เลขาฯ ป.ป.ช. ยอมรับ ได้รับผลกระทบ ปม "บิ๊กโจ๊ก" กล่าวหา คณะกรรมการ ป.ป.ช. วิ่งเต้นตำแหน่ง

เลขาฯ ป.ป.ช. ยอมรับ ได้รับผลกระทบ ปม "บิ๊กโจ๊ก" กล่าวหา คณะกรรมการ ป.ป.ช. วิ่งเต้นตำแหน่ง ส่วนคดีเว็บพนันบิ๊กโจ๊ก อยู่ระหว่างการตรวจสอบ



วันนี้ (3 พ.ค. 67) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีเว็บพนัน BNK Master ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ที่พนักงานสอบสวนได้ยื่นสำนวนต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนมาแล้ว แต่อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะรับสำนวนไว้ดำเนินการเองหรือมอบหมายให้พนักงานสอยสวนไปดำเนินการหรือไม่



เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้ากรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ยื่นเอกสารคัดค้านหนึ่งในคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายนิวัติไชย กล่าวว่า ต้องแยกออกเป็นสองส่วน เรื่องของการดำเนินการของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. แต่เป็นเรื่องของผู้ที่มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนที่จะต้องดําเนินการ



ส่วนที่มีการยื่นคัดค้านไม่ให้มาเข้าร่วมพิจารณาคดีนี้ คณะกรรมการฯ ยังไม่ได้พิจารณาในคดีนี้ แม้มีสำนวนเข้ามาก็ต้องเข้าไปดูว่า ผู้ที่ถูกกล่าวหาจะเข้าร่วมพิจารณาหรือไม่ ยืนยันว่าเรื่องนี้กำลังอยู่ในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ เพราะผู้ถูกกล่าวหา ก็ไม่ได้รับผิดชอบในสำนักงานที่ดูแลคดีนี้ ฉะนั้นคณะกรรมการจะเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็ต่อเมื่อมีการเสนอสำนวนในการตรวจสอบว่ามีมูลหรือไม่ หากมีมูล และไต่สวนก็ต้องเข้าคณะกรรมการเพื่อวินิจฉัยว่าจะชี้มูลหรือไม่ ซึ่งหลังจากนั้นก็ค่อยไปว่ากันอีกทีในเรื่องกระบวนการคัดค้านฯ



อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการกล่าวหาหนึ่งในคณะกรรมการฯ ก็ต้องให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงเหตุผล ว่ามีข้อเท็จจริงตามหนังสือว่าอย่างไร จากนั้นคณะกรรมการฯ จะวินิจฉัยว่า เข้าเหตุคัดค้านหรือไม่ หากเข้าเหตุ ผู้ถูกกล่าวหาก็อาจถอนตัว แต่หากไม่เข้าเหตุ ก็สามารถร่วมพิจารณาได้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม



ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ได้มีการพูดคุยกับคณะกรรมการฯ ที่ถูกกล่าวหาแล้วหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุย เพราะเรื่องอยู่ในขั้นตอนการเสนอของสำนักงาน เมื่อเรื่องยังไม่ถึง เจ้าตัวก็ยังไม่ได้ชี้แจง โดยที่ผ่านมาคณะกรรมการของ ป.ป.ช. ก็เคยถูกกล่าวหาลักษณะนี้เช่นกัน โดยเฉพาะสำนวนที่มีการตั้งคณะกรรมการไต่สวน รวมถึงตน ที่เคยเป็นทั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน หรือคณะกรรมการไต่สวนปัจจุบัน ก็เคยถูกยื่นคัดค้าน ซึ่งเป็นเหตุคัดค้านตามข้อกฎหมาย ก็ต้องมาวินิจฉัยว่ากันเข้าเหตุหรือไม่



เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกมากล่าวหาว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการวิ่งเข้าหานักการเมืองระดับสูง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมถึงความน่าเชื่อถือ ของ ป.ป.ช. นายนิวัติไชย กล่าวว่า ตนไม่รู้จะชี้แจงอย่างไร เพราะตนไม่ใช่หนึ่งในคณะกรรมการฯ และไม่เคยวิ่งเข้าหาใคร ทั้งนี้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เพราะการกล่าวหาทํากันได้ง่าย แต่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง และพูดคุยกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตนก็ตอบไม่ได้ แต่ถามว่ากระทบการทํางานของ ป.ป.ช.หรือไม่ ก็ยอมรับว่า ได้รับกระทบ



ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ร้องชุดพนักงานสอบสวนของตํารวจ 200 นาย ในการทำคดีเว็บพนัน BNK Master มีความคืบหน้าอย่างไรนั้น นายนิวัติไชย กล่าวว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพิ่งส่งเรื่องร้องเข้ามา ก็ขอโอกาสให้ ป.ป.ช. ทำงานนิดนึง ขณะนี้อยู่ในกระบวนการตรวจรับ ยังไม่เข้าสู่ชั้นตรวจสอบ ว่าอยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช.หรือไม่



เมื่อถามว่า หาก ป.ป.ช.รับสํานวน จะเรียกชุดพนักงานสอบสวน 200 นาย มาชี้แจงหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า หากไม่มีความจำเป็น ก็จะไม่เชิญผู้ถูกร้องเข้ามา เว้นแต่เห็นว่ามีข้อเท็จจริงที่จำเป็นต้องเชิญมา เพราะไม่สามารถเอาข้อมูลจากคนอื่นได้ แต่หากมีข้อกฎหมาย หรือข้อเท็จจริงอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเชิญเว้นแต่จะมีการแจ้งข้อกล่าวหา ก็ต้องเชิญเข้ามา ส่วนกังวลที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไล่ร้องเรียนหน่วยงานที่ตรวจสอบหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า จริงๆ มีผลกระทบทั้งหมด แม้กระทั้ง ป.ป.ช. ก็ถือเป็นตำบลกระสุนตก



เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ร้องให้มีการตรวจสอบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีเซ็นคำสั่งให้กลับไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนจะมีการถอนเรื่องดังกล่าวออกไป นายนิวัติไชย กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และการขอข้อมูลจากตำรวจ และได้เชิญบุคคลที่อยู่ในที่ประชุม รวมถึงฝ่ายเลขา มาให้ข้อมูลแล้ว



เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. เคยร้องนายกรัฐมนตรีต่อ ป.ป.ช. เกี่ยวกับการแต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็น ผบ.ตร. นายนิวัติไชย อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และยื่นคําชี้แจง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด หลังจากที่เคยมีการยื่นคําร้องมาแล้ว แต่คณะกรรมการฯ มีมติให้ไปตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งกรณีคําร้องการแต่งตั้งโดยมิชอบ ตาม พ.ร.บ. ตํารวจฯ ก็ต้องดูข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริงในการประชุมว่าเป็นอย่างไร มีเอกสารหลักฐานอะไรบ้างที่ประกอบการพิจารณาของที่ประชุม ก.ตร. ส่วนเรื่องระยะเวลา คิดว่าคงไม่ช้า เชื่อว่า ไม่ได้ช้า แต่กำลังรวบรวมข้อมูลบางประเด็น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย