สังคม

สทนช.เผยไทยเข้าสู่ช่วงปลายเอลนีโญ คาดฤดูฝนปลายเดือนนี้

โดย panwilai_c

4 พ.ค. 2567

49 views

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช.ระบุว่าประเทศไทยเข้าสู่ช่วงปลายของสถานการณ์เอลนีโญแล้ว และคาดว่าจะเข้าสู่ฤดูฝนในช่วงปลายเดือนนี้ ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนอันตรายจากพายุฤดูร้อน



กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนเรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบนฉบับที่ 7 ในช่วงวันที่ 4–5 พฤษภาคม ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันเฉียงเหนือ โดยบริเวณดังกล่าวมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้



ขอให้ประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง



ด้าน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช.ระบุว่า ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ช่วงปลายของสถานการณ์เอลนีโญแล้ว ทำให้ในระยะนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 – 9 พฤษภาคม มีแนวโน้มที่จะมีฝนตกในลักษณะของฝนฟ้าคะนองและเกิดพายุฤดู ร้อนเกิดขึ้นได้ ส่วนใหญ่จะเกิดฝนตกในพื้นที่ภาคเหนือ อีสานและภาคกลางบางส่วน และคาดว่าประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝนในช่วงประมาณสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนนี้



จากเหตุการณ์เกิดพายุฤดูร้อนได้รับผลกระทบสร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ เช่นที่จังหวัดบึงกาฬ เกิดพายุกระหน่ำนานกว่า 30 นาที ทำให้ หลังคาสะพานลอยหล่นปิดถนนทางหลวง สาย 212 บึงกาฬ-หนองคาย ซึ่งเป็นถนนหลัก 12เลน และเกิดเหตุเครนยักษ์ ล้มทับรถ ซึ่งมีคนงานเข้าไปหลบฝนในรถทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน



ที่จังหวัดหนองบัวลำภูเกิดพายุฤดูร้อนมีลูกเห็บตก บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 750 หลังคาเรือน ใน พื้นที่ อำเภอคือศรีบุญเรือง อำเภอโนนสัง อำเภอนากลางและ อำเภอสุวรรณคูหา มีรายงานพบผู้บาดเจ็บ 1 ราย เป็นชายวัย 82 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ลำพัง ที่บ้านส้มป่อยหมู่ที่ 2 ตำบลนาด่าน อำเภอสุวรรณคูหา โดยได้รับบาดเจ็บขณะนอนหลบพายุอยู่ในห้อง แต่ลมที่พัดแรงทำให้ กำแพงอิฐบล็อกที่ใช้กั้นห้อง พังลงทับ เกิดแผลที่ศรีษะ



ขณะที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยข้อมูลโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ สามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติแล้ว หลังได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนถล่ม เมื่อวานนี้



ทำให้กระจกของตึกศัลยกรรมชายและหญิงแตกหลายจุด ฝ้าในห้องพักเจ้าหน้าที่ชำรุด และมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกกระจกบาด หลังคาเปิดน้ำรั่ว ห้อง LAB และห้องไตเทียมฉุกเฉินกระจกแตก โดยจุดที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด จะซ่อมแซมให้เสร็จ ภายใน 1 สัปดาห์



นอกจากนี้ยังมีรายงานพายุฝนพัดถล่ม ในจังหวัดเเพร่ ส่งผลให้ อาคารสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ เสียหาย มีฝนรั่วบริเวณชั้น 3 ห้องทันตกรรม บ้านพักนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดได้รับความเสียหาย รวมทั้งโรงพยาบาลสอง จ.แพร่ ก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน โดยสั่งการให้เร่งซ่อมแซม พร้อมกำชับทุกพื้นที่ให้เตรียมห้องฉุกเฉิน รองรับกรณีประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากพายุฤดูร้อน



ด้านนายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัยรายงาน ข้อมูลผู้เสียชีวิตจากโรคลมแดด หรือ ฮีตสโตรก แล้ว 38 ราย ซึ่งสูงว่าข้อมูลของปี 2566 ทั้งปี ที่มีผู้เสียชีวตรวม 37 ราย พื้นที่ซึ่งพบผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองลงมาคือ ภาคกลางและภาคตะวันตก ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง /ผู้สูงอายุ / มีโรคประจำตัว และผู้ที่ดื่มสุราเป็นประจำ

คุณอาจสนใจ

Related News