สังคม

สดุดี ‘หนุ่มพนักงาน’ ดับขณะปีนปิดวาล์วถังแก๊สโซลีน ‘นายกฯ’ สั่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

โดย paweena_c

10 พ.ค. 2567

91 views

อาลัย “ฮีโร่หนุ่มพนักงาน” เสียชีวิตขณะพยายามปีนขึ้นไปปิดวาล์วถังแก๊สโซลีน เหตุระเบิดที่นิคมฯ มาบตาพุด จ.ระยอง  ชาวประมงเครียดหวั่นสารเคมีปนเปื้อน ด้าน “นายกฯ” สั่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

เหตุไฟไหม้แท็งก์แก๊สโซลีนในนิคมมาบตาพุดเกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.45 น. วานนี้ (9พ.ค.) ศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม หรือ EMCC นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยอง ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ถังเก็บสารไพรโรไลสิสแก๊สโซลีน ภายในบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ถนนไอ-แปด ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง ต้องระดมรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าควบคุมสถานการณ์

จุดเกิดเหตุเป็นแท็งก์ขนาดใหญ่จัดเก็บสารไพรโรไลสิส แก๊สโซลีน ความจุ 2,500 ลูกบาศก์เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 30 เมตร สูง 18 เมตร มีเพลิงลุกไหม้บนแท็งก์อย่างรุนแรง กลุ่มควันดำทะมึนพวยพุ่งขึ้นเต็มท้องฟ้า มองเห็นได้จากระยะไกลกว่า 10 กม. เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องขึ้นรถกระเช้าต่อสายดับเพลิงขึ้นไปฉีดน้ำและโฟมสกัดเปลวไฟที่ลุกไหม้อยู่ด้านบนด้วยความยากลำบาก เนื่องจากภายในแท็งก์มีสารที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี

ต่อมาบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ออกหนังสือชี้แจงการเกิดเพลิงไหม้ว่า เกิดกลุ่มควันบริเวณถังจัดเก็บสารประกอบไฮโดรคาร์บอนของบริษัท ได้ระดมทีมเพื่อควบคุมสถานการณ์ในทันทีที่เกิดเหตุตามแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน โดยได้ตัดแยกระบบและหยุดกิจกรรมต่าง ๆ ภายในโรงงานตามขั้นตอนความปลอดภัย

เบื้องต้นได้รับแจ้งว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 รายนำส่งโรงพยาบาลและอยู่ในความดูแลของแพทย์ ต่อมามีพนักงานเสียชีวิต 1 ราย บริษัทรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับการสูญเสียที่เกิดขึ้น บริษัทได้ดูแลและให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่

จากนั้นช่วงบ่ายเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับมีเปลวเพลิงลุกโชนขึ้นมาอีกรอบ ไฟลุกติดอย่างรวดเร็วและรุนแรงยังไม่มีทีท่าจะดับลงง่ายๆ เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำและโฟมกันอย่างต่อเนื่องอีกรอบ รวมทั้งฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไม่ให้ไฟลามไปไหม้แท็งก์ข้างๆ ที่อยู่ห่างกันประมาณ 15 เมตร

ราวบ่าย 3 โมง ต้องประกาศอพยพคนในพื้นที่ ทั้งพนักงานและสถานประกอบการโรงงานทุกแห่งออกจากพื้นที่โดยด่วน หลังเริ่มมีการลุกลามของเพลิงไหม้ในพื้นที่ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับที่ 2

จากนั้นราว 5 โมงเย็น เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว โดยใช้โฟมฉีดในการดับไฟ ตอนนี้เพลิงสงบแล้วแต่ยังคงต้องฉีดโฟมหล่อเลี้ยงไว้ก่อน จนกว่าจะมั่นใจว่าไฟดับร้อยเปอร์เซ็นต์ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า แท็งก์สารเคมี 1 แท็งก์เสียหายทั้งหมด ส่วนอีกแท็งก์ที่อยู่ใกล้กันถูกเปลวไฟได้รับความเสียหายบางส่วน แต่ไม่เกิดระเบิดหรือไฟลุกไหม้

ผู้บาดเจ็บ 3 คน คือ นาย ณิชฌาน ติ๊บประสอน นาย โชคชัย ชูชุ่ม และนาย จักรลักษณ์ ถิ่นระแก้ว นอกจากนี้มีผู้เสียชีวิต 1 คน คือ นาย นพพร เรือนมา

ขณะที่ชาวเน็ตโพสต์ไว้อาลัยให้กับ นายนพพร เนื่องจากเป็นพนักงานประจำของบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ก่อนเสียชีวิตได้ขึ้นไปตรวจเช็คแท็งก์ พร้อมกับเพื่อนร่วมงานอีก 3 คน กระทั่งเกิดการระเบิดทำให้ทั้ง 4 คน ตกจากที่สูง และนายนพพรเสียชีวิต ส่วนอีก 3 คนบาดเจ็บ

แม้เมื่อคืนนี้ชาวบ้านในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดจะเข้าบ้านแล้ว แต่จากการลงพื้นที่พูดคุยของทีมข่าว พบว่า หลายคนยังผวาและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จุดที่นักข่าวลงไป คือ หาดตะกวน ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นแนวชายฝั่งที่อยู่ตรงข้ามกับจุดที่เกิดไฟไหม้แทงค์สารเคมี หากสังเกตจากจุดนี้ จะเห็นว่าจุดเกิดเหตุ ไฟได้สงบลงทั้งหมดแล้ว และเห็นสภาพของแทงค์สารเคมีถังที่ถูกเพลิงลุกไหม้ มีลักษณะไหม้ดำทั้งแทงค์

นายจอน เกิดเส็ง พนักงานรักษาความปลอดภัยของอู่เรือยอร์ช เล่าว่า ประมาณ 10 โมงครึ่ง เขาอยู่ในป้อม รปภ. แล้วได้ยินเสียงดังระเบิดดังตู้ม ตอนแรกคิดว่าเป็นเสียงฟ้าผ่า เลยวิ่งออกมาดู ก็พบว่า ก็เห็นไฟลุกขึ้นหนักมาก เหมือนกับระเบิดปรมาณู จนประมาณบ่ายโมง เพลิงก็สงบลง ไม่เห็นควัน ไม่เห็นไฟแล้ว แต่ใกล้ๆ บ่ายสอง ไฟก็ปะทุขึ้นมาอีก ได้ยืนเสียงระเบิดประมาณ 3 ครั้ง ตอนนั้นกลัวมาก เพราะเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน เขาทำงานอยู่ในนิคมฯ ก็เคยเกิดเหตุไฟไหม้ที่จุดเดียวกันแต่เป็นคนละแทงค์ ซึ่งครั้งที่แล้วเขาสูดดมแก๊สเข้าไปต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลถึง 3 วัน ทำให้ยังผวาอยู่

ขณะที่ชาวบ้านในชุมชนประมงเรือเล็กตากวน อ่าวประดู่ บอกว่า เหตุระเบิดในโรงงานครั้งนี้ น่ากลัวมากที่สุดแล้ว เพราะประกาศให้อพยพในรัศมีที่ไกลมาก และมีชาวบ้านในชุมชนบางคนที่ยังมีอาการเวียนหัว แม้เหตุการณ์ตอนนี้สงบแล้ว แต่ก็กลัวว่าหลังจากนี้จะเกิดแบบนี้ขึ้นอีก อยากให้ทางโรงงานมีการป้องกันให้เกิดเหตุให้ได้น้อยที่สุด เพราะชาวบ้านก็ได้รับผลกระทบ และชาวบ้านอยู่กันมาก่อนที่จะมีโรงงาน สำหรับชาวประมง เมื่อวานก็ขาดทุนกันยับเยิน ขายของไม่ได้ ต้องเททิ้ง และหลังเกิดเหตุ ของก็จะขายยากขึ้น เพราะคนกังวลว่า อาหารทะเลจะมีสารเคมีปนเปื้อนหรือไม่

ทางด้าน นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พูดถึง เหตุ เพลิงไหม้ บริษัทมาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ว่า ถึงแม้ไฟจะดับแล้ว แต่ได้สั่งการให้ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด ผ่านนิคมอุตสาหกรรม โดยบริษัท เอสซีจี เป็นผู้รับผิดชอบเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด ส่วนเรื่องประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ นั้นได้ยกเลิกไป เพราะไฟดับแล้ว

พร้อมเน้นย้ำไปยังทุกภาคส่วน ให้ทำตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด มีมาตรการเตรียมพร้อมรับมือต่างๆ เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับโรงงานและประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบ

ส่วนความกังวลว่า เหตุเพลิงไหม้ จะไปกระทบกับ ระบบการผลิตไฟฟ้าของประเทศ และระบบส่งก๊าซธรรมชาติ หรือไม่นั้น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ออกมา ขอให้ประชาชนมั่นใจไม่กระทบความมั่นคงของระบบไฟฟ้าและการจ่ายก๊าซในเขตอุตสาหกรรม แน่นอน และมี มีการเตรียมการเพื่อป้องกันผลกระทบไว้แล้ว

โดยในส่วนการบริหารจัดการเพื่อป้องกันผลกระทบ ในส่วนของก๊าซธรรมชาตินั้น ได้มีการอพยพพนักงานออกจากพื้นที่ สถานี LNG มาบตาพุด แห่งที่ 1 ซึ่งอยู่ใกล้พื้นที่เกิดเหตุ และลดการจ่ายก๊าซจากสถานี LNG มาบตาพุด แห่งที่ 1 และเพิ่มการจ่ายก๊าซจากสถานี LNG มาบตาพุด แห่งที่ 2 ทำให้ในภาพรวมการจ่ายก๊าซยังคงสามารถดำเนินการโดยไม่เกิดผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมและภาคการผลิตไฟฟ้าในพื้นที่

นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมการเพื่อป้องกันผลกระทบที่มีต่อความมั่นคงด้านระบบไฟฟ้า โดยได้มีการสั่งเพิ่มการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ด้วยเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติฝั่งตะวันตก โรงไฟฟ้ากัลฟ์อุทัยด้วยเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติตะวันออกเพื่อเตรียมการเปลี่ยนเชื้อเพลิงเป็นน้ำมันดีเซล และเพิ่มการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังน้ำต่างประเทศ พร้อมทั้งประสานโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติตะวันออกทั้งหมด ให้เตรียมความพร้อมหากมีความจำเป็นต้องเดินเครื่องด้วยน้ำมันดีเซล


https://youtu.be/xboL3cgfy-o

คุณอาจสนใจ