทธิเชื่อมจิต' เข้าข่ายละเลยหรือไม่ ด้านโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แจง ทุกฝ่ายทำตามข้อกฎหมาย ยันไม่มีอัยการคนใด เกี่ยวข้องสนับสนุนลัทธิเชื่อมจิต

นายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียน ยังสำนักงานอับการสูงสุด เพื่อขอให้ตรวจสอบการทำงานของ อัยการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไม่ดำเนินการ ตามกฎหมาย ในกรณี การยื่นคำร้องขอคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก (เด็ก 8 ขวบ ลัทธิเชื่อมจิต )

โดย ทนาย อนันตชัย ระบุว่า การเข้ายื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุดวันนี้ ทางมูลนิธิฯ ไม่ได้ต้องการจะกล่าวโทษใคร แต่มาเพื่อจะขอให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังของ อัยการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการคุ้มครองเด็ก 2546 ตามคำสั่งแต่งตั้ง

และที่ผ่านมา มีเพียง พม.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ได้พยายามดำเนินการ และยื่นต่อศาลขอให้มีการไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อจะได้เข้าไปนำเด็กออกมาดูแลและคุ้มครอง แต่พบว่า ข้อมูลที่ได้รับกลับ ทีมอัยการจังหวัดให้คำแนะนำด้านข้อกฎหมายกับทีม พม.จ. ต่อมา 20 ธันวาคม 2566 พบว่า ศาลมีคำสั่งยกคำร้องไต่สวนฉุกเฉิน จึงมองว่า เพราะไม่มีทีมอัยการที่มีความชำนาญทางด้านข้อกฎหมายเข้าช่วยเหลือ

ส่วนการยื่นหนังสือ ถึงสำนักงานอัยการสูงสุด ทนายอนันต์ชัย บอกว่า มีเพียง 2 ประเด็น คือ ขอให้ทางสำนักงานอัยการสูงสุดมีการตรวจสอบการปฎิบัติหน้าที่ของอัยการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และขอให้มีการเร่งรัดหรือชี้แจงต่อสังคมว่า หลังจากนี้ทางอัยการ จะมีส่วนร่วมดำเนินการทางด้านกฎหมายกรณีเชื่อมจิตอย่างไร

ทนายอนันต์ชัย ยังเปิดเผยข้อมูล ที่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ระดับประเทศ หากข้อมูลที่ได้รับมีการตรวจสอบและเป็นความจริง คือเด็ก 8 ขวบ เชื่อมจิตอาจเข้าข่ายเป็นกลุ่มเด็กพิเศษ ที่มีการป่วยเป็นเด็กออทิสติกทั้งนี้ตนได้รับข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2566 ทีมสหวิชาชีพลงพื้นที่พบครอบครัวลัทธิจิต พบว่า ทางแม่ของน้องไนซ์ ถามกับทีมวิชาชีพว่า น้องไนซ์มีลักษณะ เข้าข่ายเป็นเด็ก ออทิสติกหรือไม่ แต่ในวันนั้น ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ให้คำตอบเพราะอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ

ทั้งนี้หากตรวจพิสูจน์แล้วว่า น้องเข้าข่ายเด็กออทิสติก ถือเป็นกลุ่มผู้พิการ ก็จะมีข้อกฎหมายคุ้มครองเพิ่มเติมอีก ดังนั้นหากเรื่องนี้ได้รับการตรวจพิสูจน์ ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก ที่การนำเด็กพิเศษคนหนึ่งมาสอนธรรมะ พร้อมยืนยันทุกเรื่อง ที่ตนได้พูดไปนั้น มีข้อมูลหลักฐานค่อนข้างชัดเจน ขอให้สังคมรอการแถลงข่าวใหญ่ได้เลย

ด้าน นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นตัวแทนรับเรื่องร้องเรียน จากทนายมูลนิธิกองทัพธรรม กล่าวชี้แจงใน 3 ประเด็น คือ 1.ประเด็นข้อกฎหมาย 2. ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และ 3.การกระทำและพฤติกรรมของกลุ่มลัทธิเชื่อมจิต

โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า การตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่ต่อการทำหน้าที่อัยการจังกวัดสุราษฎร์ธานี พบว่า จากคำสั่งที่มีการแต่งตั้ง คณะกรรมการคุ้มครองสวัสดิการสวัสดิภาพเด็ก พบว่าในขณะนั้นมีการแต่งตั้งอัยการผิดคน โดยผู้ที่มีชื่อแต่งตั้งอยู่ในชุดคณะกรรมการนั้น เป็นอัยการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่อาจไม่เกี่ยวข้องโดยตรง ซึ่งควรจะแต่งตั้งอัยการศาลเด็กและเยาวชนแทน

นอกจากนั้นในข้อกฏหมาย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก 2546 มาตรา 17 ที่ระบุว่า ในแต่ละจังหวัดจะมีคณะอนุกรรมการคุ้มครองเด็ก ซึ่งได้กำหนดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น อัยการ ผู้ว่าฯ ซึ่งหลังจากแต่งตั้ง ไม่พบว่า เคยมีการพูดคุยหารือ เรียกประชุมคณะอนุกรรมการชุดนี้เลย

พร้อมอธิบายข้อกฏหมาย พระราชบัญญัติศาลและครอบครัว พ.ศ. 2553 ที่ระบุถึงการ ดูแลสวัสดิภาพและการคุ้มครองเด็ก กรณีนี้ ระบุว่าพม.จังหวัดสุราษฎร์ธานียื่นเรื่อง ขอให้ศาลไต่สวนเพื่อคุ้มครอง สวัสดิภาพเด็ก ตามกฎหมายก็ถือว่า สามารถดำเนินการได้ แต่ถ้าหากขอให้สำนักอัยการเข้าช่วยเหลือ เพื่อยื่นเรื่องก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งเคสนี้ ไม่ได้ถือว่าหน่วยงานใดมีการละเลย สามารถยื่นเรื่องขอไต่สวนได้ โดยหลังจากนี้ หากพม.จังหวัด ประสานมาทางอัยการ ก็พร้อมที่จะให้คำแนะนำด้านข้อกฎหมายต่อไป

โฆษกอัยการสูงสุด ย้ำว่า ขณะนี้เรื่องยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล ไม่ควรก้าวล่วง ยังต้องรอ กระบวนการพิจารณา ส่วนที่มีการยกคำร้องเป็นเรื่องของคำร้อง ที่ยื่นขอให้ไต่สวนฉุกเฉินเพื่อคุ้มครองเด็กชั่วคราว ยืนยันว่า ทางอัยการยินดีสนับสนุน ตามข้อกฎหมายที่กำหนดไว้

สื่อมวลชนได้สอบถาม กรณีถูกสังคมตั้งข้อสังเกตว่า ทีมอัยการพื้นที่สุราษฎร์ธานีเข้ากับลัทธิเชื่อมจิตนาย ประยุทธ ชี้แจงว่า กระแสที่เกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ขององค์กรสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นอย่างมาก ไม่ได้มีการนิ่งนอนใจ ได้สอบถามไปยังในพื้นที่พบว่า ไม่ได้มีอัยการคนใดเกี่ยวข้อง ส่วนกระบวนการทำงานเนื่องจากยังไม่ได้รับการประสานจริงจัง ยังไม่สามารถเข้าร่วมดำเนินการได้

หลังการชี้แจง ของสำนักงานอัยการสูงสุด ทนายอนันตชัยได้ กล่าวว่า จากที่ทีมอัยการได้แถลง เราน้อมรับ แต่ยืนยันว่า มีข้อมูลที่ชัดเจน ไม่อยากโต้เถียง ขอให้ประชาชนร่วมกันพิจารณาหลังจากนี้

โดยในวันพรุ่งนี้ทีมทนายกองทัพธรรมได้ให้คำแนะนำกับทาง พม. จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้ดำเนินการยกเลิกคำร้อง ที่ยื่นก่อนหน้า และจะยื่นขอไต่สวนฉุกเฉินใหม่ กรณีการคุ้มครองสวัสดิการสวัสดิภาพเด็ก ที่จะให้ยุติการนำเด็ก 8 ขวบ มาเพื่อ การหาเงิน



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/KGoXoi2spaA

คุณอาจสนใจ

Related News