อาชญากรรม

"ทนายเดชา" เผย ทีมทนายความ "บิ๊กโจ๊ก" แถลง “มีมูลความจริง” แต่ต้องตรวจสอบว่าเงินจากบัญชีม้าเป็นเงินเว็บพนันหรือไม่

โดย kanyapak_w

20 มี.ค. 2567

139 views

ทนายเดชา เผย ทีมทนายความบิ๊กโจ๊กแถลง “มีมูลความจริง” แต่ต้องตรวจสอบว่าเงินจากบัญชีม้าเป็นเงินเว็บพนันหรือไม่ แนะหากต้องการดำเนินคดีให้ไปแจ้งความพร้อมเปิดชื่อเต็ม แต่หากไม่ทำจะถูกมองว่า แฉเพื่อต่อรองคดี ชี้เรื่องนี้เป็น “หนังยาว” แต่ละฝ่ายยังมีความลับรอเปิดเผยกันอีกเยอะ



ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เปิดเผยถึงกรณีที่เมื่อวานนี้ (19 มี.ค. 67) ทีมทนายความของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงข่าวเปิดเผยเส้นทางการเงินที่ไปเชื่อมโยงถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ



ทนายเดชา กล่าวว่า จากข้อมูลที่ตนได้รับจากแหล่งข่าวมา ก็เชื่อว่าสิ่งที่ทีมทนายความของบิ๊กโจ๊กแถลงข่าวเรื่องเส้นทางการเงิน รวมถึงข้อมูลที่พลตำรวจตรีนำเกียรติพูดนั้น มีมูลความจริง แต่อาจจะเป็นบางส่วน เช่น มีเงินจากบัญชีม้าไปเชื่อมโยงถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูงจริง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเงินจากเว็บพนันออนไลน์ เพราะเงินจากบัญชีม้ามันเป็นได้หมด อาจมาจากการฉ้อโกง หรือบางทีก็ใช้บัญชีม้าเป็นบัญชีส่วย ดังนั้น ไม่ใช่ว่าบัญชีม้าเว็บพนันออนไลน์โอนเงินไปให้ใครแล้วต้องมีความผิดนั้นด้วย ต้องไปตรวจสอบแต่ละเส้นทางการเงินก่อน



อย่างไรก็ตาม หากพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ทีมทนายความ และพลตำรวจตรีนำเกียรติ มีความประสงค์ที่จะเปิดโปงข้อมูลเพื่อให้มีการดำเนินคดีจริงๆ ก็ควรที่จะไปแจ้งความร้องทุกข์โดยเปิดเผยชื่อ-นามสกุล จริงไปเลย ไม่ใช่แค่ตัวย่อ เพื่อให้เห็นว่ามีเจตนาต้องการดำเนินคดีกับตำรวจที่ไม่ดี ตำรวจสีเทา แต่หากแค่เปิดเผยแล้วไม่ทำอะไรเลย ก็จะทำให้อีกฝ่ายมองว่า เป็นการเอาข้อมูลมาแฉเพื่อต่อรองเรื่องที่ถูกดำเนินคดีอยู่หรือไม่ โดยทีมงานของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เป็นทีมงานที่มีความสามารถในเรื่องการสืบสวนสอบสวนอยู่แล้ว ดังนั้น หากมั่นใจว่าบุคคลที่เปิดเผยตัวย่อออกมาเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า เว็บพนันออนไลน์ การฟอกเงินจริง ก็ต้องแจ้งความดำเนินคดี ไม่ต้องกลัวที่จะพูดชื่อเต็ม เพราะถ้าเป็นเรื่องจริง ก็ไม่เข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาทอยู่แล้ว



ทั้งนี้ แหล่งข่าวบอกว่า กรณีที่บอกว่าเส้นทางการเงินที่ไปเชื่อมถึงนายตำรวจกว่า 34 เส้นมาจากบัญชีพิมพ์วิไลเพียงบัญชีเดียวนั้น น่าจะไม่เป็นความจริง แต่อาจมาจากหลายบัญชี ประมาณ 5-6 บัญชี



ทนายเดชา บอกอีกว่า ตอนนี้ทั้ง 2 ฝ่าย มีเรื่องฟ้องร้องกันอยู่ และต่างฝ่ายต่างยังมีข้อมูล มีความลับของแต่ละฝ่ายอีกมากที่ยังไม่ได้เปิดเผย ดังนั้น เรื่องนี้เป็น “หนังยาว” เพราะปัจจุบันตำรวจก็ถูกตั้งคำถามว่าไม่ใช่สีขาว เป็นสีเทา กว่าจะมาถึงระดับพลตำรวจเอก ก็คงมีสีเทาติดมาบ้าง ขึ้นอยู่กับว่าเทามากน้อยแค่ไหน แต่ตนเชื่อว่า พอกัน



ส่วนในวันพรุ่งนี้ (21 มี.ค. 67) ที่พนักงานสอบสวนได้นัดให้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ มารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกนั้น ก็ต้องจับตาดูว่าพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์จะมาหรือไม่ โดยตนทราบมาว่า พนักงานสอบสวน จะไปรอที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ตั้งแต่ 10.00 น. หากพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ไม่มา ก็จะไปลงบันทึกที่ สน.เตาปูน เพื่อให้ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 หากยังไม่มาอีกก็ต้องออกหมายจับตามขั้นตอน ซึ่งพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ มีสิทธิในการต่อสู้คดี



แต่เท่าที่ทราบตอนนี้ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ จะไม่เดินทางไปตามหมายเรียก แต่จะไปที่ศาลแทน ซึ่งต้องไปถามเจ้าตัวเองว่าไปไหน ไปทำอะไร หรืออาจจะเปลี่ยนใจไปตามหมายเรียกก็ได้



โดยถ้ามีการแจ้งข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้ว ตามขั้นตอนก็จะต้องมีการรายงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าตำรวจต้องคดีอาญา ซึ่งอาจมีคำสั่งให้พักราชการ หรือจะวห้รอผลคดีอาญา สั่งย้ายเข้า ศปก. ก่อนก็ได้ทั้งหมด




คุณอาจสนใจ

Related News