เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 18 มี.ค.67 เศรษฐารับมีโอกาสลงพื้นที่คู่ทักษิณ-ฝรั่งแย่งปืนตำรวจ-ครูเก็บเงินแก้ติด ร

1.ระทึก 2 นทท.ต่างชาติ แย่งปืน-ทำร้ายตำรวจเจ็บ

2.แฉครูเรียกเก็บเงินค่าแก้ติด ร โซเชียลแห่ถล่ม ครูโพสต์ขอโทษ อ้างเข้าใจผิด

3.รวบเฒ่าตาบอด ลวงเด็ก 12 ข่มขืน แต่เด็กสู้เลยรอด

4.ปอศ.บุกจับกางเกงช้างหนีภาษีกว่า 3 หมื่นตัว

5.ไรเดอร์คลั่ง เสียมตีหัวเจ้าอาวาสไม่ยั้ง มรณภาพสลด

6.รัฐบาลสั่งสอบปม บก.ลายจุด กล่าวหาผู้ว่าฯ ดับไฟป่า-งบเงินทอน



เรื่องเล่าการเมือง

-เศรษฐา ย้ำไม่กังวลข้อวิจารณ์ นายกฯหลายคน รับมีโอกาสลงพื้นที่คู่ทักษิณ

ไฮไลท์การเมือง ยังเป็นประเด็นสืบเนื่องจากการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ของนายกฯที่ไปพบอดีตนายกฯทักษิณด้วย เมื่อวาน นายกฯ เศรษฐา ก็ยอมรับว่า มีโอกาสที่ประชาชนจะได้เห็นภาพลงพื้นที่คู่กับนายทักษิณ รวมทั้งย้ำว่าไม่กังวลเสียงครหาเรื่องนายกฯหลายคน

เมื่อวานนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ยังคงลงพื้นที่อยู่ที่ จ.เชียงใหม่ และช่วงบ่ายท่านก็ไปที่ จ.ลำพูน ด้วย เมื่อวานนายกฯ บอกว่า หลังจากนี้ไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม มีความตั้งใจที่จะลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีกำหนดการเดินทางไปต่างประเทศเลย

นักข่าวถามว่าจะได้เห็นภาพการลงพื้นที่คู่กับอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ นายกฯ ก็ยอมรับว่า มีโอกาสอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้นัดกัน เมื่อถามว่า ไม่สนเรื่องภาพว่าจะเป็นนายกฯทับซ้อนหรือ นายกฯส่ายศีรษะ และยืนยันว่า ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้

ถามว่าจะขจัดคำวิจารณ์เรื่องนายกสองคน ได้อย่างไร นายกฯ บอกว่า ไม่มีความคิดถึงที่จะขจัด จะมีเท่าใดไม่ได้ใส่ใจตรงนี้ เพราะไม่ใช่การทุจริต และทุกคนสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ เมื่อมีคนสนใจตนก็มีหน้าที่ต้องตอบ ย้ำว่า เรื่องนี้ไม่ได้บั่นทอนกำลังใจในการทำงาน และไม่ได้รำคาญที่จะตอบ ยืนยันว่าอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินอยู่ที่ตนคนเดียว

ทั้งนี้ช่วงเย็นเมื่อวาน นายกฯ ได้เดินทางไปติดตามประเด็นเรื่องการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และยกระดับสินค้า Soft Power ณ คลองแม่ข่า ตำบลหายยา อำเภอเมืองเชียงใหม่ ที่อดีตนายกฯทักษิณไปเมื่อวันก่อน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีมวลชนเสื้อแดงเชียงใหม่ มารอให้การต้อนรับ มอบดอกไม้และตะโกนให้กำลังใจ

ช่วงหนึ่ง มีประชาชนตะโกนถามนายกรัฐมนตรีว่า 10,000 บาทยังได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ก็กล่าวตอบว่า "ได้ครับ ได้ครับ ใจเย็นๆ คอยก่อน"



-พิธา ค้านทักษิณ ชี้เศรษฐกิจไทยเหมือนวิกฤติต้มยำกุ้ง เตือนจ่ายยาผิด

ขณะที่ นายพิธา ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่เชียงใหม่ แสดงความไม่เห็นด้วย ที่นายทักษิณ บอกขณะนี้เศรษฐกิจไทยวิกฤตหนักกว่าต้มยำกุ้ง เตือนจ่ายยาผิด แนะรัฐบาลออกโร้ดแมป จะได้วิพากษ์ได้มากกว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้ความเห็นกรณีอดีตนายกฯทักษิณ ระบุว่าวิกฤติของประเทศไทยตอนนี้หนักกว่าวิกฤตต้มยำกุ้ง เมื่อปี 2540 จะเป็นตัวเร่งให้รัฐบาลเร่งผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ทเร็วขึ้นหรือไม่ โดย นายพิธา กล่าวว่า คำว่าเศรษฐกิจไม่ดีมีหลายระดับ ตั้งแต่เศรษฐกิจซึม จนถึงเศรษฐกิจแบบวิกฤต เช่น เหตุการณ์ต้มยำกุ้ง วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ หรือวิกฤตโควิด

ยอมรับว่า ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดีจริง โตช้าจริง แต่สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาโครงสร้างทั้งหมด ไม่ใช่ว่าวิกฤตแล้วเศรษฐกิจหายไป 20% หรือตลาดหุ้น หรือ ค่าเงินหายไปเกินครึ่งเหมือนตอนวิกฤตต้มยำกุ้ง พอสถานการณ์ไม่เหมือนกัน แต่ไปบอกว่าเหมือนกัน ก็จะจ่ายยาผิดทันที



-พิธา จี้ถามนายกฯ ทำไมไม่ประกาศ เชียงใหม่เป็นพื้นที่ภัยพิบัติ

ยังมีอีกประเด็นที่นายพิธา ตอบโต้กับทางนายกฯ คือ เรื่องแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่วันก่อนนายกฯบอกมีอะไรให้ฝากมา นายพิธา บอก ฝากไม่ได้ถ้ารัฐบาลยังไม่มีไทม์ไลน์ในการแก้ปัญหา และจี้ถาม ทำไมไม่ประกาศเชียงใหม่เป็นพื้นที่ภัยพิบัติ แก้ PM2.5

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่นของรัฐบาล ที่นายกฯเศรษฐา บอกว่ามีอะไรจะฝากก็ให้ฝากไปได้ จึงอยากใช้โอกาสนี้ สอบถามไทม์ไลน์ในการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษของรัฐบาล ถ้ามีไทม์ไลน์ออกมา ฝ่ายค้านอย่างพวกตนจึงสามารถฝากได้ เพราะถ้าไม่มีไทม์ไลน์มาให้ ก็ไม่รู้จะฝากอย่างไร

นายพิธา กล่าวฝากถึงนายกฯ ว่า ตอนนี้มันสายเกินป้องกันแล้ว คงต้องไปดูว่าสิ่งสำคัญที่อยู่ในภาวะฉุกเฉินแบบนี้ เช่น หน้ากาก N95 เครื่องฟอกอากาศราคาถูกที่ชาวบ้านเข้าถึงได้ การเพิ่มสรรพกำลังของคนที่มาช่วยในการดับไฟป่า และฝากให้นายกฯรัฐมนตรีลองดูว่าทำไมผู้ว่าราชการจังหวัดถึงไม่ประกาศให้เชียงใหม่เป็นพื้นที่ฉุกเฉินทั้งที่ปัญหามีความรุนแรงระดับโลก

ส่วนการลงพื้นที่ของนายพิธา ที่ทางรัฐบาลระบุว่าเป็นการรบกวนคนหน้างาน หรือมีการใช้คำว่ามือไม่พายเอาเท้าราน้ำ นายพิธา ระบุว่า 10 ปากว่าไม่เท่าตาเห็น และบอกว่า อาจจะเกะกะเล็กน้อย แต่เชื่อว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่จะได้รับกลับไป คุ้มค่าแน่นอน



-นายกฯ แจง ไม่ประกาศเชียงใหม่ พื้นที่ภัยพิบัติ หวั่นกระทบท่องเที่ยว

ขณะที่ นายกฯ ยืนยัน ยังไม่จำเป็นต้องประกาศ "เชียงใหม่" เป็นพื้นที่ภัยพิบัติ หลังปัญหา PM2.5 ติดอันดับโลก และยอมรับว่า เกรงว่าจะกระทบกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีที่นายพิธา เรียกร้อง ที่จะให้มีการเปิดไทม์ไลน์ถึงมาตรการเพื่อที่จะให้คนในพื้นที่ได้เตรียมพร้อมรับมือ และทางฝ่ายค้านจึงจะฝากเรื่องมาได้ว่า เจ้าหน้าที่ก็มีการทำงานกันอย่างเคร่งครัด

ส่วนที่นายพิธาลิ้ม ตั้งคำถามว่า ทำไมพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มีปัญหาฝุ่น PM 2.5 ติดอันดับโลก แต่ไม่มีการประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ เพื่อที่จะได้อนุมัติงบลงมาแก้ไขปัญหา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า งบเราก็มีให้อยู่แล้ว เรื่องนี้เราก็ทำอยู่แล้ว พร้อมระบุว่ายังไม่จำเป็นที่จะต้องประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ และรัฐบาลก็ให้งบกลางมากกว่างบฉุกเฉิน

หลังจากนั้น นายกฯ ได้โพสต์ผ่านแอปพลิเคชั่น X อธิบายถึงสาเหตุที่ไม่ประกาศให้เชียงใหม่เป็นพื้นที่ภัยพิบัติ โดยยอมรับว่า "เกรงว่าหากประกาศจะส่งผลทางลบมากกว่า เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้นคือ จะกระทบกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เพิ่งฟื้นตัวหลังจากผลกระทบโควิด-19 เพราะนักท่องเที่ยวที่ซื้อประกันมาจากบ้านเขา หากเข้ามาท่องเที่ยวในเขตภัยพิบัติ หรือพื้นที่ฉุกเฉิน ประกันจะไม่คุ้มครองทันที แน่นอนว่า จ.เชียงใหม่จะเสียนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจมาเที่ยวทั้งระยะสั้น และระยะยาว เราเป็นห่วงกันตรงนี้ครับ"

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/fankQYV3pf8